หลังจากที่มีเรื่องราวเผ็ดร้อนของผู้ใช้ Huawei P10 และ P10 Plus ซึ่งลามไปถึง Mate 9
ล่าสุด Huawei ออกมาแถลงการณ์ฉบับแรกแล้ว
หลังจากการแถลงการณ์ของ Huawei Thailand เผยแพร่ออกมาทาง Facebook
กระแสความไม่พอใจในคำตอบก็ดูจะไม่ลดลงไปเท่าไหร่ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
อันนี้แบบจับภาพหน้าจอมานะครับ เรามาลองไล่ดูทีละประเด็นกันก่อน
ความแคลงใจในประเด็น UFS 2.1 และ UFS 2.0 ที่ไม่จบ
“UFS 2.1 เป็นมาตรฐานอินเทอร์เฟสที่กำหนด โดยสมาพันธ์ร่วมด้านวิศวกรรมชิ้นส่วนอิเลคตรอน (JEDEC)
โดยทั้งมาตรฐาน UFS 2.1 (JEDEC Standard No.220C) และ UFS 2.0 (JEDEC Standard No.220 B)
มีอัตราความเร็วเท่าเทียมกัน ระหว่าง 249.6 – 583.04 MB/วินาที หรือ 2496 – 5830.4 Mb/วินาที
และ Huawei Mate 9 Series เป็นไปตามมาตรฐานอินเทอร์เฟสของ UFS 2.1″
อันนี้คือถ้อยแถลงนะครับ ถ้าเราวัดกันด้วยเรื่องความเร็วตามมาตรฐานอินเตอร์เฟส
เราอาจจะยกผลประโยชน์เรื่องให้ไปแบบหยวนๆ
ซึ่งเราก็มองผู้ใช้หลายท่านวัดกันผ่านแอป AndroBench กันอยู่ซึ่งก็คงได้คำตอบกันไปว่าเครื่องตัวเองใส้ในเป็นรุ่นไหนกันไปแล้ว
ซึ่งผลลัพท์ก็ทยอยให้เห็นกันออกมาในหน้า Feed ของกระดานขายมือ 2
แต่ถ้าเรามองลึกลงไป แล้วเข้าไปค้นรายละเอียดความต่างของมาตรฐาน 2 อย่างนี้ในแง่มุมอื่นกันดู
แล้วก็พบว่ายังมีมุมอื่นที่กระตุ้นให้ต้องคิดกันต่อครับ เราเลยลองไปสืบค้นค้นถึงเว็บต้นทางมา
คือเราจะบอกว่าถ้าไม่แม่น อย่าเปิดช่องเนื้อหาที่เป็น FACT ให้ไปค้นต่อทีเดียวเชียวนะ
https://www.jedec.org/standards-documents/focus/flash/universal-flash-storage-ufs
คำอธิบายของ UFS Version 2.1
จากต้นทางเค้าว่ามาแบบนี้
UFS is specifically tailored for mobile applications and computing systems requiring high performance and low power consumption. In March 2016, JEDEC published JESD220C UFS 2.1, which is an update to version 2.0 (published in 2013). JESD220C Universal Flash Storage version 2.1 offers key improvements over earlier versions and will provide data security through the use of inline cryptography between the SoC and UFS Storage device. The new standard is available for free download from the JEDEC website.
