ช่วงหนึ่งถึงสองปีที่ผ่านมา
หนึ่งในกลยุทธ์สู้ศึกสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Android ของค่าย Samsung
นั่นคือ การมีสินค้าเคโนโลยีที่ตอบสนองในทุกกลุ่มผู้ใช้งาน ทุกงบประมาณ
และนี่ก็คือขุนศึกตัวล่าสุดจาก Samsung ส่งมาสู้ศึกสมาร์ทโฟนในตลาดกลาง
นั่นคือ Samsung Galaxy S Advance
หลายคนคงปฎิเสธไม่ได้ว่า การมีอยู่ของ Samsung Galaxy S รุ่นแรก ที่เป็นรุ่นเรือธงครั้งกระโน้น
ได้สร้างแรงกระเพื่อให้กับตลาดสมาร์ทโฟนไปพอสมควร
เราก็เลยได้เห็นตระกูล Galaxy S รุ่นยิบย่อยทยอยคลอดตามมากัน
และเพื่อเป็นการเสริมทัพตลาดสำหรับเครื่องรุ่นกลางของค่าย Samsung
ที่เคยวางไว้ตอนที่มี Samsung Galaxy S
แบบไม่ต้องรอรุ่นใหญ่ตกรุ่นถึงเป็นเจ้าของได้
เราจึงได้เห็น Samsung Galaxy S Advance ลงมาเป็นอีกตัวเลือกในตลาด
มาดูกันคร่าวๆว่า Samsung Galaxy S Advance หลักๆถูกใส่อะไรเข้ามาในเครื่องบ้าง
– Android 2.3 Gingerbread
– CPU แบบ Dual-Core 1GHZ
– หน้าจอขนาด 4 นิ้ว WVGA
– จอภาพแบบ Super Amoled
– เน็ตเวิร์ค : 850/900/1900/2100
– การเชื่อมต่อ : Bluetooth ,WiFi 802.11 a/b/g/n
ด้านหน้าเครื่องปุ่มเป็นสัมผัส
ปุ่มเรีคำสั่ง และ ปุ่มย้อนกลับ เป็นไฟวิ้งๆ สีขาวตอนอยู่ที่มืดก็มองเห็นได้ถนัดชัดดี
ส่วนปุ่ม Home ก็หน้าตาเหมือน Samsung รุ่นพี่ๆ แต่ที่ตัดไปก็ปุ่ม Search
กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash
อ่อ…มี Auto Focus ด้วยนะครับ
ลองแงะดูฝาหลังของ Samsung Galaxy S Advance ซะหน่อย
ในเครื่องรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ขนาด 1500 mAh
ด้วยขนาดตัวเครื่องเครื่องเล็กลงมาจาก Galaxy S II แบบรู้สึกได้
ฉะนั้นด้วยแบตเตอรี่ขนาด1500 mAh ที่ติดตัวทำให้ Sasmung Galaxy S Advance
สามารถจัดการเรื่องพลังงานได้แบบใช้งานอย่างสบายๆ
ไม่ต้องใจหายหงายคว่ำมันจะซดแบตฮวบๆ
หรือว่าจะทิ้งให้เราไปกินข้าวแกงลิงที่ไหนเพราะใช้งานได้ไม่ถึงวัน
ดีไซน์ที่แปลกไปจากตระกูล Galaxy S รุ่นก่อนหน้านี้ คือ รุ่นก่อนจะเป็นแบบแท่งเหลี่ยมตรงๆ ทื่อๆ
แต่ Samsung Galaxy S Advance จะมีความโค้งมน และด้านท้ายของตัวเครื่องจะหนาๆ เชิดๆ นิดนึง
ลองดูด้นข้าง จะเห็นว่ามีความโค้งมนลงมาเล็กน้อย
คล้ายกับรุ่นพี่ตระกูล Nexus แต่จะโค้งไม่มากเท่า
ฝาหลังของ Samsung กับความยืดหยุ่นจนดูเป็นเครื่องหมายการค้ากันไปแล้วนั้น
