การแข่งขันของโทรศัพท์ระดับต้น จนถึงกลางเริ่มเห็นเด่นชัดในปี 2014
โดยสงครามครั้งใหม่ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่เป็นมูลค่าเพิ่มที่เติมลงมาในเครื่อง
Nokia Lumia 630 ก็ดูอยู่ในข่ายการแข่งขันที่่ว่านั่นด้วย
Nokia Lumia 630 มากับหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียดจอแสดงผลอยู่ที่ระดับ FWVGA (854 x 480)
กระจกเป็น Corning Gorilla Glass 3 อัตราส่วนของจออยู่ที่ 16:9 ClearBlack, IPS LCD
เมื่อมองด้วยตาปล่าวความชัดก็อยู่ในระดับไม่ได้แย่ ขนาดต้องมาติอะไร
ส่วนพอร์ท USB เป็น USB 2.0 ครับ และ Bluetooth เป็น Bluetooth 4.0
กล้องความละเอียดให้มาตามราคาค่าตัวครับอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล แบบออโต้โฟกัส

ความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 1830 mAh ก็ถือว่าให้มาแบบพอสมคัว
ถึงจะเป็นโทรศัพท์ราคาประหยัด แต่ตัวซิมก็ใช้เป็นไมโครซิมนะครับ
โทรศัพท์สมัยใหม่ควรจะเป็นกัน ถ้าเกิดใครใช้ซิมรุ่นเก่าคงจะต้องไปเปลี่ยนซิมก่อนนะครับ
ส่วนหน่วยความจำสามารถเพิ่มได้ด้วย microSD Card ความจุสูงสุด 128GB
ส่วนเรื่องการรองรับเครือข่าย 3G นั้น จะรงรับความถี่ 850 MHz, 900 MHz, 1,900 MHz, 2,100 MHz
ความเร็วการดาวน์โหลดสูงสุด WCDMA: HSDPA – 21.1 Mbps ครับ
Nokia Lumia 630 ภาคซอฟท์แวร์
แกะกล่องมองเครื่องมา ถึงจะเป็นรุ่น Windows phone รุ่นเล็กก็ตามที
แต่แอพลิเคชั่นที่ใส่กันมา ก็มาแบบเครื่องรุ่นใหญ่แบบแกะห่อแล้วหล่อเลยสำหรับงานองค์กร
ซึ่งนั่นดูจะเป็นข้อดีข้อนึงอยู่ อย่างน้อยๆชุด Office กับ One Drive ที่เป็น Cloud Storage ก็มีแถมพ่วงมาเลย
โดยอันหลังนี่ไมโครซอฟท์ใจดีแถมพื้นที่เพิ่มขึ้นไปอีกครับ
ซอฟท์แวร์ของ Nokia Lumia 630
Data Sense นี่เกิดมาเพื่อคุมค่าใช้จ่ายเลยจริงๆ โดยเฉพาะถ้าคุณซื้อโทรศัพท์ไว้ให้คนในองค์กรใช้
เพราะคุคุมการใช้ Data ได้ทั้งแบบวันดียว ในหนึ่งเดือน หรือว่าแบบไม่จำกัด

ซึ่งการควยคุมแบบรายเดือน คุณสามรถกำหนดวันได้ด้วยครับก็ยืดหยุ่นทีเดียว
ในเรื่องของการเชื่อมต่อกับบัยชีผู้ใช้สำหรับการสื่อสาร
ก็ถือว่ามีให้เยอะกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้านิดหน่อย
สำหรับองค์กร คงจะมองไปที่ Exchange หรือว่า IBM notes Traveller เพราะไม่ใช่ทุกรุ่นที่มีแบบนี้

Nokia มี Cloud Storage ชื่อ One Drive
ซึ่แทบไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมันมากนักสำหรับการเก็บรูป
ถ้าคุณตั้ง Auto Upload ทาง Microsoft ใจดีให้พื้นที่ 30 GB
เลิกห่วงเรื่องรูปหายได้เลย

