Tech!

พาเดิน AIS D.C. พื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์แห่งใหม่ในย่านใจกลางเมือง

เปิดแล้วกับ AIS D.C. พื้นที่ที่เราอยากเรียกว่าเป็น Creator Space and Community แห่งใหม่ของคนไทยในย่านใจกลางเมือง
โดยเป็นการทำงานร่วมกับ TCDC (Thailand Creative and Design Center)

แนวคิดในการสร้างพื้นที่

เดินเข้ามาใช้บริการ AIS D.C. ต้องจ่ายเท่าไหร่

ถ้ามาใหม่เลยกรุณาแวะเคาทน์เตอร์ข้างหน้าเพื่อลงทะเบียนผู้ใช้ก่อน
จิ้มๆบน iPad แค่ 2 นาทีไม่มีเกินนั้น
ราคาที่ปรากฎด้านล่างคือราคาโปรโมชั่นจากราคาปกติ 3,000 บาทต่อคน

  • แบบจ่ายค่าบริการรายวัน 150 บาท / คน
  • แบบจ่ายค่าบริการรายปี บุคคลทั่วไป 1,200 บาท / คน
  • แบบจ่ายค่าบริการรายปี นักเรียน / นักศึกษา  600 บาท / คน

ราคาค่าใช้บริการก็คิดไม่ได้แพงขนาดนี้ เราเลยถามผู้บริหารไปตรงๆ ว่าคุ้มมั้ย
คำตอบคือเอาในระดับที่พออยู่ได้มีจ่ายค่าน้ำค่าไฟ
แต่ก็มีแผนที่จะหารายได้จากการเช่าพื้นที่จัดแสดงส่วนอื่นๆ

มีอะไรให้นั่งอ่านอัพกบาลอาหารสมอง

หัวข้อหลักๆของที่นี่เลยคือการเป็น “ห้องสมุด” ที่รวบรวมหนังสือ และนิตยสารสารเกี่ยวกับเทคโนโลยี และการออกแบบ
เห็นทีมงานบอกว่ามีทั้งใน และต่างประเทศ กว่า 10,000 เล่ม ในแบบรูปเล่ม และ Digital Platform

แต่จากที่เรากวดตาและหยิบอ่านไปคร่าวๆ เจอแต่ภาษาอังกฤษแฮะ แต่หนังเสือเยอะขนาดนี้
ค่าสมาชิกแค่ 1,200 บาท / ปี อ่านซัก 3-4 เล่มก็คุ้มแล้ว
จริงๆ ขอบเขตหนังสือก็ค่อนข้างกว้าง
เราจะเห็นตั้งแต่หนังสือแนวแฟชั่น การออกแบบ แนว type แนว maker  แนว start-up จนไปถึง marketing 4.0 ของ kotler

อัตราค่าบริการงานเอกสาร

บอกก่อนนะครับว่า ที่นี่ไม่มีให้ยืมหนังสือกลับบ้าน มีแต่ถ่ายเอกสารหรือว่าสแกนเอา และมีตรวจกระเป๋าขาออกว่ามีใครแอบจิ๊กหนังสือมั้ย
ฉะนั้นสแกนหรือว่าถ่ายเอาเหอะ

ถ่ายเอกสาร/พิมพ์เอกสาร

  • A4/สี  ราคา 2 บาท
  • A4/ขาวดำ ราคา 10 บาท
  • A3/สี ราคา 5 บาท
  • A3/ขาวดำ ราคา 20 บาท
  • สแกนเอกสารทุกขนาด ราคา 8 บาท

จะนั่งทำงานที่นี่มีปลั๊กไฟมั้ย

ให้ดูสภาพโต๊ะรวมๆ ก่อน อารมณืประมาณห้องสมุดนั่นล่ะครับ โต๊ะยาวๆ เรียงตัวกัน
แต่ข้างๆ ยังมีโซฟานุ่มๆให้นั่งอยู่ แต่เหมาะกับนั่งอ่านอะไรเพลินๆยาวๆ มากกว่า
แล้วเราลองเดินไปเปิดตามโต๊ะ เยี่ยม..มีปลั๊กรางให้ด้วยเพียงแต๋ต้องงัดฝาขึ้นมานิดนึง

เปิดห้องประชุมรวมกลุ่มหาไอเดีย

ห้องมี 3 ขนาด คือเล็ก กลาง ใหญ่ มี WiFi มีทีวี  คือ WiFi มีครอบคลุมทั้งชั้นอยู่แล้วล่ะ
จริงๆ เราอยากเรียกมันว่าห้องตู้ปลามาก แต่มันเก็บเสียง และกันเสียงจากข้างนอกดีทีเดียว
ราคาไม่แพงเท่าไหร่ถ้าหารค่าชั่วโมงแบบมาครบหัวที่นั่งเต็มความจุ