ใน Samsung Galaxy S Advace รุ่นนี้ก็ทำได้ประมาณนึง
คือโคงงอกันได้ประมาณนี้
ถึงฝาหลังฝาหลังอาจจะไม่บาง โค้งได้ไม่เยอะเหมือนรุ่นพี่
แต่รับรองว่าเหนียว…เพราะผมทำหล่นมาแล้วแบบไม่ตั้งใจ
ถ้าใครรู้สึกว่า Samsung Galaxy S II ตัวใหญ่จับไม่ถนัด
มาลองดู Samsung Galaxy S Advance ครับ
ขนาดมันเข้ามือมาก ส่วนเรื่องของหน้าจอนั้นเป็นแบบ Super Amoled
ยังคงให้สีที่แสบสะท้านให้สีที่ แสบสะท้านไส้เหมือนรุ่นใหญ่
ด้วย CPU ที่ให้มา เมื่อทดสอบลองเล่นเกมแบบ 3 มิติ
ก็เล่นเกมได้สบายๆครับ ดูได้จากภาพในวิดีโอนี้ครับ
แอพลิเคชั่นคู่บุญทั้งหลายของ Samsung ยังใส่มาให้เต็มเหยียด
รุ่นพี่อย่าง Samsung Galaxy S II ใส่มาให้ยังไง ข้างใน Samsung Galaxy S Advance
อย่างน้อยก็ยืดอกพกได้ว่า ถึงจ่ายน้อยกว่า ก็มีมาให้ใช้ไม่ได้น้อยหน้ากว่ากัน
แอพลิเคชั่นคู่บุญที่ว่าก็อย่าง Socail Hub ,All Share ,Photo Editor , Mini Diary ,Polaris Office
,Downloads, News & Weather ,Task Manager ,Game Hub นั่นยังมากันครบ
แต่แอพลิเคชั่นที่น่าสนใจ คือ ที่แนะนำ ก็คือ Kies Air Online
ความสามารถของแอพลิเคชั่น คือ ให้คุณเชื่อมต่อ Samsung Galaxy S Advance
กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้แบบไร้สาย แถมไม่ต้องติดตั้งแอพลิเคชั่นลงที่แอพลิเคชั่นด้วย
การใช่้งาน Kies Air Online ไม่มีอะไรยากครับ คือคอมพิวเตอร์ของคุณต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย WiFi
แนะนำลองกับ WiFi ในบ้านน่ะง่ายที่สุด แล้วตัวโทรศํพท์ก็ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย WiFi ในวงเดียวกัน
จากนั้นคุณก็แค่เปิด Kies Air Online บน Samsung Galaxy S Advance
แล้วคีย์ URL ที่ปรากฎบนเว็บบราวเซอร์ที่คุณใช้อยู่
นั้นแอพลิเคชั่นจะถามว่า จะอนุฐาติให้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้เข้าสู่ข้อมูลในโทรศัพท์ได้หรือไม่
แล้วคุณก็ด Allow ไปครับ พอเชื่อมต่อกันสำเร้็จที่โทรศํพท์
ก็จะมี Authorized Device โผล่ขึ้นมาเป็นเสร็จพิธี ว่ามีการเชื่อมต่อกันเรียบร้อย
พอมาดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็จะเห็นว่ามีหน้าจอแอพลิเคชั่นที่ทำการเชื่อมต่อกับโทรศํพท์รอเราอยู่แล้ว
สื่งที่จัดการผ่าน Kies Arir Online ก็มีตั้งแต่ เพลง วิดีโอ รูปถ่าย
เสียงเรียกเข้า บุ๊คมาร์ค ข้อความ บันทึกการใช้ รายชื่อ ปฎิทิน หรือแม้กระทั่งการเข้าถึงไฟล์ที่ด้านในเครื่อง
