
AIS LAVA T 4.5 โทรศัพท์พี่ใหญ่ในตระกูล ในตระกูล Black Series
ที่จับคู่กับแพคเกจราคาเครื่อง ฟรีค่าโทรตาโตแบบ AIS 3G Super Combo
คือลำพังราคาดึงดูดใจน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ที่อยู่ในกล่องนี่ต้องลองดูก่อนครับ
กลุ่มเป้าหมายของ AIS LAVA T 4.5
ตอนแรกที่ได้ใบปลิวมาก้นึกสงสัยว่า ว่าทำไมถึงมีเขียนโฆษณาเอาไว้ว่า “รองรับเมนูภาษา ไทย อังกฤษ และพม่า”
ซึ่งเมื่อผมได้ลองสอบถามเพื่อนที่ขายโทรศัพท์ในห้างที่ย่านใกล้โรงงาน
ก็ได้รับทราบข้อมูลว่ารุ่นก่อนหน้าผู้ใช้กลุ่มแรงงาน AEC นี้ซื้อกันไปใช้เยอะจริงๆ
รวมถึงกลุ่มผู้ที่ใช้ Smart phone เครื่องแรกที่ใช้งานพื้นฐาน
อย่างแม่บ้านแถวโต๊ะทำงานผมก็เดินมาสะกิดว่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ซื้อเยอะนะ
พอเห็นภาพที่โอเปอเรเตอร์บ้านเราเอาเครื่องราคาไม่แพงแบบปะยี่้ห้อขายของตัวเอง
โดยนำมาขายกันแบบถล่มตลาดแล้วใช่มั้ยล่ะครับ

สเปคเครื่อง AIS LAVA T 4.5
CPU เป็น Dual Core 1.3 Ghz ส่วน Ram 1 GB มาตรฐาน
แต่ Rom 8 GB นี่น้อยไปนิด ใส่หน่วยความจำเพิ่มนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว
ว่าแต่..ไม่รู้ว่ามีใครไปบ่น AIS หรือเปล่าเรื่องความอืด กับคุณภาพจอของ Lava รุ่นเดิม
เอาเป็นว่าผมได้มาไม่กล้าเขียนถึงก็แล้วกัน
แต่กับรุ่นนี้ความน่าหงุดหงิดที่ผมเคยเจอก็ถือว่าลดไปเยอะ
อย่างน้อยก็รู้สึกว่า Rom ลื่นขึ้น

ส่วนเรื่องของเครือข่ายก็รองรับ 3G คลื่นความถี่ 2100 Mhz
ซึ่งถ้าตีความกันตรงๆ คนที่จะซื้อคือ
คือคุณต้องซื้อมาเพื่อใช้กับ AIS แทบจะเป็นหลักนั่นล่ะครับ
อ่อ…นี่เป็นโทรศัพท์ 2 ซิมนะครับ
ในเรื่องของการรับประกัน AIS เป็นผู้ดูแลให้ครับ 1 ปีจัดไปตามนั้น
มาดูเรื่องที่เราอึ้งในลำดับต่อไป คือหน้ากล่องเขียนไว้แบบนี้ครับ
เป็นจอแบบ IPS ดูใสกว่ารุ่นเดิมแบบรู้สึกได้ ขนาดจอ 4.5 นิ้ว

กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล แบบ Auto Focus และกล้องหน้าคาดว่าความละเอียดน่าจะ VGA
แบตเตอรี่ให้มาแบบพอสมคัวครับคือ 200o mAh ตัวเครื่องอยุ่ในระดับที่หนาเท่าๆ
ช็อคโกแลตแท่งละ 10 กว่าบาทในร้านสะดวกซื้อปากซอยไปนิดเดียว

ตำแหน่งลำโพงเสียงบค่อนข้างดังชัดอยู่

การออกแบบวัสดุหลังเครื่องก็พยายามให้สัมผัสที่ดูดี
มีราคาเท่าที่เครื่องสองพันทำได้ไม่เลวนัก เพียงแต่ต้องหมั่นเช็ดรอยนิ้วมือนิดนึง
และงานกระกอบดูจะบอบบางนิดหน่อยถ้าไม่ใส่เคส
คือน้ำหนักมันค่อนข้างเบาครับขนาดรวมแบตแล้วนะ อาจจะหล่นจากมือเอาง่ายๆ

