พาหูฟังไร้สายไร้สายแบบ Bluetooth รุ่นใหม่มาแนะนำกัน 3 รุ่นสำหรับปี 2016 มาแนะนำครับ
JBL Clip + Ultra-Light, Splashproof Portable Speaker
คุณสมบัติที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากรุ่นเดิมคือเป็นลำโพงกันน้ำ เพื่อให้ใช้ชีวิตกลางแจ้งได้อย่างมั่นใจ
การป้องกันน้ำลำโพงจะทำได้ในระดับช่วงฝนตก หรือน้ำกระเซ็นเปียกไม่หนักมากนะครับ
ส่งที่เป็นจุดเด่นอันแตกต่างจากลำโพงพกพาทั่วไปคือการมีตัวล็อค
ที่ใช้นิ้วโป้งกดลงได้ไม่ยาก และมีความแข็งแรงพอสมควรสำหรับการใช้งานในกิจกรรมกลางแจ้ง
เช่น เราเอาไปหนีบกับสายล็อคของกระเป๋าเป้าสะพายหลังได้
การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ไม่ได้ทำมาเพื่อรับสัญญาณเสียงเพียงอย่างเดียว
แต่สามารถใช้เป็นตัวช่วยรับสายจากโทรศัพพ์มือถือ และยังมีไมโครโฟนไว้ใช้สนทนาได้อีกด้วย
โดยจะทำหน้าที่เป็นลำโพงนอกสำหรับสนทนาครับ
การพกพาไปนอกสถานที่บางทีเราอาจจะไม่ไ่ด้ใช้กับอุปกรณ์ที่เป็น Bluetooth ไปซะทั้งหมด
ก็มีบ้างที่หยิบเครื่องเล่น MP3 ติดมือไปเที่ยวด้วย ด้านหลังของลำโพงก็เลยยังมีสายแจ็คขนาดหัว 3.5 ที่ซ่อนไว้
เป็นอีกทางเลือกสำหรับการใช้งานครับ
ส่วนการชาร์จไฟนั้นทำผ่านพอร์ท micro USB หลังจากชาร์จเต็มแล้วสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดนาน 5 ชั่วโมงครับ
และมีช่องเสียบหูฟัง ขนาด 3.5 นิ้วให้อีก 1 รู
Specicfication
- Weight : 150 g
- Power Output : 3.2W
- Frequency Response : 160Hz – 20kHz
- Signal-to-Noise Ratio : Greater than 80 dB
- Transducer : 1 x 40mm
- Height : 107mm
- Width : 88mm
- Depth : 42mm
- Weight : 150g
JBL Flip 3 Portable Bluetooth Speaker
แต่สิ่งที่แตกต่างของรุ่นนี้คือความสามารถในการกันน้ำ
โดยที่ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์คือความหนักแน่นของเสียงจาก Sub Woofer ทั้งสองด้าน
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของลำโพงในตระกูล Flip คือ Subwoofer คู่ที่อยู่ด้านซ้ายและขวา
ที่มีเพื่อการตอบสนองเสียงในย่านต่ำให้ลงลึกมากขึ้น
เวลาที่เราเลือกลำโพงไปใช้นอกสถานจะเลือกที่ลำโพงจะให้เสียงดังอย่างเดียวคงไม่ได้ครับ
เพราะบางกิจกรรมเราเองก็ต้องการเสียงเบสในย่านต่ำให้ฟังออกแบบเด่นชัด เช่น การเอาไปใช้ในปาร์ตี้
อย่างถ้าคุณมี Pool Party เล็กๆ นี่คือตัวเลือกหนึ่งที่คุณควรจะพิจารณา
เนื่องจากเน้นในการใช้งานในพื้นที่เปียกน้ำที่มากกว่า ปุ่มสำหรับสั่งการจึ้มหุ้มไปด้วยยางกันน้ำ
และผิวสัมผัสสำหรับกันลื่น รวมถึงปุ่มสัญลักษณ์ที่นูนขึ้นมาทำให้การกดสะดวกมากขึ้น
ถึงจะใช้ชีวิตกลางแจ้งยังไง บางครั้งเราก็ไม่สามารถตัดขาดจากการติดต่อกับโลกภายนอกได้
ซึ่งรุ่นนี้ก็รับสายจากโทรสัพท์ และสนทนาผ่านไมโครโฟนได้ โดยมีเทคโนโลยีสำหรับจัดการเสียงก้องและเสียงรบกวนจากรอบข้าง
เพื่อเสียงสนทนาที่ชัดเจนมากขึ้น เพราะเราเอาไปใช้ในนอกสถานที่ บางทีเราก็เลี่ยงไม่ได้จากเสียงรบกวนบางอย่างใช่มั้ยล่ะครับ
ทำไมผมถีงบอกไว้ในวรรคก่อนหน้าว่าลำโพงรุ่นนี้เหมาะกับ Pool Party
