Review!

รีวิว : Samsung Galaxy Note 8.0 สมุดวาดเขียนอิเล็คโทรนิคสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัด

samsung-galaxy-note-8IMG_0074

จากการที่ตระกูล Note รุ่นพี่สร้างความเปลี่ยนแปลงกับตลาดไว้พอสมควร
การมาของ Samsung Galaxy Note 8.0 จะยังคงสร้างความเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่
ในวันที่ Tablet ขนาดพกพามีให้เลือกในตลาดมากมาย เป็นเรื่องที่ต้องไปดูกันครับ

นาทีนี้ Samsung Galaxy Note  8.0 กลายเป็น Tablet
ที่อยู่ในความสนใจของมหาชนอยู่กลายๆ
เมื่อหลายคนรู้ถึงราคาขาย อยู่ที่หมื่นห้านิดๆ ซึ่งผิดจากความคาดหมายไปเยอะ

แต่คำถามถัดมาคือ..สิ่งที่มันทำได้ในราคาเท่านี้มีอะไรอยู่บ้าง

samsung-galaxy-note-8IMG_0083

สิ่งที่ดูเปลี่ยนไปอย่างแรกคือแผงล่างตรงการ Navigate นี่ล่ะครับ
ที่ทำให้ได้พื้นที่ใช้งานมากกว่าเดิมนิดนึง
จอภาพจะเป็น แบบ WXGA (1280 x 800, 189ppi) TFT

samsung-galaxy-note-8IMG_0099

กล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิเซล ที่มาพร้อมกับ Sensor
ส่วน OS เป็น Android Jelly bean 4.1
CPU ที่ติดเครื่องมาจะเป็น Exynos 4412  1.6GHz Quad core

samsung-galaxy-note-8IMG_0134

แบตเตอรี่ที่ติดเครื่องมาเป็น 4,600mAh ก็ใช้วันนึงสบายๆ

ฝาหลังยังคงเป็นโพลีคอบอร์เนตเหมือนรุ่นก่อนอย่าง Samsung Galaxy Note 10
แต่ด้วยข้อจำกัดของกล้องทำให้ไม่เห็น Texture ของฝาหลังที่ดูมีดีไซน์กว่าเดิม
ขอเดิมจะเป็นขาวล้วน แต่กับ Samsung Galaxy Note8
ถ้าเพ่งกันดีๆ จะเห็น Texture ที่ว่า

ส่วนช่องเสียบ Sim Card และ micro SD ก็ยังคงอยู่ด้านซ้ายของเครื่อง
หน่วยความจำที่ติดมากับเครื่อง มีมาให้ 2GB (RAM)
และหน่วยความจำถายใน 16GB  สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอก microSD สูงสุด 64GB

samsung-galaxy-note-8IMG_0115

ดูกันชัดๆนะครับ
กล้องของ Samsung Galaxy Note 8.0 มากับความละเอียด 5 ล้านพิเซล
และแน่นอนรุ่นนี้ยังไม่มีไฟแฟลช

แต่การเชื่อมต่อแบบไร้สายอันนี่น่าสนใจหน่อย
คือการ WiFi 802.11 a/b/g/n 2.4 & 5GHz
เพราะก็ไม่คิดว่าจะรองรับมาตรฐาน N และ 5GHz ในราคาเท่านี้

ส่วนหนน้ำหนักตัวอยู่ที่ 345 กรัม

samsung-galaxy-note-8IMG_0119

ปากกาแบบที่เราคุ้นเคยจากลูกพี่ Samsung Galaxy Note 2
ก็ติดสอยห้อยมาบน Samsung Galaxy Note 8.0 ด้วย
แต่..เอ๊ะ!!! จะเอ๊ะ ทำไมเนี่ย
อ๋อ..พอร์ทการเชื่อมต่อคราวนี้เป็น Micro USB แบบชาวโลกแล้วครับ
ไม่ใช่แบบที่เดิมที่กว่าจะหาสายมาชาร์จทีแทบพลิกแผ่นดินสิ้นโลก

samsung-galaxy-note-8IMG_0135

สิ่งที่เคยถาม Samsung  หลายทีว่าจะตัดออกไปทำไมในตัวขายในไทย
นั่นคือพอร์ท infred ในสุดมันก็กลับมาครับ..ทำไมผมถึงอยากให้มันมีนัก เดี๋ยวรอไปอ่านที่ด้านล่าง

device device

หน้าจอหลัก 2 หน้าแรก ความคุ้นเคยแบบ Galaxy Note รุ่นก่อนหน้ายังตามมาอยู่

devicedevice

หน้าจอหลักในส่วนที่สอง ก็จะเป็น S-Planner และ Note แบบที่เราคุ้นเคย
ดูเผินๆ มันก็คล้ายกับ Note 2 นี่นา