Sync My Setting คนที่ใช้ Windows 8 คงคุ้นชิน
คือย้ายไปใช้เครื่องไหนๆ ที่เป็นของ Microsoft ก็ไม่ต้องวุ่นวายกับการตั้งค่า
เรื่องการสืบค้นโทรศัพท์หายกลายเป้นเรื่องที่ทุกเครื่องควรจะมี
ใน fing my phone นี้มีให้เราตั้งค่าครับ
โดยการสืบค้น windows phone เวลาเครื่องหาย
ให้เข้าไปค้นที่ www.windowsphone.com
แต่ต้องเปิดคุณสมบัตินี้ก่อนนะครับ
คุณสมบัติของกล้องของ Lumia 630
ในโทรศัพท์ที่ไม่ได้เน้นการถ่ายรูปมากนัก เราไม่ค่อยเห็นการเลือกอัตรส่วนของภาพเท่าไหร่
ซึ่งมัก็มีผลต่อการจัดองค์ประกอบภาพ และพิมพ์ลงกระดาษ
ซึ่งถ้าเป้นขนาดภาพที่เราใช้ปรกติจะอยู่ที่ 4:3 และถ้าแบบ Wide Screen จะอยู่ที่ 16:9
แต่เวลาที่เราเอารูปไปใส่กรอบแบบสี่เหลี่ยมจตุรัสอาจจะใช้แบบ 1:1


การตั้งค่าของกล้องของ Lumia 630
ถือว่าได้รับมรดกมาจากรุ่นพี่แบบไม่ตัดทอนอะไรทั้งนั้น
ซึ่งนั่นก็ดูเป็นข้อดีของ Windows Phone
อย่างน้อยเราก็ได้คุณกล้องแบบ Touch Focus การตั้งค่า White Balance
แบบที่เราไม่เจอในโทรศํพท์ราคานี้เท่าไหร่
ไม่ว่าจะเป็น โหมด White Balance: Cloudy , Incandescent, Fluorescent, Day Light, Auto

ส่วนเรื่องความไวแสง ISO 100, ISO 200, ISO 400, ISO 800, ISO 1600
และ Shutter Speed ต่ำสุด 1S-1/16000 ซึ่งเราเองก็ไม่ค่อนเห็นใโทรศัพท์ราคานี้เท่าไหร่
ส่วนเรื่องของการชดเชยแสงนี่ทำด้อยู่ 3 ระดับครับ
ส่วนเรื่องโปรแกรมเสริมในเรื่องของกล้องจากฝั่งโนเกีย ต้อลงเพิ่มเองนะครับ
อาทิ Panorama, Nokia Refocus, Bing vision, Cinemagraph, Nokia Camera, Nokia Glam Me
ในเครื่องไม่ได้แถมมาให้
การใช้งานแผนที่บน Lumia 630
แผนที่นี่จะแบ่งเป็น 2 แบบนะครับคือ Here Maps และ Here Drive
ซึ่งความแตกต่างกันคือ แผนที่ของ Here Maps จะเป็นแผนที่เป็นมุมมองแบบด้านบน
คือถ้าใช้การเดินเท้าจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แผนที่แบบนี้ก็ดูเข้าใจง่ายดีครับ

การสืบค้นบน Here Maps ทำการสืบค้นได้ด้วยภาษาไทยได้นะครับ
คือในฐานข้อมูลมี POI และรู้จักภาษาไทยในระดับนึงเลยล่ะ
เพียงแต่ตอนมองแผนที่นี่สิ อารมณ์จะแบบเหมือนไทยคำอังกฤษคำ

แต่ถ้าใช้แผนที่ในการขับรถยนต์ Here Drive จะเหมาะสมกว่ามาก
เพราะเป้นแผนที่แบบสสามมิติ ทำมาเพื่อผู้ใช้รถยนต์โดยเฉพาะ

ซึ่งแผนที่ของ Here Drive เป็นแผนที่ทำทางด้วยเสียงที่ติดมากับเครื่องเลยไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม
และที่ดีคือมีเสียงนำทางมาให้ด้วย โดยมุมมองบนแผนที่ก็จะเลี้ยวไปตามการขับรถของเราครับ
จากการทดสอบก็ถือว่า จับสัญญาณ GPS ได้ไวทีเดียว

