หลายคนคงรู้ว่าญี่ปุ่นนี่เป็นเมืองหลวงของ Android แห่งนึง
แต่เครื่องโทรศัพท์ฝั่งญี่ปุ่นก็ยังไม่มีการทำตลาดในไทยจริงจังนัก
จนกระทั่ง Sharp เปิดตัวในไทย 4 รุ่นพร้อมกัน
Sharp ทำการเปิดตัวโทรศัพท์ Android 4 รุ่นในไทย ซึ่งทำตลาดในไทยโดย SIS
– SH930W The World’s First FHD ราคา 1,6900 บาท
– SH837W Style Stunning Share ราคา 12,900 บาท
– SH631W Irresistibly Curved ราคา 9,450 บาท
– SH530W Dual Sim Smart Phone ราคา 6,900 บาท
เรื่องราวของ UI บนโทรศัพท์ของตระกูล Sharp Aquos นั้น มีแง่มุมที่น่าสนใจอยู่
คือ UI ของ Sharp ถูกเรียกว่า Feel UX ซึ่งออกแบบโดย
ทีม Frogdesign ซึ่งใช้เวลาสั้นๆเพียง 9 เดือน
โดยนักพัฒนา 21 คน ที่อยู่ต่างกับ 4 โซนของเวลา
สำหรับโทรศัพทของ Sharp จำนวน 7 รุ่นที่เปิดตัวในญี่ปุ่นผ่าน 3 ผู้ให้บริการ
Sharp ให้เหตุผลในเรื่องของการออกแบบ UI อย่าง Feel UX ว่า
โทรศัพท์แอนดรอยด์เปิดตัวใหม่วันละ 850,000 เครื่องทั่วโลก
ฉะนั้นจึงต้องมีการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งจำนวนมาก
และเพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้ทันทีที่พบเห็นครั้งแรก
โดยแนวคิดของ Feel UX จะเน้นการกระจายตัว
เน้นความง่าย ตรงไปตรงมาในจัดระเบียบบนหน้าจอของผู้ใช้ใหม่
และยังคงยืดหยุ่นในการปรับแต่งสำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์แล้ว
อะไรคือข้อดี Feel UX ของ Sharp
ลองดูจาก VDO แนะนำตัวนี้ก่อนนะครับ
ซึ่งก็เป็น VDO แนะนำตัเดียวกับที่ได้ฉายในงานแนะนำนี่แหล่ะ
ออกแนวเรียบหรูดูเข้าใจง่าย
Sharp AQUOS Android Smartphone – Feel UX from frog on Vimeo.
ในเรื่องของซอฟท์แวร์นั้น ถ้าเข้าใจแนวคิดของ Sharp แล้ว
คงจะไม่พบเห็นว่า Sharp พูดถึงความหวือหวาในการใช้เท่าไหร่
เพรา Sharp มุ่งเน้นประสบการ์ใช้งานจริงมากกว่า ฉะนั้นก็คงไม่มีประเด็นกันในเรื่องนี้มากนัก
เท่าที่ผมจับเองกับมือมาทุกรุ่นที่เขาเอามาให้ลอง
คงต้องบอกก่อนว่าSharp ไม่ใช่โทรศัพท์ลื่นหัวแตกเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับหนืดหน่วง
ส่วนเรื่องของ OS นั้น จากที่ตอนแรกเปิดตัวด้วย ICS ทาง Sharp
มีแผนที่จะอัพเกรดให้เป็น Jelly Bean ภายในช่วงต้นปีผ่าน OTA
เรื่องของ CPU นั้น ตระกูล Sharp ที่เข้ามาขายในไทย
ให้ CPU ตามาตรฐานของ android
คือ ถ้าเป็นรุ่นเรือธงและรุ่นรองมา CPU
จะเป็น Dual-Core 1.2 Ghz ส่วนรุ่นที่เหลือจะเป็น Dual-Core 1 Ghz
ในเรื่องของราคาที่ Sharp เปิดตัววางขายในไทยนั้น
ส่วนตัวมองแล้วเป็นการท้าทายเจ้าตลาดอยู่ไม่น้อย
ทั้งเบอร์ต้นในส่วนของ House Brand ที่ส่งรุ่น 2 Sim จอยักษ์ หน่วยความจำ 2oGB
ราคาเท่ากันมาลงแย่งชิงส่วนแบ่ง โดยวัสดุระดับดี มีชื่อชั้นที่ติดตัวว่ามาจากญี่ปุ่น
รวมถึงรุ่นกลางถึงรุ่นเรือธงของ Sharp ที่ราคาเท่ากับเครื่องรุ่นรองท็อปของเจ้าตลาดรุ่นก่อนหน้านี้
แต่ฮาร์ดแวร์ที่ให้กับเครื่องมาอยู่ในระดับที่สูสีกัน
อย่างขนาดหน้าจอที่ให้มา 4.5 และ 4.7 นิ้ว กล้อง8 ล้านพิเซล BSI F2.0 BlutoothV4
Resolution ของจอแบบ HD และ qHD
และรุ่นท็อปของ Sharp ที่มากับหน่วยความจำภายใน 32GB และ Ram 2GM พร้อมจอภาพแบบ Full HD
กล้องหลัง8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
แต่ก็มีสิ่งที่สะกิดใจในความเสียดายอยู่อย่างนึงคือ
โทรศัพท์ของ sharp รุ่นที่มาขายในไทยนั้นรองรับ 3G ที่ 900/2100 Mhz เท่านั้น
ซึ่งนั่นทำให้ฐานผู้ใช้จะแคบลงมา
ตัวเลขกลมๆของราคาขงโทรศัพท์ Sharp Aquos ที่ขายในไทย
อยู่ในช่วง 6,xxx บาท , 12xxx และ 16,xxx บาท
ซึ่งคาดว่าการเปิดตัวราคานี้ คงต้องมีพิธีรับน้องจากรุ่นพี่แบรนด์อื่นแน่แท้ล่ะ
ขอบคุณ SiS Distribution ที่เอื้อเฟื้อโอกาสในการทดสอบครับ