Samsung เคยบอกกับชาว Smart Phone ว่ามีแผนที่จะทำเครื่องรองรับ OS หลักๆบนโลกใบนี้
และตอนนี้ก็ถึงนาทีของ Windows Phone 8 รุ่นแรกอย่าง Ativ S
ตัวเครื่องของ Ativ S มากับ CPU 1.5 Ghz Dual-Core
หน่วยความจำภายใน 16GB Ram 1GB
แต่ตัว OS ของ Windows Phones8
มันก็ลื่นหัวแตกมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วล่ะครับ
อ่อ..ปุ่มกด Home เป็น Hard Button ซึ่งแปลกกว่าค่ายอื่นนิดหน่อย
ปุ่มที่เห็นเป็นสีเงินๆนะครับ ไม่ได้เป็นแบบฝังมุกโต๊ะโบราณนะ
พูดถึงเรื่องการออกแบบก่อน
หลังจากที่เราได้เห็นรูปร่างหน้าของ Ativ S ตามเว็บต่างประเทศ
หลายคนก็คงรู้สึกแบบเดียวกันกับที่เห็น Galaxy S3 คือมันถ่ายรูปไม่ขึ้นจริงๆ
มันสุดแสนจะเป็น Geek Phone มาก
เรื่องของการออกแบบนั้น Ativ S เป็นแบบ Mettalic Design
เส้นริ้วที่ฝาหลังแบบแนวเส้นผม ตัววัสดุก็เหมือน Galaxy S3 หรือ Note2 นั่นล่ะ
การตัดขอบข้างสีเงินนั่นหาใช่โลหะไม่
นั่นคือจุดที่เราเสียดายนิดหน่อย
ไม่งั้นมันจะดูหรูหราขึ้นมาอีกนิดหมือนกัน หรือ Samsung จะกลัวไฟดูดตอนชาร์จเครื่องก็ไม่รู้
ตอนผมจับครั้งแรกก็ยังไม่ถึงกับว้าวแบบตอน Galaxy S3 หรือ Note2 เท่าไหร่ คืออันนั้นมันวางไม่ลงจริงๆ
แต่พอไปถึงในงานเลี้ยงที่ไฟเพดานตกกระทบเท่านั้นล่ะ
ถึงจะเข้าใจแนวคิดในการออกแบบ Ativ S
คือมันเครื่องจะดูวิบวับสะท้อนกับไฟโดดเด่น แบบเรียบหรูดูแพงมากขึ้น
กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แบบ Auto Focus พร้อม LED Flash
สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Full HD
กล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล
พูดถึงเรื่องการรองรับเน็ตเวิร์คนิดนึง Ativ S ใช้ 3G ในไทยได้แบบไม่ต้องแบ่งค่ายแล้วนะครับ
โดยรองกรับ HSPA+ 42 Mbps ที่850/900/1900/2100 MHz
และEdge/GPRS 850/900/1800/1900
เรื่องการเชื่อมต่อนั้น รองรับ Blutooth 3.0 , USB 2.0 มWi-Fi 802.11 a/b/g/n (2.4 และ 5 GHz)
Wifi-Direct ,NFC พูดถึง NFC ซะหน่อย การโยนข้าม Platfrom ไปยัง Android นั้น คงต้องทำใจกันกับมันนิดนึง
จากที่ทดสอบคือมันโยนได้แค่บางอย่างอย่างเช่น URL บน Web Browser
ถ้าจะส่งรูปใช้ E-Mail บนนี้ไวกว่าเยอะเลย
สิ่งที่เป็นจุดต่างทางการออกแบบเมื่อเทียบกับ Windows Phone 8 ตัวอื่นในตลาดคือ
ความบางของ Ativ S ที่บางเพียง 8.7 มิลลิเมตร
แผงลำโพงที่ตอนแรกเห็นเป็นรูยาวๆนั่น พอเปิดไส้ในลำโพงเป็น Mono วางตัวไว้กระจุก
แหม่ ออกแบบซะเรานึกว่าจะทำมาเป็น Stereo เลย
แบตเตอรี่ที่ Ativ S ให้มานั้นใหญ่สะใจกว่าเพื่อนบ้านคือ 2,300 mAH
ส่วนหน่วยความจำในตัวก็ 16 GB และเพิ่มเองได้อีกผ่าน mico SD อยูที่ 64GB (รองรับ SDXC)