 

devicedevice

ต้องลองปาดดูครับ คำว่าปาดปาดลงมาจากด้านบน ถึงจะพบว่ามันมีของซ่อนอยู่
คือ Samsung Galaxy Note 8.0 ด้วยความที่เป็น Tablet ขนาดเหมาะสำหรับการอ่าน
ก็เลยมีการตั้งค่าสองอย่างเพือการอ่านโดยเฉพาะ

devicedevice

สิ่งแรกนั่นคือ Reding Mode คือการปรับแสงสว่างบนหน้าจอที่เหมาะสมที่เหมาะสำหรับการอ่าน
และ Blocking Mode ที่ะปิดการแจ้งเตือนทั้งหลายที่จะมารบกวนใจตอนที่คุณใจจ่อจดกับการอ่าน

devicedevice

ดูกันชัดๆนิดนึง คือการใช้ Reading Mode นั้น  ยังต้องมีการไปเลือกใช้ตัวแอพลิเคชั่น
ที่ใช้สายตาในการแช่กับมันนานๆ อย่าง เช่น aNote HD ,E-Mail  ,Gallery Chrome และอื่นๆ
สิ่งที่หลายคนกังวลว่า การใช้สายตาอ่าน Tablet นานๆ แล้วจะส่งผลกับสายตา
น่าจะคลายกังวลไปได้เปลาะนึง

devicedevice

ในเรื่องของการใช้งาน S Voice นั้น ยังคงต้องสั่งงานเป็นภาษาสากลเช่นภาษาอังกฤษอยู่ครับ
จากการทดสอบ ถ้าอยากให้ได้ผลดีสำหรับคนที่สำเนียงปรกติไม่ได้ดีมาก
ส่งคำสั่งเสียงง่ายๆสั้นๆจะได้ผลกว่า

devicedevicedevice

หน้าจอใหญ่ๆ จะเอาไปใช้ดูแค่หน้าต่างเดียวก็จะกะไร
ใน Samsung Galaxy Note 8.0 ก็ยังคงมี Multi Windows มาให้ใช้
โดยแอพลิเคชั่นที่ใช้ได้ก็อาจจะดูว่าเป็นแอพที่จำกัดอยู่สักหน่อย  แต่ก็ครอบคลุมการใช้งานปรกติ

ถ้าใครพอจะนึกย้อนกลับไป
อย่าง Samsung Galaxy Note  10 ก็จะมีแอพลิเคชั่นพิเศษแถมมาเสมอๆ
ใน Note 8 ก็มาแบบเดียวกัน คือแถม Awesome Note HD เป็น Exclusive App

มองเผินๆ มันอาจจะดูซ้ำซ้อนกันการการที่มี S Note
แต่ถ้ามองกันจริงๆ มันก็พอจะมีจุดต่างอยู่ คือ aNote HD
มีระบบระเบียบในการจัดบันทึกที่ดีกว่ามาก

devicedevice

การบันทึกมันไม่ควรถูกผูกด้วยการวาดด้วย หรือตัดแต่งด้วยมือสถานเดียว
แต่ควรจะทำด้วยการ Copy Paste Insert หรือว่าการพิมพ์
ซึ่งใน aNote HD ทำได้ง่ายกว่าหลายขุม
อย่างเช่น การวาดลากเว้น การใส่รูป การใส่พิกัด การวาดลายเส้น
และการพิมพ์ที่ง่ายกว่ามาก

devicedevice

ถ้าวันนึงเราเจอเพื่อนที่ทำอะไรในทางเดียวกับเรา
เราจะขับเคี่ยวแข่งขัน หรือว่าจับกอดคอกันเป็นพันธมิตรล่ะ ดูเหมือนว่า Samsung จะเลือกอย่างหลัง
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะวาดอะไรด้วยมือเป็นเรื่องเป็นราวไปซะทุกคนน่ะสิ

