คุยเรื่องเก่า เล่าความหลัง กินของขม ชมเน็ตไอดอล แบบ “เน็ตเมื่อวานซืน”
กับหนังสือที่พาคุณย้อนหลังเล่าถึงวิถีของชาวเน็ตไทยตลอดช่วง 20 ปี
หนังสือเน็ต “เน็ตเมื่อวานซืน” มีในชื่อภาษาอังกฤษว่า “20 Yrs Ago Kilobyte”
หลังปกเขียนไว้แบบนี้ครับว่า “ตั้งแต่ยุคเน็ต 56k มหาลัย จนถึงยุค free WiFi ทั่วหัวระแหง”
จะเห็นแย้งนิดหน่อย ว่าปี 1996 อ่ะ บางบ้านยัง Modem 33.6k อยู่เลยนะ!
ใครที่เดินผ่านแผงหนังสือ แล้วคิดว่านี่คงเป็นหนังสือเล่าประวัติความเป็นของ Pantip เลยไม่อยากหยิบเท่าไหร่
เพราะเรื่องพวกนั้นคุณๆคงหาอ่านได้จากบทสัมภาษณ์ทั่วไป
แต่เดี๋ยวก่อน..คงต้องบอกก่อนชัดๆ ว่ามันไม่ใช่ในทางนั้นซะทีเดียว
เพราะหนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องการผ่านร้อนผ่านหนาวของ Pantip น้อยมาก
ใจความสำคัญคือการเปิดปูมบันทึกเรื่องเล่าชาวเน็ต
โดยผ่านตัวละคร 3 คนที่เติบโตมากับอินเตอร์เน็ตในยุคสมัยที่แตกต่างกันที่แตกต่างกัน
Geneation-X ,Geneation-Y ,Geneation-Z ซึ่งภาพรวมๆ Geneation-C ตอนนี้ล่ะ
ในสถานที่ที่เรียกว่า “Cafe” ซึ่งนั่ยมีนัยยะหมายถีง Pantip นั่นล่ะ
หนังสือเล่มนี้ไม่มีสารบัญ แต่ผู้เขียนค่อยๆบรรจงดันมุก
เริ่มกันที่สาย Lan ที่สันของปกหนังสือ
จนถึงหมุดหมายของขาวเน็ตแต่ละยุคสมัยที่ต้องได้มีสะดุดกันบ้าง อาทิ
- “ของแท้ต้องแผ่นปั๊ม” จากยุคแผ่น MP3 ตระกูลประเทือง MP3 รุ่งเรือง
- “เมนต์มาเมนต์กลับ” จากยุคไดอารี่ออนไลน์
- “Best View Internet Explorer 6.0” จากยุคสมัยที่คนทำเว็บยังต้องอ้างอิงมาตรฐานจาก IE6
แม้ชาวเน็ตรุ่นแรกของไทยเริ่มจะเริ่มกันที่ยุคประวัติศาสตร์การเชื่อมต่อยังอยู่ที่คอมพิวเตอร์จอแค่ 2 สี
แต่หนังสือเริ่มนับกันที่ยุคของ Windows 95 และแยกเป็น ยุคออฟไลน์คอมพิวเตอร์ในยุคแรกเริ่ม
ยังอยู่ในมือเนิร์ดห้องคอมสถาบัน จนมาถึงยุคออนไลน์ที่ Pantip Plaza คือมหาสถานบูชาดิส์ก 3.5 นิ้ว
แผงพระที่อยู่ใกล้ศุนย์อาหาร ร้านคอมละลานตา
และคำทักว่า “โป๊มั้ยพี่” ที่ก่อเกิดเกิดวลีต่อมาที่ว่า “ไม่ตรงปก” วันที่แช็ตยังต้องเดาหน้าผ่าน Pirch
แจ้งเกิดแอปดอกไม้ ICQ ในวันที่แอปแช็ตเริ่มเบ่งบาน จนการผ่านมาของ MSN
และเงินเหรียญที่กระเด็นไปครั้งละ 3 บาทหลังต่อเน็ตแล้วหลุดไป
จนถึงยุคโซเชียล ที่โลกนี้มี Hi5 มีบัญญัติศัพท์ใหม่อย่างเน็ตไอดอล และไอดารี่ออนไลน์ที่มีวลี “เมนต์มาเมนต์กลับ”
ประมาณเดียวกันกับดันยอดไลค์ Facebook อย่างทุกวันนี้ และจนถึงยุคที่อินเตอร์เน็ตย่อไว้ในโทรศัพท์
แล้วนับกันค่าใช้กันเป็นกิกกะบิต
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย iannnn และ Salmons Book ที่ออนไลน์ชนคงคุ้นเคยกันดี
พูดอวยอย่างสุดคมคงต้องชื่นชมว่า เป็นคนที่เก็บรายะละเอียดได้ครบถ้วนดี
ถ้าบนปกนี่คิดว่าใส่มุกเต็มเหยียดแล้วแล้ว
รายละเอียดข้างในนี่เบียดกันยิ่งกว่าราวกับจะไม่มีเล่มหน้าให้เขาได้เขียนหาค่านมลูกอีกแล้ว
ยกเว้นที่ว่างๆ 2 หน้าก่อนกลางเล่มๆ เหลือไว้..เหลือไว้ทำไม!!!