และ Sim Card ที่ใช้เป็น Micro Sim ซึ่งรุ่นเรือธงทั้งหลาย
ก็เปลี่ยนเป็นซิมจริงๆก็เหมือนแบบนี้กันไปเยอะแล้ว
จอของ Ativ S มีขนาด 4.8 นิ้วแบบ HD Super Amoled
พูดถึงการเอาไว้ดูข้อมูล Samsung อาจจะมองว่ากลุ่มเป้าหมาย
คงนั่งอยู่ในตึก ในห้องแอร์เป็นสำนักงานดีๆหน่อย
ผมเลยอุตริทำสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามคือ เอาไปดูกลางแดดเที่ยงๆมันซะเลย
ผลที่ได้คือ โอเค..Ativ S จอไม่แพ้แดด ดูข้อมูลได้สบายๆ
พูดถึงเรื่องจอ จากที่เราลองวางเทียบกันสามค่าย
ค่ายลูกหม้อสีสันจัดจ้านตามดีไซน์ ขณะที่ Ativ s ให้สีกลางๆหน่อย ตามแนวคิดเครื่อง
และค่ายไต้หวันสีจะตุ่นๆหน่อย
ผมเชื่อว่ามี 2 เรื่องที่หลายคนคาใจอยู่ ก่อนที่จะย้ายมา Windows Phone 8
โดยเรื่องนั่นคือ เรื่องของแป้นพิมพ์ภาษาไทย
แน่นอนล่ะครับ ว่าใน Windows Phone 8 มีติดมาให้กันทุกเครื่อง
คำถามข้อที่ 2 ถ้าจะซื้อ Windows Phone8 มาใช้งานชุด Office ล่ะ
ชุด Microdoft Office มันเป็นสิ่งที่ติดมากับ Windows Phone อยู่แล้ว
โดยสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมคือ ตอนนี้โทรศัพท์ของแต่ละคนจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา
ฉะนั้นนอกจากการเรียกดูไฟล์บนเครื่องแล้ว
ก็ยังสามารถเลือกจาก SkyDrive เลือก0kd Office 365 หรือว่าเลือกจาก E-Mail
หรือถ้าจะสร้างใหม่ ที่รองรับจริงๆก็จะเป็นพวกเอกสาร อย่าง Word หรือว่า Exel
โดยมี Template มาให้นิดนึง
ในตัวอย่างนี้ผมมีไฟล์ที่บันทึกไว้ SkyDrive ก็เปิดมาแก้ไขบนโทรศัพท์ได้ สายๆครับ
มาดูเรื่องของ software กันบ้าง
แอพลูกหม้อของ Samsung อย่าง Chat On หรือ Family Story ลอยเท้งเต้งอยูที่ Tile หน้าแรกอยู่แล้ว
รายละเอียดของ 2 แอพนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะ Chat On ก็คงรู้จักกันอยู่แล้ว
ส่วน Family Story เอาไว้ Samsung ส่ง Samart TV มาให้ร่วมทดสอบก่อนค่อยว่ากัน..ฮ่า
เพราะ Family Story มันต้องมีอุปกรณ์หลายตัวของ Samsung มาใช้ร่วมกันมันถึงจะเห็นผล
ซึ่งล่าสุดเห็นถูกใส่ลงมาอยู่ใน Samrt TV รุ่นกลางๆ อย่าง 32 นิ้วแล้ว คงตั้งใจผลักดันให้แจ้งเกิดกันเต็มที่
กลับมาที่เรื่องแอพกันต่อคือ ถ้าใครหวังการมีสารพัดแอพยัดแถมมาให้แบบนั้นอาจจะได้อกหักเป๊าะใหญ่
แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า Windows Phone 8 มันมีหลายอย่างที่จำเป็นต้องมีมาให้แล้ว เช่น บ้างอะไรล่ะ
การเชื่อมต่อกับ Twitter กับ Facebook ก็มีให้ในตัว อย่างน้อยก็ขั้นพื้นฐานล่ะนะ
อยากใช้ Cloud Storage ก็มีให้ Sky Drive ก็มีมาให้ในตัว
แต่ถ้าคิดว่ายังอยากจะเอาอะไรอีก..พลิกไปที่ Store ครับ จะเห็นหัวข้อ Samsung Zone