ในการนำทางของแผนที่ Here Drive นั้น นอกจากเสียงนำทางภาษาอังฏฟษที่ตดมากับเครื่อง
เรายังเลือกภาษาอื่นๆ ได้ครับ โดยเสียงภาษาไทยอยู่ที่ 3 เม็กนิดๆ ผมฟังแล้วแอบนึกถึงเสียงของ เดย์ ไทเทเนียมนิดๆนะ
มาต่อกันที่ Driving Mode กันต่ออีกนิดละกัน
คือ Driving Mode ของที่นี่จะต่างกดกับเจ้าอื่นนิดหน่อย
คือ เน้นการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปสำหรับการใช้โทรศัพทฺบนรถ
ไม่ว่าจะเป็นการปิดสายโทรเข้า หรือว่าปิดการรับข้อความใหม่
ซึ่งมันอาจจะดูแปลกนะครับ แต่ถ้าคุณเปิดโทรสัพท์เพื่อใช้แผนที่
และสายตากำลังมองสลับกันระหว่างทางข้างหน้า และเส้นทางบนแผนที่
แล้วจจู่ๆ มีโทรศัพท์ตัดสลับเข้ามา มันคงแปลกๆ อยู่
มาดูเรื่องเสียงเพลงนิดนึง ซึ่งในโฆษณาก็ไม่ค่อยบอกเราเท่าไหร่
มีติดเครื่องมาคือวิทยุแบบทศนิยมหนึ่งจุด
โดยส่วนตัวนี่ รู้สึกเสียดายพอสมควรที่โนเกียประเทศไทยไม่ค่อยผลักดัน
Mix Radio เท่าที่ควร คือในตลาดเครื่องรุ่นเล็กจนถึงเล็ก
โนเกียน่าจะเป็นไม่กี่แบรนด์ที่มีระบบการฟังเพลงแบบดีเยี่ยมระดับโลกติดมากับเครื่อง
เพลงในฐานข้อมูลมีมาระดับนึง การฟังแบบ Streaming เรียนรู้ได้ไม่ยาก
คุณภาพเสียงฟัดเหวียงได้กับคู่แข่งในช่วงพิกัดราคาเดียวกันแบบไม่น่าอาย
แต่ปัจจัยเรื่องราคาค่าซื้อเพลงที่สูงกว่ารายอื่น
นั่นก็เป็นปัญหานึงที่ทำให้คนไม่อยากเข้าถึงมากนัก
มาถึงบริการที่โลกลืมอีกตัวนึงของโนเกีย
วึ่งผมคิดว่ามันมีประโยชนฺนะสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนนั่นคือ Bing Travel
คือประเทศไทยนี่เมืองท่องเที่ยวนะครับ แล้วธุรกิจท่องเที่ยวนี่ก็ใช้สมาร์ทโฟนเยอะขึ้นเรื่อยๆ
แล้วคนไทยก็ชอบเที่ยวซะด้วยไม่ว่าจะในประเทศ นอกประเทศ
คือ Bing Travel ก็ทำหน้าที่หลักๆ เหทือนแอพแนวนี้ทั่วไป คือดูเที่ยวบิน สถานะเที่ยวบิน หาที่พัก
แต่ไม่เคยถูกโปรโมทขึ้นมาซักแอะ
ชอบ และไม่ชอบใน Nokia Lumia 630
โอเค..ยี่ห้อนี้งานประกอบชั้นเลิศ แม้กระทั่งด้านในที่ต้องแกะฝาพลิกมาเจอ
กล้องใส่ลูกเล่นเยอะ ซึ่งสวนทางกับคุณภาพเลนส์
เสียงเพลงดังฟังดี แต่โปรโมทน้อยมาก
คือถ้าซื้อไปให้เซลล์ใช้ทำงานแบบไม่กะให้ว่อกแว่กแอพเล่นแอพที่ไม่จำเป็นมันเข้าท่าเลย
เพราะมันไม่ค่อยจะมีแอพแบบชาวบ้านมีกัน
แบตเตอรี่สมตัวใช้งานแบบคนปรกติสบายๆ
บริการหลักๆที่ติดเครื่องมาพวกแผนที่ต้องปรับความคุ้นชินนิดหน่อยก็ใช้จริงได้
โฆษณาที่มีฝรั่งหน้าตาดี มาบอกว่าเครื่องนี้ใช้ทำงานประจำวันได้ จ่ายไม่แพงเข้าไม่ได้โกหกหรอก
แต่ก็นั่นล่ะ คือรู้ว่ายุทธศาสตร์ต่อไปคือพยายามครองตลาดล่างและกลาง
คือหลายอย่างทำมาดีแล้ว แต่ทำยังไงให้คนเข้าถึงได้ โดยเฉพาะแอพและเซอร์วิส
ซึ่งรายอื่นเขาก็มีแบบทัดเทียมกันได้ แต่แค่ไม่ได้ใส่มาแค่นั้นแหล่ะ
ขอบคุณ Microsoft Nokia Thailand ที่เอื้อเฟื้อเครื่องในการทดสอบครับ

