แปลเป็นไทยแบบสรุปๆคือ
UFS เป็นมาตรฐานที่ออกเฉพาะสำหรับแอพพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ และระบบคอมพิวเตอร์ที่ต้องการสมรรถนะสูงและใช้พลังงานต่ำ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559
JEDEC ได้เผยแพร่ JESD220C UFS 2.1 ซึ่งเป็นฉบับปรับปรุง 2.0 (เผยแพร่ในปี 2556)
JESD220C Universal Flash Storage เวอร์ชัน 2.1 มีการปรับปรุงที่สำคัญกว่าเวอร์ชั่นก่อน ๆ
และจะให้ความปลอดภัยของข้อมูลโดยใช้การเข้ารหัสลับแบบอินไลน์ระหว่างอุปกรณ์
จัดเก็บข้อมูล SoC และ UFS มาตรฐานใหม่นี้สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ของ JEDEC
ถ้าผู้ใช้ทั่วซื้อโทรศัพท์ในปี 2560 พวกเขาก็ควรจะคาดหวังเทคโนโลยี
และมาตรฐานที่ประกาศใช้ในปี 2559 หรือเปล่า ซึ่งอีกอันมันมาตรฐานปี 2556
อยากให้แบรนด์ลองคิดดูดีๆ ก่อนที่จะหยิบแง่มุมแบบนี้มาแถลงครับ
เพราะสำหรับรุ่นเรืองธงสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังในใจคือสิ่งที่เป็นที่สุดในเวลานั้นล่ะ ..จริงมั้ย
ทำไมผู้ใช้ถึงกลัวการสอดไส้ eMMC
eMMC มาจรฐานล่าสุดอยู่ที่ e.MMC v5.1 ที่ประกาศออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015
เป้นหน่วยความจำแบบแฟลชที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เคลื่อนที่มากมาย
และeMMC รุ่นใหม่มีการรับคิวคำสั่งเป็นครั้งแรก และมีการอัปเดตด้านความปลอดภัย
แต่ทั้งนี้ eMMC ก็มีข้อจำกัดในความเร็วของการเขียนข้อมุล และมักใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ราคาไม่แพงนัก
ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “low-cost Memory”
ส่วนมาตรฐานของ Flash Memory ระหว่าง
https://www.jedec.org/category/technology-focus-area/flash-memory-ssds-ufs-emmc
แนวทางการแก้ไขวิกฤติศรัทธาของ Huawei กับกรณี P10 และ Mate 9
ปัญหามาจากแนวทางของ Global แต่ท่าทีการแก้ไขปัญหาอาจจะมาจาก Local
เราคิดว่าการสงวนท่าทีสำหรับหน่วยงานในประเทศไทย อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้
หรือเลือกเงื่อนไขการชดเชยให้ในสิ่งที่เหมาะสมแต่ต้องให้เร็ว
ปัญหาอาจจะไม่ได้หายไปทั้งหมด แต่ “ปม” ที่หลายคนกำลังฝังใจ
ต้องการการแก้ไขคือ “การพูดอย่างจริงใจ” และ “ไม่สร้างเงื่อนไขเพิ่ม”
และซึ่งการให้ช่องทางการติดต่อโดยส่งไปหา Call Center ซึ่งหน้าที่หน่วยงานนั้นควรจะให้แก้ไขปัญหาการใช้งาน
หรือตามงานซ่อมมากว่า เราไม่คิดว่านั่นนั่นคือการแก้ปัญหาเกาที่ถูกที่คัน
ที่เราพูดประเด็นนี้ไม่ได้ต้องการเปิดอะไรอะไรให้ช้ำไปกว่าเดิม
แต่ที่เราจะบอกคือ ก่อนจะแถลงอะไรให้ลองคิดซ้ำในใจผู้บริโภคให้ดีว่าเขาคาดหวังอะไร แล้วเติมลงไปที่จุดนั้น
อย่าไปเปิดช่องโหว่ใหม่ให้ตีต่อเพิ่มได้ นั่นล่ะคือการแก้ไขวิกฤติออนไลน์
ผมยังจำได้ดีในวันรที่แยรนดืมาถึงในไทยช่วงแรกๆ แล้วประกาศว่าจะก้าวขึ้นสู่ Top 3 ของการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ได้
ซึ่งพวกเขาก็ทำได้จริงๆ เราก็นับถือความพยายามของพวกเขาในส่วนนั้น
ลองนึกย้อนกลับไปดีๆครับว่าขึ้นมาได้เพราะอะไรแล้วกลับไปแก้ไขที่จุดนั้นครับ