เรื่องของการแบ่งปันเนื้อหาระหว่างผลิตภัณฑ์ผ่าน WiFi ก็ยังมีอยู่ครับในหัวข้อ Group Play

devicedevice

มาดูเรื่องของกล้องบน Samsung Galaxy Note 8.0 กันนิดนึง
อันนี้ไม่ต่างจากรุ่นพี่เท่าไหร่ คือมีมาให้แบบพอใช้
คือชดเชยแสงได้สองระดับ ตั้งเวลาถ่ายได้ Shooting Mode
มีมาประมาณนึง คือ Singel Shot , Panorama  ,Buddy Photo ,Smile Shot และ Cartoon

devicedevice

จากการทดสอบ..คุณภาพของไฟล์จัดว่าธรรมดา  การโฟกัสไม่ถึงกับไวมากช้านิดหน่อยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
การถ่ายในระยะใกล้ต้องระวังเรื่องการเบลอ แต่สิ่งที่ดูเข้าท่าคือการถ่ายโหมด Panorama มีเส้นช่วยวัดระดับของภาพ
ทำให้มือใหม่ถ่ายสะดวกสุดๆ และมันฉลาดมากซะด้วย คือถ้าถ่ายเร็วไป ถ่ายไม่เป๊ะ
มีแนะนำใหัถอยย้อนกลับไปถ่ายใหม่อีก

ฉะนั้นถ้าใครจะซื้อ Samsung Galaxy Note 8 แล้วหวังถ่ายรูปประกอบงานฝีมือ
ผามแนะนำว่าหากล้อง Compact ที่มี Wifi แล้วเชื่อมต่อผ่าน App ส่งรูปเข้ามาดีกว่า
น่าจะเป็นชุดทำงานนอกสถานที่ดูจะลงตัวสุด

ดูภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy Note 8.0 ได้ ที่นี่ ครับ

มาดูเรื่องของ S Planner หน่อย
อันนี้ลูกรักที่พยายามปั้นกันเหลือเกิน พอๆกับ Chat On
ตอนแรกก็บอกตามตรงว่าผมเองก็จะเค้าเอาอะไรมาใส่กับปฎิทิน
แล้วจะทำไมาทำไม ในเมื่อหลายคน Sync กับ Google Calendar

device device

ใน S Planner เวอร์ชั่น Samsung Galaxy Note 8.0 มีสติ๊กเกอร์ติดมาให้ด้วยครับ
มันทำให้นึกย้อนถึงสมัยบ้านเราเต็มไปด้วยร้าน Gift Shop
แล้วมันมีแผง Sticker น่ารักๆที่สาวๆ เค้าเอามาแปะสมุด
หรือปากกาหมึกสีหวานๆ ที่ต้องเอามาเหน็บสมุดข้างตัว..นี่ก็อารมณ์เดียวกัน
สาวๆน่่าจะปลื้มคุณสมบัตินี้กว่าผู้ชายแน่ๆ

device devicedevice

ผมเคยนึกอยู่ว่า Samsung น่าจะพาตัวเองไปในตลาดการศึกษานะ
ถึงแม้จะไม่เคยมีการโฆษณา  การนำเสนอสินค้าซักกระติ๊ด
แต่เมื่อคุ้ยลงไปใน Samsung Galaxy Note 8.0 เราเริ่มเห็นความพยายามในการรุกตลาดการศึกษา
ในแอพ Learning Hub  อย่างเงียบๆ…แล้วที่สำคัญมันมีแววที่เป็นแหล่งเข้าความรู้สำหรับผู้ใช้ในไทย

ตัวหนังสือที่มีมายังไม่จัดว่าเยอะมากนัก แต่ก็พยายามที่จะครอบคลุมความสนใจในการเรียนรู้
ในหลายๆระดับ และหลายความสนใจ ส่วนการชำระเงินก็ตัดผ่านบัตรเครดิต และคิดราคาเป็นเงินบาท

ส่วนตัวแล้วผมมองว่า  Samsung คงไม่คิดไปสู้ศึกตลาด Tablet ระดับล่าง
เพราะมีผู้เล่นที่จองพื้นที่ Tablet สำหรับเด็ก
แต่กับผู้ใช้ระดับกลาง นักเรียน นักศึกษา ผมมองว่านี่คือพาหนะในการนำพาเข้าไปหากลุ่มเป้าหมาย
ถ้ามีการผลักดันอย่างจริงจังมากกว่านี้นิดนึง
เพราะตลาด Tablet การศึกษาแบบไทยๆ ยังเปิดกว้างและอยู่ในระยะตั้งไข่

device devicedevice

สิ่งนึงที่ผมสะกิดถาม Samsung มาหลายทีมากคือ จะตัด Infared Port ออกไปทำไม
ในที่สุด Samsung Galaxy Note 8 ก็มีมาซะที และมากับแอพคู่บุญอย่าง Peel

