
เปิดราคา Galaxy s8 และ s8+ ก็พูดถึงกันไปทั้งบางเพราะช่วงห่างที่ต่างจากเดิมนี่ล่ะ
แถมมีคู่แข่งวิ่งไล่ไม่ยอมห่าง เราลองกรองเหตุผลและเปรียบเทียบให้คุณดูเผื่อตัดสินใจครับ
ราคาและความจุเปิดตัวของ Samsung Galaxy S8 และ S8+

Galaxy S8 เปิดตัวมากับความจุ 64 GB ราคา 27,900 บาท
Galaxy S8 S8+ เปิดตัวมากับความจุ 64 GB ราคา 30,900 บาท
การเปิดตัวที่ความจุ 64GB นี่ร้องอู้หูมั้ย..คือความจุตรงนี้
กลายเป็นมาตรฐานของตลาด Smart Phone ระดับ Premium ไปแล้ว
แต่ประเด็นที่คนพูดถึงจริงๆคือราคานั่นล่ะ ลองนั่ง Time Machine ย้อนกลับไปดูราคาในปี 2016 กับ Samsung Galaxy S7 และ S7 Edge กัน
Samsung Galaxy s7 Edge เปิดตัวราคาอยู่ที่ 26,900 บาท ความจุ 32GB ปัจจุบันราคาเหลือ 16xxx-18xxx บาท
Samsung Galaxy s7 เปิดตัวราคาอยู่ที่ 23,900 บาท ความจุ 32GB ปัจจุบันราคาเหลือ 14xxx-15xxx บาท
มองด้วยสายตาปราดเดียวก็รู้แล้วว่าคือราคาเขยิบตัวหมุนตึ้วๆ ขึ้นไป 4,000 บาท
แน่นอนว่าผู้ใช้ Galaxy S7 เดิมนี่คือคนกลุ่มที่น่าจะส่งเสียงระงมดังที่สุดแล้วกับส่วนต่าง
แต่พิจารณานิดนึงก่อนว่า คือหารเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือจอที่มีพื้นที่แสดงผลใหญ่ขึ้น และจอที่ใหญ่ขึ้นไปอีกระกับ และจอขอบโค้ง “ทั้งคู่”
ดูเหมือนว่าทางแบรนด์ก็เข้าใจในจุดนี้ดี เลยมีของแถมให้ดังนี้
ของแถม Samsung Galaxy S8 และ S8+
- Starter Kit (Clear Cover สีดำ / ฟิล์มกันรอยด้านหน้า 2 ชิ้น / Stand Wireless Charger Micro USB Cable) มูลค่า 3,260 บาท
- Level Box Slim มูลค่า 3,190 บาท
- คูปองส่วนลดมูลค่า 500 บาท จาก 11street
รวมมูลค่าทั้งสิ้น 6,950 บาท
ในมุมมองของเราคือรุ่นใหญ่ๆ เขามักมี Gift Set ให้คือถ้าไม่เคสดีไซน์พิเศษ ก็มีของกระจุกกระจิก
เอาเป็นว่าก๋อย่างที่รู้กันในวงการว่า Samsung ให้ของแถมมาน่าจะดีที่สุดแล้ว
(แต่คงมีคนซักค้านในใจว่าขอเป็นส่วนลดเถอะ)
เทียบราคา Galaxy s8 กับคู่แข่งตลอดกาล Apple iPhone
เอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะ iPhone ออกมาก่อนหน้าแล้วหลายเดือน
แต่มี iPhone RED นี่่ล่ะ ที่ออกมายั่วน้ำลายให้สาวก
iPhone 7 32GB ราคาขาย 26,500 บาท และ 128 GB ราคาขาย 30,500 บาท
iPhone 7 Plus 32GB ราคาขาย 31,500 บาท และ 128 GB ราคาขาย 35,500 บาท
ราคานี้เป็นราคาโดยตรงจาก Apple Store ยังไม่นับสารพัดโปรจากโอเปอเรเตอร์อีก
ซึ่งถ้าเทียบราคากันแล้ว จุดเด่นเรื่องการทำราคาที่เคยมีช่องว่างห่างกันพอสมควร
ตอนนี้เป็นกลายเขยิบราคาเข้าหากันมากขึ้น ทำให้คนที่คิดย้ายค่ายจากหุ่นเขียวไปผลไม้นี่ถึงกับคิดไปนิดนึง
ว่าราคาเรือธงสองฟากนี้ราคาห่างกันนิดเดียว
เทียบราคา Galaxy s8 กับคู่แข่งรายใหม่ Huawei P Series
ปี 2016 นับว่าเป็นปีทองของ Huawei ในการทำตลาดในประเทศไทย และเอเชีย
กวาดยอดขายไปได้ไม่น้อยเลยล่ะ แตนั่นก็แลกมาด้วยสงความการทำราคา
ซึ่งใครที่ตามข่าต่างประเทศเองคงทราบดีอยู่ว่า ถึงยอดขายได้มามหาศาล
แต่ตัวกำไรนั้นค่อนข้างบาง แต่กลยุทธิ์นี้ก็ยังใช้มาขย่มกันต่อ
กับคู่แข่งที่รอสร้างยอดขายในไทยแบบจ่อรถต้นคออย่าง Huwaei ล่ะ และเรือธงอย่าง P10
Huawei P10 ราคาขาย 17,900 บาท สำหรับ 32 GB และ 19,900 บาท สำหรับ 64 GB
