หลังจากที่ Samsung สร้างความแปลกใจกับการเปิดตัวในต่างประเทศ
ด้วยการเป็นเแท็บเล็ตจอใหญ่ไซส์ 12 นิ้วภายใต้ชื่อ Samsung Galaxy Note
ในที่สุดก็โผล่มาตัวเป็นๆให้สื่อและ Blogger ในไทยได้เห็นในทริป Samsung Unpacked 5 ครับ
Samsung Galaxy Note Pro ครั้งแรกในอุ้งมือ
สัมผัสของ Samsung Galaxy Note Pro ไม่ต่างกับ Samsung Galaxy Note 10.1 2014 Edition เท่าไหร่
แต่ขยายใหญ่ขึ้นมา และมีคนนำไปชั่งน้ำหนักก็ได้มาราวๆ 7 ขีด
ผมลองถามเพื่อนนักวาดคนหนึ่งที่ร่วมขบวนอย่าง @iannnnn ว่า
น้ำหนักกับขนาดมีผลอย่างไรในมุมมองของเขา
ผลก็เป็นไปแบบที่ผมสัมภาษณ์นักวาดดิจิทัลคนอื่น
คือขนาดหน้าจอใหญ่นี่ มีผลต่อการวาดมากคือมันถนัดขึ้น แต่น้ำหนักที่เยอะนี่สิ
ทำให้ลำบากสักหน่อยในการใช้การถือแบบยาวๆ
Samsung Galaxy Note Pro ไร้ LTE แต่ทดแทนด้วย WiFi Mimo มาตรฐาน AC
อาจจะด้วยเหตุผลในเรื่อง Exynos ตัวนี้มันไม่รองรับ LTE อยู่แล้ว
ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายนิดหน่อย
ถ้ามองแบบแง่โลกสวยมาก ก็อาจจะมองว่า Samsung
เน้นให้ไปใช้งานปรกติทั่วไปวำหรับพื้นที่ที่ไม่ต้องเดินทางไกลมาก
คงไม่ใช่ทุกคนที่จะยกแท็บเล็ต 12 นิ้วไปข้างนอก หรือเพราะตัวเองมีอาจจะมีอุปกรณ์ขนาดอื่นๆอยุ่แล้ว
Samsung ก็เลยเลือกมาตรฐานใหม่ของเครื่องเรือธงในปี 2014 เอาไว้แทน WiFi Mimo มาตรฐาน AC
ก็เหมือนช่วงนึงที่รุ่นเรืองธงของตระกูล Galaxy รองรับ WiFi 5 Ghz แบบเงียบๆไว้ฟัดกับคู่แข่ง
ซึ่งในตลาดขณะนั้นทั้งตลาดมีไม่กี่เจ้า
แต่อุปกรณ์ที่รองรับมาตราน WiFi แบบ AC ราคายังค่อนข้างสูงอยู่สำหรับการใช้งานตามบ้าน
ซึ่ง WiFi มาตรฐานใช้ตามบ้าน ก็อยู่ที่ Wifi a/b/g/n ซึ่งหาซื้อได้ในหลักพันบาทต้นๆ จนถึงสี่ห้าพัน
ซึ่งเอาเข้าจริงผู้ใช้อาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรมาก
ถ้าอินเตอร์เน็ตในองค์กรนั้นมีความเร็วในระดับที่สูงอยู่แล้ว เรียกว่าเป็นการให้เสปคเผื่ออนาคตไปนิดนึง
Samsung Galaxy Pro ความเข้ากันได้กับการชีวิตทำงานออฟฟิศ
Samsung พยายามจะบอกว่าตระกูล Samsung Galaxy Note จอใหญ่ ตั้งแต่ 10 นิ้ว
นั้นสามารถใช้งานทดแทนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ในระดับหนึ่ง
โดยชูภาพการต่ออุปกรณ์เสริมเข้าไปทั้งแป้นพิมพ์บลูทูธ และเมาส์ไร้สาย
แต่ก็ด้วยความเป็นแอนดรอยด์นี่ล่ะ หลายคนก็ยังคงคาใจอยู่
เรื่องการทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์เครื่องหลัก
ในการแนะนำ Samsung Galaxy Note Pro
ก็เลยพยายามเน้นความเข้ากันได้กับ Micorsoft Office มากถึง 90% คือย้ำหนักแน่นเลยทีเดียว
และรวมไปถึงการรีโมทเข้าไปยังเครื่องพิวเตอร์หลักจากระยะไกล