ทำไมผมถึงรอให้ Tablet ที่วางขายในบ้านเราใส่รีโมท
เพราะแนวโน้มการเติมโตของอุปกรณ์พวกนี้มันเป็น Second Screen  ในห้องนั่งเล่น
นอกจากการส่งเนื้องหาผ่าน DLNA มันเป็นมาตรฐานที่ภาคบังคับมันต้องมี
แต่การเปลี่ยน Tablet เป็น Universal Remote มันคือมูลค่าเพิ่มที่เติมเข้าไปครับ

มาดูการทำงานก่อน ของแอพที่ชื่อว่า Peel
เผื่อคุณจะใช้ Samsung Galaxy Note 8.0 ได้คุ้มขึ้นอีกนิด

device_thumb.png

ในหน้าแรก ก็จะบอกกลายๆล่ะนะ ว่าสิ่นี้จะเปลี่ยน Tablet ในมือให้เป็นรีโมท

device_thumb.png

ในแผงเลือกประเทศไม่ต้องตกใจว่าไม่มีธงชาติไทย
เพราะมันไปอยู่ในหัวข้อ Other

device_thumb.png

การใช้งานในครั้งแรก เราต้องการจับคู่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านก่อน
เอาที่ง่ายและใกล้ตัวที่สุดก็น่าจะเป็นทีวี ก็เลือกจากชื่อนี่ห้อตามแผงรายชื่อนะครับ

device_thumb.png

หลังจากที่เราเลือกยี่ห้อได้แล้วในแอพบจะให้เราหันด้านที่เป็นอินฟาเรด
เพื่อทำการสั่งเปิดปิดโทรทัศน์ โดยกดที่ปุ่ม Test Power

device_thumb.png

ถ้าแอพกับโทรทัศน์ที่คุณมีอยู่สามารถทำความรู้จักกันได้ให้กด Yes ครับ

device_thumb.png

หลังจากที่แอพ Peel กับ Samsung Galaxy Note 8.0 เชื่อต่อกับทีวีได้แล้ว
หน้าจอของแอพก็จะกลายเป็นรีโมทอันเขื่องในทันที

device_thumb.png

แต่เอาเข้าจริงคนดูทีวีบ้านเราใช้ทีวีเป็นแค่จอแสดงข้อมูล
เพราะมักจะเชื่อมต่อกับ Settop Box หรือเชื่อมต่อกับ DVD หรือ Bluray
ซึ่งแอพ Peel ก็สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เหล่านั้นได้

เอาล่ะ..นอกจากแอพที่เค้าแถมมากับ Samsung Galaxy Note 8
ผมมีแอพแนะนำที่ถ้าใครซื้อ Samsung Galaxy Note 8 น่าจะหามาลงเพิ่ม
ตัวแรกคือ DocSign Ink เป็นแอพสำหรับจัดการเรื่องลายเซ็นต์ครับ
เพราะเอกสารหลายตัวเริ่มเป็นดิจิทัล แต่เวลาส่งกลับทำไมเราต้องมาพิมพ์แล้วสแกนส่งกลับไปอีกรอบ
ทำไมไม่ทำให้มันจบบนอุปกรณ์ทีเดียวเลย

devicedevice

อีกตัวนึงคือ Magisto  คือถ้าเป็น Note ตัวใหญ่ๆเค้าจะมีแอพที่ถ่าย VDO ได้ ตัดต่อได้
มีการเขียนลงบนไฟล์ VDO ได้

จริงๆแล้ว Samsung Galaxy Note 8 .0 เนี่ยเหมาะกับถ่าย VDO มาก
คือที่พูดอย่างมั่นใจเพราะผมเคยเอา Samsung Galaxy Note 10 ไปยืนถือทำถ่ายทอดออนไลน์ 15 นาที
มือแทบบหักเพราะน้ำหนักตัวของมัน แต่ใน Samsung Galaxy Note 8 ดันไม่มีแอพถ่าย VDO เจ๋งๆมาให้เสียนี่
ฉะนั้นไปหา Magisto มาใช้ดูละกันครับ

devicedevice

เล่ากันไปด้วยภาพนิ่งเยอะละ..ผมคิดว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ควรจะถ่ายด้วยภาพเคลื่อนไหว

เพราะตอนที่ผมถือ Samsung Galaxy Note 8.0
ผมจะเจอคำถามเยอะมากว่า Samsung Galaxy Note 8 เมื่อเทียบกับ iPad Mini เอาอะไรดี
เป็นคำถามที่ตอบโคตรยากเลยครับบอกตรงๆ เพราะมันเรื่องที่ต้องพิจารณาทั้งคู่
ก็เลยเอา iPad Mini ที่มีในมือมาวางประกบเลย แต่ผมเชื่อว่าคลิปที่ถ่ายมาแบบ้านๆ พวกนี้ คงมีคำตอบให้นะครับ