ภาพรวมหลังจากอ่านครึ่งค่อนเล่มมันก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันอยู่
แต่สำหรับคนที่ผ่านยุคสมัยการล้มลุกคลุกคลานในอุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ตบ้านเรา
อาจจะมีซอกมุมมีแอบขื่นใจข้างในบ้าง ตรงที่ความเป็นไปของบริการแบบเว็บไทยๆ ในสมัยนั้น
ต่างเป็นประวัตคิศาสตร์ที่มาแล้วหายไป เพราะบริการส่วนใหญ่ที่เราใช้กันทุกวันนี้อยู่ในมือต่างชาติกันไปเสียหมด
แต่ทุกสิ่งที่มีอยู่แล้วดับไป ไม่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพความต้องการของผู้ใช้
ของแถมท้ายเล่มนี่เหมาะกับผู้เข้าแข่งแฟนพันธุ์แท้ Pantip.com มากถึงมากที่สุด
เพราะเล่าจุดสำคัญตั้งแต่ปี 1996 ถึง 2015 ใน 3-4 หน้ากระดาษ
คือตัวเว็บเองก็ไม่ค่อยได้มีบันทึกจุดสำคัญๆของตัวเองเท่าไหร่ คือมีอยู่แต่อยู่ลึกลับซับซ้อน
เพราะประวัติศาสตร์ของวงการอินเตอร์เน็ตไทยในมุมมองของผู้ใช้ทั่วไปไม่ค่อยมีบันทึก
กว่าชาวเน็ตรุ่นบุกเบิกจากลงหลักปักฐานสร้าง อิสรภาพในการสื่อารออนไลน์ให้ง่าย
เข้าถึงได้ในทุกชนชั้นอย่างทุกวันนี้
เบื้องหลังสายทองแดง ยังมีเรื่องราวมากมายที่แฝงตัว
และบนทางเส้นใหม่เส้นไฟเบอร์ ยังมีเรื่องราวใหม่กับเรื่องใหญ่ที่กลายเป็นดราม่า
ให้พบเจอ และมีผลต่อใจในทุกวัน
สำหรับชาวเน็ตไทยในยุค 90’s การจะย้อนครุ่นคิดไปว่า
ยุคสายทองแดงมันรันทด มันลำเค็ญและยากเย็นเพียงใด
จะมานึกกันออกก็ตอนหนังสือเล่มนี้ออกจากโรงพิมพ์นั่นล่ะ
ส่วนน้องใหม่ที่เกิดมาในยุค xdsl คงจะได้เข้าในความเป็นมาเป็นไป
ของชีวิตออนไลน์ตั้งแต่เริ่มตั้งไขจ่จนไปถึงปัจจุบัน
สั้นเลยๆ ..ซื้อเถอะครับเล่มละ 220 บาทขาดตัว (ไม่รวมกระเป๋าในรูป)
มีขายที่ร้านซีเอ็ด และร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปครับ
ถ้าซื้อมาแล้วกลัวไม่ฮายังเอาไปรองขาตู้กับข้าว
หรือไปใช้แทนที่รองเมาส์ได้ครับกับปกอาบมันขนาดนี้ .. เชื่อผม
ขอบคุณ : Pantip.com ที่เอื้อเฟื้อหนังสือครับ