(ซึ่งอันนี้ทำได้นานแล้ว แต่เพิ่งจะยกขึ้นมา)
ในบรรดาชุดออฟฟิศบนแท็บเล็ตตอนนี้ก็มีที่ดังอยู่หลายเจ้า
แต่ก็นั่นล่ะเพราะบนโลกของคอมพิวเตอร์ในระบบ Windows
ชุด Microsoft Office ยังเป็นมาตรฐานหลักที่ใช้กันในวงกว้าง
และความเข้าได้ในการเปิดแก้ไขเอกสารยังคงต้องนำมาอ้างอิงไว้อยู่ดี
แต่เราก็ยังสงสัยนิดนึงว่า คือชุดออฟฟิศตัวเดิมที่ติดมากับ
Samsung Galaxy Note 10.1 2014 Edition นั้น รองรับการใช้งานปากกาด้วยด้วยนะครับ
อย่างน้อยๆ ก็การวาดรูปทรงล่ะ ก็ต้องรอดูตอนลองของจริงแบบยาวๆ ว่าจะมีลูกเล่นตรงไหนบ้าง
ทำไม Samsung ถึงเลือกที่จะใช้ Android เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน
บอกตรงๆว่า หลังจากที่เหล่า blogger และเพื่อนๆสื่อมวลชนได้ลองจับเครื่อง
เราก็หันมาถามกันเองว่าทำไมต้องเป็นแอนดรอยด์
ถ้ามองในฐานะผู้เล่นในตลาด Samsung เองใช่ว่าจะไม่เคยมีแท็บเล็ตสายพันธุ์วินโดว์
เพียงแต่เสียงตอบรับไม่สู้จะดีนักเมื่อเทียบกับฝั่งแอนดรอยด์
ที่ตัว Samsung เองปรับแต่งซะจนจะแทบไม่เหลือเค้าเดิม
ซึ่งนั่นคือการสร้าง Eco System ของผู้ใช้ในระบบอยู่กลายๆ
ปากกา S-Pen ยังคงเป็นจุดแข็ง
ดู Samsung จะทุ่มเทกับเรื่องนี้พอสมควร อย่างน้อยก็พอจะพูดได้เต็มปากล่ะ
ว่าในฟากแอนดรอยด์ Samsung จุดประกายให้เกิดกระแสปากกาตามมาในหลายแบรนด์
เหมือนชุบชีวิตกลับมาก็ว่าได้ ทั้งการวาด การแปลงตัวอักษรจากลายมือเป็นการพิมพ์
ลูกเล่นยังคล้ายเดิม แต่ใน Twitter วาดรูปได้ก่อนส่งแชร์
จริงๆถ้ามองแบบขำๆ มันก็เป็นมุกอย่างนึงนั่นล่ะ
แต่มองอีกมุม Samsung เริ่มเดินเกมกับนักพัฒนาแอพดังแบบชัดเจนมากกว่าแบรนด์อื่น
ในการทำแอพลิเคชั่นเพื่อรองรับความต้องการที่ตัวเองสร้างขึ้นมาในตลาด
เพราะปากกาดีแต่ไม่มีแอลพลิเคชั่นพิเศษที่เกิดมาคู่กันคงผลักดันยากอยู่
คนที่ใช้ปากกาวาดแบบจริงจัง ถ้าเคยผ่านแท็บเล็ตแบบ iOS กับ Windows คงรู้ซึ้งถึงข้อนี้ดี
่ความเสี่ยงของแท็บเล็ตจอขนาดใหญ่ กับการเปิดตลาดใหม่
เอาเข้าจริงแล้ว Samsung Galaxy Note Pro นี่ก็ไม่ใช้แท็บเล็ตที่ขนาดใหญ่ที่สุดตัวแรกที่มีขาย
แต่ในตลาด Comsumer คงไม่ค่อยมีใครเสี่ยงลงมาทำแบบนี้
ตัวแทน Samsung เองก็ออกมาเปรยๆอยุ่เหมือนกันว่า
การลงมาทำตลาดตรงนี้ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงอยุู่เนื่องจากเป็นการเปิดตลาดใหม่
แต่ก่อนหน้านี้ก็มีการทำผลสำรวจความต้องการของผู้บริโภคมาแล้ว
ซึ่ง Samsung ก็ดูจะจะพกพาความมั่นใจตรงนี้มามาก
อุปสรรคของ Samsung Galaxy Note Pro กับเพดานราคา
ตลาดแท็บเล็ตระดับมืออาชีพ หรือว่าใช้งานเฉพาะทาง
ราคามักถีบตัวเองขึ้นในระดับที่สูสีกับโน๊ตบุ๊คที่นับวันจะถูกลง หรือแพงกว่าด้วยซ้ำ