แกะกล่องลองเครื่อง Samsung Galaxy Note 8 vs iPad mini
ดูกันรอบๆ ชัดๆ ในเบื้องต้นว่างานประกอบ และสิ่งที่ติดกันมากับเครื่องทั้ง 2 รุ่น มีอะไรที่คล้ายและแตกต่างกันบ้าง

คำถามที่เจอบ่อยมากคือ การใช้ Tablet Android มักจะตั้งค่ายาก และลำยากในการใช้
เลยจัดมาให้ดูว่าการตั้งค่า Samsung Galaxy Note 8.0 เมื่อเทียบกับ iPad mini

คงไม่ใช่เรื่องแปลกของยุคสมัยแล้ว ถ้าใครจะยก Tablet ขึ้นมาถ่ายรูป
มาลองคุณสมบัติด้านการถ่ายรูปของ Samsung Galaxy Note 8.0 ด้านการถ่ายรูปกัน

สำหรับใครที่มองหา Android Tablet เพื่อความบันเทิง
เรื่องภาพกับเสียง นั่นเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาดูครับ
ว่า Samsung Galaxy Note 8.0 ใช่แนวที่เราชอบหรือเปล่า

เหตุผลนึงทีเราต่างซื้อ Tablet มาใช้ เพราะเอามาดูเว็บไซต์แบบสะดวกๆ
มาลองดูผลการเรียกดูเว็บกันครับ ว่า Samsung Galaxy Note 8.0 กับเว็บที่โหลดหนักๆจะเป็นอย่างไร

Samsung Galaxy Note 8.0 กับการป้อนลายมือภาษาไทย
นี่ถือว่าเป็นจุดเด่น ที่ Samsung พยายามการใช้งานด้านการป้อนข้อมูล
ให้เข้ากับการใช้งานกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศ

สรุป..ง่ายๆสั้นๆ

หลายอย่างที่อยู่บน Samsung Galaxy Note 8.0 อาจจะไม่ใช่สิ่งใหม่ เช่น การเขียนไทย
แต่ Samsung ทำให้มันกลับมาถูกที่ถูกเวลา

หลายอย่างที่อยู่บน Samsung Galaxy Note 8 อาจจะไม่ได้สมบูรณ์เต็มร้อย
แต่ Samsung ทำให้มันอยู่ในราคาที่พอจะจับต้องได้ และไม่ไปทับไลน์ตัวเอง
เพราะถ้ากล้องเทพมาก จอสวยจัดแบบ Samsung Galaxy Note 2  ก็คงทำราคามาลงมาในระดับนี้ได้ยาก

เอาเป็นว่า..

ถ้าจะป้อนภาษาไทยด้วยมือเป็นหลัก  Samsung Galaxy Note 8.0 มันทำได้จริงประมาณนึง
ต้องปรับมือให้ทำความคุ้นชินกันพอสมควร แต่ผมก็เชื่อว่ามันยังพัฒนาต่อได้อีก

ถ้ามองการจะชูจุดขายเรื่อง Creative
ก็อยากให้มีแอพ สำหรับสร้างสรรค์ผลงานระดับกึ่งมาชีพแถมติดเครื่องมาอีกนิดจะดีมาก

ถ้าชีวิตนี้คุณรักการจดบันทึก Samsung Galaxy Note 8.0
ไม่ว่าจะขนาดหน้าจอ น้ำหนักมันตอบสนองคุณได้ดีพอ

ถ้าชีวิตรักการวาดรูป  Samsung Galaxy Note 8.0
พกง่ายกว่า Samsung Galaxy Note 10 เยอะมาก
เว้นแต่คุณจะหา Tablet แบกเพื่อไปนำเสนองาน

จากที่เห็น Samsung  ทำ Tablet มาตั้งแต่ตัวแรก
ถ้าคุณเคยโตมากับสมุดวาดเขียน Venus เล่มยักษ์เมื่อ 20 ปีที่แล้วสำหรับคนอายุ 3x ขึ้น
นี่ก็คือสมุดวาดเขียนแบบเดียวกันของยุคสมัยนี้นั่นล่ะ

2013-04-23 08.44.32

อ่อ..เวลาเดินไปซื้อ Samsung Galaxy Note 8.0
อย่าเผลอเรียกว่าเป็น Samsung Galaxy Tab นะครับ ไม่งั้นอาจจะเจอแซวกลับแบบนี้

ขอบคุณ Samsung Thailand ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ในการทดสอบครับ

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Back to top button