LG นำเสนอนวัตกรรมของวงการทีวีด้วยเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี OLED TV กับรุ่น EG960T
โดยชูจุดเด่น Perfect Black Perfect Black ที่มา่พร้อมคุณสมบัติขอความเป้น Smart TV และ 3D ครับ
5 ยุคของธุรกิจทีวี
ก่อนที่จะไปลงรายละเอียดเกี่ยวกับโทรทัศน์ก็มาปูความรู้เรื่องประวัติความเป็นมาของโทรทัศน์ซึ่งจะแบ่งเป็น 5 ยุคครับ
ยุคที่ 1 คือ CRT หรือที่เรียกว่าจอแก้ว หรือจอตู้ปลานี่ล่ะ จะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1936 ยุคจอขาวดำนู่นน่ะครับ ความละเอียดจะอยู่ในระดับ SD
ยุคที่ 2 คือ Projection ยุคนี้จะเป็นออกไปในทางกว้างแบบโรงภาพยนต์ จะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1997 ความละเอียดจะอยู่ในระดับ HD
ยุคที่ 3 คือ Flat Screen , Slim Design ยุคนีจะจอกว้างสายบางลงมาครึ่งนึง แต่ยังไม่เท่า LCD จะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 2001 ความละเอียดจะอยู่ในระดับ HD ความเกี่ยวกับ Full HD
ยุคที่ 4 คือ LCD ซึ่งจะเป็นยุค ที่จอนอกจากจะแบนแล้ว ยังเป็นจุดการพลิกโฉมของทีวีในเรื่องของมิติการรับชม จะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 2004 ความละเอียดจะอยู่ในระดับ Full HD
ยุคที่ 5 คือ OLED อย่าง Super Slim นี่คือบางเฉียบลงไปอีก หรือ Curved Design ที่เป็นจุดเริ่มต้นของจอโค้ง ยุคแสดงรายละเอียดลึกถึงรูขุมขน จะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 2013 ความละเอียดจะอยู่ในระดับ UHD
ความต่างของ LCD และ OLED อยู่ที่ตรงไหน
OLED (Organic Light-Emiting Diode) คือโทรทัศน์ที่แต่ละเม็ดพิกเซลกำเนิดแสงได้เอง ไม่ต้องใช้ LED หรือ CCFL วาวงด้านหลังหน้าจอ
ซึ่งลดความหนาของตัวเครื่อง โดยบางลงถึง 80% และเบาที่สุด โดยเบากว่า LED ถึง 30%
ถ้าใครทันยุค LED รุ่นแรกๆ ด้านหลังจะยังไม่บางขนาดนี้นะครับ
เอาเข้าจริงๆ ตลาดโทรศัพท์ความละเอียดสูงแบบ UHD ก็มีแข่งกันไม่กี่เจ้าล่ะครับ
ถ้านับนิ้ว 1 2 3 LG ก็อยู่ในกลุ่มนั้นนั่นล่ะ เป็นมากันตั้งแต่ยุค LED แล้ว
เพราะบ้านผมก็มีจอ LG อยู่ทั้งโทรทัศน์ และจอคอมพิวเตอร์ (โดยเฉพาะอย่างหลังนี่โคตรทน)
ที่คว้ารางวัลมาได้จาก CES ,Redot Design และคำชมจากนักวิจารณือย่าง What Hi-Fi? , Reviewed.com ,นิตยสาร Stuff
อย่าง CES 2016 ทาง LG ก็มีเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดคือโทรทัศน์ที่มี 2 จอหน้าหลัง
อันนี้เราแอบหวังว่าเขาจะเอามาแสดงตัวที่ไทยบ้าง
โทรทัศน์ OLED ของ LG ใช้งานแบบ 3D หรือ 3 มิติได้มั้ยคำตอบคือได้ครับ
อย่างที่เห็นแว่นอยู่นี่ล่ะ อันนี้ไม่ต้องใช้ถ่านราคาไม่แพง และเบามาก
ซื้อเพิ่มได้ที่ศูนย์บริการครับ
ความต่างของ OLED กับ LED อธิบายได้ภาพครับภาพชุดเดียวกัน
ในสาาวะแสงเดียวกันลองเปิดดูในที่มืด เราจะเห็นความ “ดำ” ต่างกันแบบชัดเจน
คือ OLED ให้ความดำที่สนิทกว่ามาก คือฉากของหนังที่ออกทึมๆหน่อย เช่น เวลากลางคืน ฉากหนังอวกาศ
เห็นฉากหลังจ้าๆ ก็คงแปลกๆอยุ่สักหน่อย รวมถึงการแสดงผลเรื่องสี ฝั่ง OLED จะจัดจ้านกว่า

อะไรที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของจอ LG OLED TV
ตั้งแต่ผมเขียนเนื้อหาเรื่อง TV มา หรือแม้แต่รีวิวเองก็เถอะ
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาดูแบบทะลุเบื้องหลังขนาดนี้

เห็นฟิล์มที่พริตตี้สาวน่ารักเธอถือมั้ยครับ มันคือชั้น Layer ของทีวีนั่นล่ะ
อันนี้เรามาถ่ายให้ดูกันใกล้ๆ
อันนี้เราซูมให้ดูที่จขอแบบถอดฟิล์มออกไปแล้ว เราจะเห็นเป็นดวงๆ ที่ให้ความสว่างหลังจอนี่ล่ะ
ในส่วนเรื่องของระบบเสียงเราได้มีการถามว่าได้มีสิ่งที่พิเศษอย่างไรบ้างบ้าง
ทาง LG เองก็ได้มีทำงานร่วมกับ Harman / Kardon ครับ
สนนราคา LG OELD TV EG960T อยู่ที่ราคา 199,990 บาท
เราถามทีมงานไปตรงๆ ว่าทีวีจอใหญ่ขนาดนี้ คือ 65 นิ้วเนี่ย
เท่านี้เสียงตอบรับของคนในแวดวง AV เป็นอย่างไรบ้าง กับโทรทัศน์จอใหญ่ราคานี้
เขาตอบเรากลับมาแบบยิ้มๆครับว่า ของมีเท่าไหร่ก็ขายหมด วางเท่าไหร่ก็หมด
โดยเฉพาะตัวท็อปเพราะคนเขาซื้อไปก็ซื้อใช้ยาวๆ ซื้อเอาทีเดียวคุ้ม 🙂
ขอบคุณ : LG Thailand ที่เอื้อเฟื้อโอกาสครับ