อ่อ..ในกล่องมีเคสยาง กับฟิมล์กันรอยให้ด้วยนะครับ
ให้ที่ร้านเขาแปะมาให้เลยก็ได้

อุปกรณ์เสริมที่ให้มาอยู่ในเกณพ์ดีอยู่ คือหูฟังอินเอียร์ และสาย USB ที่วัสดุไม่ขี้เหร่
แต่เต้ารับ USB นี่ลืมมันไปเถอะครับ ดูก๊อกแก๊กไปหน่อย
ซอฟท์แวร์เครื่อง AIS LAVA T 4.5
มาดูเรื่องซอฟท์แวร์นิดนึง
ระบบปฎิบัติการเป็น Android 4.4.2 Kitkat แกะห่อช็อคโกแลตมาเลยจากโรงงาน
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีที่ให้ไม่ต้องเสียเวลาไปอัพเดท

เอกลักษณ์คงเดิมครับ แทบจะงัด Stock Rom มาเลย
เปลี่ยนแปลงน้อยมาก มีแอพลิเคชั่น AIS ใส่มาพองามตามเต็มสูตร
ทั้ง AIS App ,mPay ,Ais Live TV ,AIS Privilage
แต่เดี๋ยวก่อน…ที่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง
ก็แอพแช็ตจากเกาหลีอย่าง Kakao ซึ่งทาง AIS หมายมั่นปั้นมือว่า
ถ้าเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้องมี Subscriber กลุ่มใหญ่ที่มากับเครื่องบ้างล่ะน่ะ
ตัวอย่างภาพถ่าย AIS LAVA T 4.5
ซื้อดีมั้ยกับ AIS LAVA T 4.5

ไม่ได้อวยอะไร AIS เพราะก่อนหน้านี้ก็เห็นการลองผิดลองถูก
ในการเอาเครื่องมาทำแบบ House Brand อีกรอบหลังจาก Phone One
ซึ่งหลายครั้งผมก็ส่ายหัวเหมือนกัน
เพราะจะว่าไป Lava ตัวก่อนหน้านั้นผมให้คะแนนอยู่ในระดับ “เฉยๆ”
พอ AIS Lava รุ่นใหม่นี่ ผมพูดได้เต็มปากว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนัก
อย่างน้อยมันก็ไม่ได้กล้องอืด หรือน้ำหนักตัวเท่าที่ทับกระดาษแบบบางบางแบรนด์
ที่เอาเครื่องมาขายอยู่ในตลาดเดียวกัน
เขียนๆไปยังแอบสะอึกกับตัวเองที่ดันใจร้อน
ไปซื้อเครื่องจืนราคาแพงกว่ากันกันนิดหน่อยแต่กล้องแย่กว่านี้หลายเท่า
การมีเครื่องแบบนี้ก็ดีครับจะได้กระตุ้นตลาดการใช้ Data ทางอ้อม
รวมถึงผู้เล่นรายใหญ่ และหน้าใหม่ที่ลงมาทำตลาดระดับผู้ใช้พื้นฐาน
จะได้ทำการบ้านมากขึ้นว่าจะเอาอะไรงัดเข้ามาสู้กัน
นอกจากกลุ่มเป้าหมายหลักที่ผมเขียนถึงไปในตอนแรก
สำหรับกลุ่มที่จะมองโทรศัพท์ไว้รับสายเป็นเครื่องที่สอง
จะซื้อไว้ให้เซลล์ใช้รับสายขายของ คนได้รับเครื่องไปคงไม่มองค้อนขวับหรอก
แต่ถ้าซื้อให้ผู้ใหญ่ต้องบอกว่าขนาดไอคอน กับตัวอักษรมันตัวไม่ใหญ่นักนะครับ
ต้องลองกะด้วยสายตาของผู้สูงวัยดูว่ามองถนัดมั้ย
นี่ผมยังไมได้พูดถึงราคาใช่มั้ย AIS LAVA T 4.5 เคาะราคาอยู่ที่ 2,690 บาท
แล้วโทรฟรี 2,600 บาท แต่อ่านเงื่อนไขเบื้องต้นก่ออนนะครับ
คือ 260 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ใช้ One-2-Call
ถ้าคิดแบบหยาบๆ ใช้ครบปี คุ้มค่าโทร ถึงเวลาก็เปลี่ยนเครื่องใหม่พอจบไม่ต้องคิดเยอะ
จะว่าไปนี่ก็ถือว่าเป็นก้าวกระโดดในการทำราคาอยู่เหมือนกัน
คือ ช่วงก่อนหน้านั้นซักปีกว่าๆ โทรศัพท์ระดับราคาเท่านี้
เราได้จอหยาบๆ ขนาดหน้าจอยาวกว่านิ้วกลางไปหน่อยนึง
เผลอไม่ทันไร เรื่องพวกนั้นกลายเป็นอดีตไปแล้ว…
ขอบคุณ : บริษัท AIS ที่เอื้อเฟื้อเครื่องในการทดสอบครับ