ในแต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดขายของตัวเอง อย่างรุ่นความจุสูงก็ทำไปถึง 128 GB
อย่างรุ่นที่เน้นความแข็งแรง ก็ทำไปให้สุดทั้งไลน์ผลิต
หรือรุ่นที่เป็น Windows ก็พยายามทำให้เข้ากับระบบทั้งหมดขององค์กร
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ Mass Product ซึ่งเป็นตลาดที่ Samsung เอง ก็ไม่ได้ถนัดนัก
ที่ผ่านมา Samsung ทำราคา Samsung Galaxy Note 10.1 2014 Edition ได้สวยเลยทีเดียว
คือถูกกว่าคู่แข่ง และถูกกว่าความคาดเดาของผู้คน
แต่ราคา Samsung Galaxy Note Pro ที่ประกาศในต่างประเทศนี่สิ ทำหลายคนสะอึกไปนิด
เพราะแทบจะข้ามไปชกข้ามรุ่นกับ Hybrid Notebook อยู่แล้ว
ความอยากได้ของคนน่ะมีแน่ๆ แต่การลังเลจากตัวเลขที่ได้ฟังมันก็ค่อนข้างชัดอยู่
ที่เหลือก็รอการเคาะราคาขายในตลาดประเทศไทย และโปรโมชั่นการขายอย่างเป็นทางการ
แต่เรามีคำแนะนำว่า ถ้าจะเปิดตลาดด้วยรูปแบบการนำเสนออย่างที่ว่านี้จริงๆ
ทำแป้นเสริมมาเป็นภาษาไทย แล้วทำแพคเกจขายควบเถอะ
คิดส่งท้าย แรกสัมผัส Samsung Galaxy Note Pr0
ตอนที่ดูการนำเสนอ..ก็รู้สึกแตกต่างไปจากที่ผมคิดนิดหน่อย
คือมุ่งเน้นไปภาคธุรกิจเอามากจริงๆ ซึ่งเป้าหมายในใจผมคือนักออกแบบ
อาจจะเป็นเพราะ Samsung เองยังไม่มีตัวรุกในตลาดระดับผู้ใช้มืออาชีพมากนัก
แต่คนที่ประยุกต์ใช้มันมีอยู่ Samsung เลยพยายามเข้ามาจับตรงนี้มากขึ้น
เดิมเราอาจจะมองภาพคอมพิวเตอร์ในอนาคต
อาจจะเป็นแบบที่ทุกอย่างอยู่บน Cloud หมด แล้วต่อทุกอย่างเข้าอินเตอร์เน็ต
แต่ภาพของจิ๊กซอว์อีกชิ้นอาจจะเป็นเรื่องของแท๊บเล็ตขนาดใหญ่
น้ำหนักอาจจะไม่เบามาก แต่ก็ไมไ่ด้ลำบากในการเดินหิ้วจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
และสามารถใช้ทรัพยากรส่วนกลางร่วมกันผ่านเครือข่าย
บนโต๊ะจะมีแค่ Docking หรือแป้นพิมพ์ไว้เท่านั้น ผมกำลังเดาใจ Samsung ไว้แบบนั้น
ส่วนเรื่องของตัวเครื่อง จะเรียกว่าเป็น Minor Change ก็คงใช่
ในตลาดต่างประเทศมี Samsung Galaxy Tab Pro ออกมาด้วย
แต่จากการคาดการณ์โดยส่วนตัวแล้ว
Samsung Galaxy Tab Pro ไม่น่าจะมีโอกาสเข้ามาทำตลาดในไทยเท่าไหร่
น่าจะเก็บเครื่องตระกูลนี้ไว้ชนในตลาดกลางมากกว่า
เพราะเป็นตลาดที่ตัวเองสร้างขึ้นมา แต่ไม่มีตัวแข่งที่แข็งแรงพอ
จนใครต่อใครเข้ามาแย่งชิงกันสนุกในตอนนี้
ส่วนกำหนดการของ Samsung Galaxy Note Pro ไว้จะมาขายเมื่อไหร่ ไว้ได้ความคืบหน้า
เราจะมาว่ากันอย่างละเอียดอีกครั้งนึงครับ
ขอบคุณ : Samsung Thailand ที่เอื้อเฟื้อโอกาสครับ
ขอบคุณ : ช่างแอร์ในตำนาน ที่มีประโยคอมตะไว้ให้ผมนำมาใช้พาดหัว
ติดตามข่าวสารได้ที่ Trendy2Mobi Facebook Fanpage ครับ