ซึ่งมีแอพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย ซึ่งจริงๆพวกนี้มันก็ติดเครื่องมาอยู่แล้ว
มาเริ่มที่ตัวแรกก่อน อย่างน้อยมันก็ทำให้ความแข็งกระด้างของตัวเครื่อง Ativ S ดูอ่อนโยนขึ้นมานิดนึง
นั่นคือแอพ Mini Diary
การออกแบบของ Mini Diary ก็สมชือเลย ทำให้นึกถึงตอนเรายังซื้อไดอารี่เป็นเล่มๆ
ก่ารทำงานก็เป็นบันทึกแบบทั่วไปนั่นล่ะครับ คือบันทึกด้วยรูป ด้วยเสียง หรือว่าเขียนเอา
วิธีการสร้างหน้าไดอารี่ ไม่มีอะไรยาก กดที่ปุ่มบวก ใส่รูปใส่สถานที่ซึ่งเอาจากพิกัด GPS
ส่วนรายละเอียดจะพิพม์ หรือจะใส่เสียงก็เอาแต่ตามใจ
ส่วนการเขียนนั้นเป็นการลากเส้นธรรมดาทั่วไปครับ
ไม่ได้มีหัวปากกา 7 สีมณี 7 แสงแบบ ตระกูล Note
ส่วนการเลือกดูไอดารี่เก่าๆ ก็เลือกดูได้จากสถานที่ หรือดูเอาจากวันเวลาที่บันทึก
แอพลิเคชั่นตัวที่สองคือ Now
การทำงานก็ตามชื่อครับ คือสรุปเหตุการณ์ ณ บัดนั้นของแต่ละวัน
อย่างการพยากรณ์อากาศที่ใช้ฐานข้อมูลจาก AccuWeather
ซึ่งถ้าต้องการดูรายละเอียดลึกๆ ก็มีการเชื่อมโยงไปที่ Mobile Site ของ AccuWeather
ส่วนเรื่องของการดึง Feed ข่าวหรือว่าข้อมูลการลงทุนนั้นจะเป็นฐานข้อมูลจาก Yahoo!
อัตราแลกเปลี่ยน ที่ เลือกดูได้ 4 สุกลเงิน ซึ่งเราสามารถตั้งเปลี่ยนเองได้
คือ Now เนี่ยทมีหน้าจอแสดงผลแค่ 3 อัน จากทั้งหมด
ฉะนั้นต้องเลือกปิดเลือกเปิดนะครับ
มาดูแอพแนะนำตัวสุดท้ายอย่าง Photo
แอพ Photo ของ Samsung ที่แถมมานั้น ก็เอาไว้ใช้แต่งภาพขึ้นพื้นฐาน
อย่าเรื่องการแก้ไขไขสภาพแสงของภาพ ปรับความเข้มของสีภาพถ่าย
ถึงกล้อง Windows Phone จะไม่มีลูกเล่นอะไรจุ๊กจิ๊ก ก็เอามาแต่ Effect ในนี้เอาละกัน
ถ้าอยากเล่น Collage แบบที่เค้าฮิตๆกัน ก็โอเคมีมาให้
มาพูดถึงกล้องกันบ้าง
เรื่องของการถ่ายภาพ Ativ S ไม่มีอะไรแปลกประหลาดไปกว่า Window Phones 8 ตัวอื่นที่ขายก่อนหน้า
ถึงกล้องของ Ativ S จะไม่ได้ดีสุดโต่ง ชนิดสวมวิญญาณแว้นสก๊อยนั่งมอเตอร์ไซค์ถ่ายได้โดยไม่สั่น
หรือว่าถ่ายที่มืดกระจ่างชนิดเห็นผีได้เป็นตนๆแบบแบรนด์ลูกหม้อ
แต่การถ่ายรูปทั่วไป อันนี้เราเคยลองจิ้มพร้อม Ativ S กับแบรนด์ลูกหม้อ
ถ้าถ่ายทั่วไปแล้วดูด้วยตาเปล่าคุณภาพไม่หนีกันมาก
แต่ความไวในการ Ativ S ไว้กว่าแบบเฉือนนิดๆ
ก็ไวจนแบบหลายคนร้อง เฮ้ย…ถ่ายแล้วเรอะ
ลองดูตัวอย่างภาพถ่ายจาก Ativ S ก่อนครับ
ถ้าจะดูรูปแบบเต็มๆ หรือดูเพิ่มกดดูที่ Fanpage นะครับ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.395163803891832.91044.141369745937907&type=3
ถ้าอ่านมาจนจบ คิดว่าคงเห็นบุคลิคของโทรศัพท์เครื่องนี้แบบคร่าวๆ แล้วนะครับ
ก็สรุปซักที
เรื่องดีไซน์นี่สำหรับผมนะ ดูเหมือนเอา Galaxy S3 หรือ Note2 มาใส่เครื่องปั่น
แล้วได้ออกมาเป็น Ativ S คือไม่หนีกันเท่าไหร่ และดูออกจะแปลกๆ