ลองพลิกอีกด้านของลำโพงดูครับ ในจุดที่อ่อนไหวที่สุดของลำโพงกันน้ำคือช่องของการเชื่อมต่อ
อย่างช่องเสียบเพื่อชาร์จไฟผ่าน Micro USB หรือเสียบเข้ากับแจ็คแบบ 3.5 ถูกปกป้องด้วยฝาปิดยาง
แบตเตอรี่ที่ติดมากับลำโพงนั้นมีขนาด 3000 mAh ให้คุณฟังในการเปิดฟังต่อเนื่องนาน 10 ชั่วโมงครับ
Specicfication
- Weight : 150 g
- Power Output : 3.2W
- Frequency Response : 85Hz – 20kHz
- Signal-to-Noise Ratio : Greater than 80 dB
- Transducer : 2 x 40mm
- Height : 64 mm
- Width : 169 mm
- Depth : 64 mm
- Weight : 450g
JBL Everest 300 On Ear Headphones
หูฟังแบบ On Ear สีสดใสที่มากับเทคโนโลยี Bluetooth 4.1
เหมาะมากกับการหยิบมาใช้ในช่วงเวลาที่ต้องการความเป็นส่วนตัวกับเสียงเพลง
เพราะทันทีที่ครอบศรีษะแล้วประกบ Ear Pad เข้าที่หู เสียงรบกวนจากรอบข้างจะลดลงไปอย่างมาก
การออกแบบของตำแหน่งด้านในนั้น ที่รองศีรษะด้านบนหุ้มด้วยยางแบบยืดหยุ่นที่ให้ความรู้สึกทันสมัย
และอ่อนนุ่มสำหรับการใส่ยืดหยุ่นอยู่ในที ซึ่ง JBL เองตั้งใจว่าจะให้เป็นหูฟังที่สวมแล้วกระชับที่สุด
ในการชาร์จไฟ 1 ครั้งสามารถฟังด้อย่างต่อเนื่องนาน 20 ชั่วโมง
และการฟังเพลงผ่านหูฟังแบบ On Ear นั้นก็ไมไ่ด้หมายความว่าเราจะฟังได้คนเดียว
เรายังแบ่งปันกับเพื่อนข้างๆ ได้ผ่าน Share Me
ตำแหน่งของปุ่มของการวางปุ่มเพื่อการควบคุมอย่าง Volume การเปิดปิดเพื่อการ Pair นั้น
ไม่จำเป็นต้องถอดหูออกมาก็สามารถใช้งานไม่ยากเย็น เพราะสามารถเอื้อมนิ้วขึ้นไปแตะได้อย่างพอดีครับ
ส่วนสุ้มเสียงก็ยังคงลักษณะของค่ายนี้เอาไว้คือเสียงกลางชัด เสียงในย่านต่ำมีไว้ในระดับที่พอให้ฟังสนุก
Specicfication
- Microphone Sensitivity : -42dBV/Pa
- Bluetooth Transmitted Power : <4dBm
- Bluetooth Transmitted Modulation : GFSK pi/4, DQPSK, 8-DPSK
- Bluetooth Spec : 4.1
- Driver Size : 40mm
- 100dB/1kHz 1mW
การทำงานร่วมกันกับ Application
อย่างลำโพงนั้นก็มีแอปพลิเคชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกและต่อยอดการทำงานขึ้นไป
อย่างลำโพงจะมีแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า JBL Connect ซึ่งมีความสามารถตั้งแต่พื้นฐาน เช่น การเปลี่ยนชื่อของอุปกรณ์
Tutorial ที่มห้คำแนะนำในการใช้งาน เช่นการ Pair กันระหว่างลำโพงด้วยกัน
หรือแม้กระทั่งการ Upgrade Firmware ของลำโพง
การ Upgrade Firmware ของลำโพง
กระบวนการนี้ทำเองได้ง่ายๆ ครับ โดยแบ่งตามลำดับขั้นตอนคือ
- ทำการเชื่อมต่อลำโพงกับโทรศํพท์ผ่าน Bluetooth มให้เรียบร้อยก่อน
- เสียบปลั๊กไฟให้กับลำโพง และโทรศัพท์
- ทำการเชื่อมต่ออินเตอร์ผ่านโทรศัพท์
- เปิดเแอปพลิเคชั่น แล้วกดที่คำสั่ง Upgrade speaker
- รอ 10-15 นาที อย่าปิดโทรศัพท์หรือสลับไปหน้าทำงานอื่น
- หลังการ Upgrade Firmware เสร็จสิ้น ให้ทำการเปิด Bluetooth ที่ลำโพง แล้วทำการ Pair อีกครั้ง
ราคาผลิตภัณฑ์ JBL ทั้ง 3 รุ่น
- JBL Clip + ราคา 2,190 บาท
- JBL Flip 3 ราคา 4,390 บาท
- JBL Everest 300 ราคา 5 ,990 บาท
สามารถดูรายละเอียดเว็บของ www.mahajaklife.com ได้เลยครับ