Huawei P10 Plus ราคาอยู่ที่ 23,900 บาท สำหรับ 64 GB
ขณะถ้าพ่วงโปรโมชั่นของโอเปอเรเตอร์จะลดไปอีกราว 4000 บาท
แต่มีการชำระค่าบริการล่วงหน้าอีก 2,000 บาท
ตอบแบบไม่ต้องพกเครื่องเลขเลยว่าส่วนต่างตรงนี้ ซื้อ Android สเปคกลางๆ ได้อีกเครื่อง
แต่สุดท้ายบหลังหนึ่งปีผ่านไปค่าตัวของทั้งคู่ หล่นหายไปหนึ่งหมื่นบาทพอๆ กัน
จุดตัดสินใจของ Smasung Galaxy S8 และ S8+
ถ้าเราใส่แว่นตาของ GEEK คือ Galaxy S8
ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 9 Octa 8895
ส่วน Galaxy S7 ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Exynos 8 Octa 8890
ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz ทั้งคู่ RAM ขนาด 4 GB เท่าเดิม
microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 256 GB นี่ก็เท่าเดิม
แบตเตอรี่ Li-Ion 3,500 mAh จะน้อยกว่าเดิมเล็กน้อย
คือของเดิมอยู่ที่ Li-Ion 3,600 mAh
เรื่องขนาดพื้นที่หน้าจออันนี้คงเทียบกับไม่ได้ เพรา Galaxy S8 ฉีกกฎการออกแบบของตัวเองและเพื่อนรอบข้างไปแล้ว
ส่วนเพื่อนร่วมวงการจะตามมาเร็วแค่ไหนเดี๋ยวก็รู้กัน
แต่ที่แน่ๆ ความน่าสนใจของ S8 คือ การที่เป็น LTE Cat16
ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 1024 Mbps และ ความเร็วในการอัพโหลดสูงสุด 150 Mbps
พูดง่ายๆคือ เป็นโทรศัพท์แรงทะลุระดับ Gigabit แล้ว
รองรับเทคโนโลยี 4CA 4-Carrier Aggregation หรือการรวมคลื่นความถี่สูงสุดถึง 4 คลื่น
แต่เดี๋ยวก่อน .. สำหรับสาย Speed Test ทั้งหลายให้ความเห็นว่า
ราคานี้ 4×4 mimo 256qamคือถูกมาก แต่มันไม่มีน่ะสิ
อันนี้ขึ้นอยู่กับ Samsung และตัวเครือข่ายด้วยว่าจะอะไรยังไงกันต่อ
Bluetooth 5.0 อันนี้ Sony พูดถึงก่อนแต่การวางขายและใช้งานจริง Samsung แซงไปแล้ว
ประเด็นเรื่อง GPS อันนี้ไม่หนีกันกับคู่แข่ง
– รองรับ GLONASS : Global Navigation Satellite System
– รองรับ BDS : Beidou Global Navigation Satellite System
– รองรับ GALILEO : European Global Navigation
ถ้ามันจะมีจุเสะกิดใจก็คือการรองรับย่านความถี่นี่ล่ะ
ของ Galaxy S8 จะรองรับตามนี้
4G LTE Band 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 17, 20, 28 (700/800/850/900/1700/1800/1900/2100/2600 MHz)
ของคู่แข่งอย่าง P10 Plus
4G LTE Band 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 9, 12, 17, 18, 19, 20, 26, 28, 29, 38, 39, 40, 41 (700/800/850/900/1800/1700/1900/2100/2300/2500/2600 MHz)
ถ้ามองแบบตัวเลขล้วนๆ ความกวาดเอาความดีความชอบไปหมด
แต่เอาเถิด ถ้าคุณไมได้ไปประเทศที่แปลกประหลาดมาก ย่านความถี่ตรงนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นท่าไหร่
เว้นแต่ว่าคุณมีโทรศัพท์เครื่องเดียวแล้วเที่ยวทั่วโลกอาจจะฉุกคิดนิดนึง
ลูกเล่นใหม่ของ Samsung Galaxy S8
เราลองถอดแว่นของความ Geek อล้วสำรวจความเห็นผู้คนรอบข้างดู
คือด้วยราคาที่ห่างกับ Galaxy s7 แบบทิ้งเป็นทุ่ง
ก็แหงล่ะออกมาปีนึงแล้วนี่ ส่วนต่างนี่ห่างหลักหมื่นหลายคนคงเริ่มตัดสินใจ
ว่าจะไม่ยอมล้ำไปไกลกับของใหม่หรือจะกัดฟันกันไปเลยดีนะ
เราถ่ายวิดีโอแนะนำคุณสมบัติใหม่ให้คุุณดูที่ด้านล่างนี้แล้วครับ
คุณน่าจะมีคำตอบให้ตัวเองง่ายขึ้นอีกนิด