ทั้งหมดนี้ เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดอะไรลงมาติดตั้งทั้งสิ้น รวมถึงไม่ต้องมาวุ่นวายในการใช้สายดาต้าด้วย
ใช้งานจริงสะดวกมาก แต่ถ้าเคลื่อนย้ายกับไฟล์ใหญ่ๆ อาจจะต้องรอนิดนึง
เพราะการส่งข้อมูลผ่าน WiFi มันช้ากว่าแบบใช้สาย
มาดูคุณสมบัติเรื่องกล้องกันบ้าง
Samsung Galaxy S Advance กับการถ่ายภาพมีมาให้ในระดับพื้นฐาน
Shooting Mode จะมี Single shot , Smile Shot ,Panorama ,Action Shot , Cartoon
ส่วน Scene Mode จะมี Dawn ,Fall Color ,Firework ,Text, Candlelight ,Backlight
มาดูภาพถ่ายกัน ว่า Samsung Galaxy S Advance ยังจะรักษาคุณภาพเรื่องกล้องได้มั้ย
ส่วนตัวพอใจในเรื่องการให้สีสดๆแบบ Samsung ยังมีมาครบถ้วน
มาดูการถ่ายด้วยกล้องหน้าของ Samsung Galaxy S Advance บ้าง
แต่จุดขัดใจใช่ว่าจะไม่มี
ออกตัวก่อนนะครับว่า.. Samsung Galaxy S Advance ที่อยู่ในมือผมเครื่องนี้เป็นเครื่องทดสอบนะครับ
คือการทำงานของชัตเตอร์มันช้าครับ ถ้าเอาไปถ่ายเพื่ิอน ถ่ายอาหาร ถ่ายสิ่งของที่อยู่นิ่งๆ
ก็รอกันอยู่หนึ่งอึดใจ ทำเวลาได้ไม่น่าเกลียดนัก
แต่ถ่าจะเอาไปถ่ายคอนเสิร์ต เอาไปถ่ายอะไรที่มีการเคลื่อนไหว
หรือถ่ายที่ต้องการความปรู๊ดปร๊าดทันใจ ก็อยากจะบอกว่าเขยิบไปเล่นตัวใหญ่เหอะ
แต่ถึงกระนั้นเมื่อตอนที่เจอคนของ Samsung เขาก็ดูเหมือนรนว่ารับทราบปัญหานี้อยู่
และมีการแจ้งกลับมาว่าได้มีการแก้ไขเรื่องนี้ในซอฟท์แวร์ใหม่
ซึ่งในเครื่องที่มีการจำหน่ายจริง ก็ต้องลองดูกันอีกครั้งนะครับ
หลังจากใช้ชีวิตกับ Samsung Galaxy S Advance มาร่วมๆสองสัปดาห์
คือถ้ามันเป็นรถ ผมว่ามันก็คงเป็นพวก ECO Car ทีคันใหญ่หน่อย
คล้ายๆยี่ห้อที่มีหล่อขั้นเทพเป็นพรีเซนเตอร์
คือ Samsung Galaxy S Advance
หน้าตาโอเค คุณสมบัติพอไปได้ ใช้พลังงานไม่เยอะ ราคาไม่แรง
เหมาะกับคนที่รู้ว่าจะเอาไปใช้งานทั่วไปแบบกลางๆ
สนนราคายังไม่เคาะออกมา แต่ไม่น่าจะถึงหมื่นห้า
กลางเดือนมีนาคม 2555 น่าจะมีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ
ถ้าคุณเป็นคนมองรุ่น Android รุ่นใกล้แตะหมื่น อยากลองพิจารณาตัวนี้ดูเก็บเงินเพิ่มอีกนิด
ชีวิตคุณจะหายใจโล่งขึ้นเยอะจริงๆนะ อย่างน้อยก็ไม่ขัดใจในเรื่องจอหยาบ
และ การประมวลผลที่ทันใจมากขึ้น แถมได้จอสีแสบสะท้านทรวงแบบ Super Amoled ด้วย
ขอบคุณ Samsung Thailand ที่เอื้อเฟื้อเครื่องในการทดสอบครับ