แต่นี่มันเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัวของผู้เขียนนะครับ
คือการออกแบบของ Galaxy S3 หรือ Note2 นั่นมันที่สุดของปีนี้แล้ว
ฉะนั้นทำให้ฉีกกรอบไปมากกว่านี้ ผมเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน
แต่ก็นั่นล่ะเรื่องความงามมันเป็นเรื่องของรสนิยม เพราะคนรอบข้างผมที่ได้ลองจับแล้วชอบมันก็มี
คนนึงชอบดีไซน์ริ้วๆ แบบ Galaxy S3
คนนึงเป็นเอนจิเนียร์ที่เลยออกปากว่าชอบในความเรียบหรูของ Ativ S
ถึงรูปร่างอาจจะไม่ถูกจริตไปบ้างในสายตาผม แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการถือนานๆ การถือแล้วเข้ามือ
Ativ S มันมีดีที่ความบาง ความเบา และยังถือถนัดมือเยอะมาก
คือถ้ามีโทรศัพท์ไว้ถือแบบอ่านข้อมูลน่ะ มันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
ส่วนเรื่องการ modify คงคิดเปรียบเทียบกับ Android ไม่ได้
เพราะระบบนั้นเขาเปิดกว้างค่อนข้างจะเยอะกว่ามาก
ซึ่งนั่นต้องไปถามที่ Microsoft เอาเอง
ส่วนเรื่องแอพนั้นเข้าใจว่าเป็นเครื่องชิมลางของ Samsung
ทุกอย่างก็เลยออกมากลางๆไว้ก่อน
ครั้นจะทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดโดยยังไม่เห็นฝั่ง ก็ยั้งไว้ก่อนน่าจะดีกว่า
แต่ในบรรดาที่แถมมาผมชอบ mini diary มากว่าเพื่อนนะ
คืออยากบอก Samsung ว่า เค้าทำแอพในสิ่งที่ขาด ได้ดีกว่าทำในสิ่งที่ต้องแข่งกับชาวบ้านนะ
หรืออีกเหตุผลนึงคือ ผมเดาเอาเองนะว่า
เขาคงมีการกำหนดจุดยืนทางการตลาด หรือลักษณะผู้ใช้ Ativ Sไว้แล้ว
ว่าจะมีบุคลิคแบบไหน ก็เลยทำมาออกไปในแบบนั้น
เห็นพรีเซนเตอร์ฝ่ายชายของ Galaxy S3 มั้ยครับ
ถ้าลองเปลี่ยนตัวที่อยู่ในมือมาเป็น Ativ S คงแทนกันได้ไม่ยาก
เพราะมันสะท้อนภาพลักษณ์แบบนั้นจริงๆ
ถ้าอยากได้ลูกเล่นอัศจรรย์พันลึก
จนต้องคว้าแปะก้วยเป็นกำๆ ถึงจะจำได้หมดว่ามันมีลูกเล่นอะไรบ้าง
Galaxy S3 หรือ Note2 จะสาแก่ใจท่านมากกว่าแน่นอน
ส่วนเรื่องราคาของ Samsung Ativ S นั้น ราคาเป๊ะๆยังไม่คลอดออกมาเลย
แต่ถ้าตามที่ Samsung ประเทศไทยแง้มกับเราๆ เอาเป็นว่ากำเงินไปสองหมื่นมีทอนนิดๆ
ย้ำนะ..ถ้าคุณชอบอะไรที่เป็นระเบียบ ความเนี๊ยบความเป๊ะ
ชอบมองจอใหญ่ๆ มีโทรศัพท์ไว้ใช้ในองค์กรที่ใช้งานทุกวัน และทั้งวันแบบไม่หงุดหงิด
โดยเน้นเฉพาะเจาะจงเรื่อง E-Mail ,Calendar, Office
แบตเตอรี่อึดพอประมาณ ตอบสนองได้ทันใจ ถืออ่านได้นานๆ อ่านได้เรื่อยๆ เพราะมันเบากว่าชาวบ้าน
มี Social Network ไว้ตอบไว้อ่านนิดหน่อย
และขอมีเทคโนโลยี มี Hardware แบบที่ Smart Phone ปี 2012 ควรจะมีใส่มาให้
Samsung Ativ S ก็อยู่ในข่ายนั้นล่ะครับ
ขอบคุณ Samsung ประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อเครื่องในการทดสอบครับ