ค่าบริการห้องประชุม

  • 150 บาท/ชั่วโมง (4 ที่นั่ง)
  • 200 บาท/ชั่วโมง (6-8 ที่นั่ง)
  • 250 บาท/ชั่วโมง (8-10 ที่นั่ง)

มีอะไรให้ใช้ในห้องสตูดิโอ

เราถามมาราคามาเรียบร้อยคือคิวนึง 500 บาท ถามว่าถูกหรือแพง
ปกติสตูดิโอสำหรับถ่ายภาพทั่วไปจะอยู่ที่คิวละ 1400-1500 ต่อช่วงเวลาราวๆ 3-4 ชั่วโมง
ในฐานะที่เราทำสตูดิโอที่บ้านแบบเล็กๆ คือเรามองว่าสิ่งที่ดีสำหรับคนทั่วไปคือห้องมันกว้างมาก
เดินทางสะดวก แต่ถ้าจะคาดหวังว่าต้องมี  Green Screen Backdrop มีอุปกรณ์ประกอบฉากจัดเต็ม
มีลิมโบ้ และ Seamless Paper หลากสีเยอะๆ บอกเลยว่าไม่ถึงขนาดนั้น


คือมีฉากสีขาว โต๊ะไฟขนาดกลางๆ มีไฟต่อเนื่องพร้อม  Softbox และแฟลชร่มให้ใช้
คือตอบโจทย์การถ่ายภาพโปรดักส์ขนาดไม่ใหญ่มากมากกว่า
แต่เราก็ยุงยงทีมงานไปว่า ถ้าห้องจะใหญ่ขนาดนี้ทำ Video Studio ขนาดย่อมๆได้เลย
แต่จากที่เดินในห้อง คือจะใช้ถ่าย VDO ก็ได้นะแต่ฉากมันไม่ได้เหมาะขนาดนั้นแค่นั้นเอง

ชุมชนคน Startup

นี่น่าจะเป็นโอเปอเรเตอร์รายแรกในไทยและครั้งแรกของเอเชีย ที่ให้ Startup ได้ทดสอบระบบเชื่อมต่อ API
บน Product & Service  รองรับการทำ Digital Business ที่หลากหลาย อาทิ ระบบชำระค่าใช้บริการ, ระบบสิทธิพิเศษ , ระบบส่งข้อความถึงลูกค้า
ซึ่งนี่ก็เป็นการต่อยอดการทำงานกับ Startup อื่นๆ มาก่อนหน้า

อันที่เราเห็นมันตั้งอยู่มีแต่คนเดินผ่าน  เราเลยเดินปรี่เข้าไปถึงรุ้ว่านี่คือบอร์ด Arduino
ซึ่งเป็น Open-source electronic platform ซึ่งมีคนเอามาพัฒนาใส่เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ วัดความชื้น
และส่งข้อมูลกลับมายังคอมพิวเตอร์โดยผ่าน 4G สำหรับงาน Smart Home หรือ Smart Farm

นั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือแล้วหิวกินอะไรได้ กินอะไรดี

คือบางทีจะลุกไปไหนไกลๆ ก็กลัวว่าเสียทำเลนั่ง
ลองหันหลังไปที่ด้านหลังของบริวเณจะเจอคาเฟ่เล็กๆ ของไล-บรา-รี่  ซ่อนอยู่


แน่นอนลูกค้าน้องอุ่นใจ และระดับเซเรอเนดก็รับลส่วนลดพอหอมปากปอมคอ
จ่ายเงินด้วย mPay ก็ได้  ส่วนเมนูที่เรากินดื่มแล้วชอบ และคิดว่ามันอร่อยสำหรับเรา คือ มัทฉะลาเต้ วาฟเฟิลชาเขียว
ถาดนึงมาหลายแผ่นอยู่ลองดูได้ถ้าไม่กลัวอ้วน สนนราคาก็พอๆ กับนั่งร้านกาแฟข้างนอกทั่วไป
แต่ไม่อนุญาตให้เอาของกินเดินเข้าไปในส่วนโต๊ะทำงานนะครับ ให้นั่งทานเป็นที่เป็นทางที่ด้านนอก

เดินทางมา AIS D.C. ยังไงไม่ให้หลง

ป้ายยามาขนาดนี้มันต้องมีคนหลงกลอยากมากันบ้างสิ
แต่เราก็ค้นพบเช่นเดียวกันว่าการเดินทางเข้ามาตอนแรกเส้นทางมันพิศวงใช้ได้

เอาง่ายๆ .. นั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงพร้องพงษ์ เดินจากสะพานเชื่อมเข้ามาตรงห้าง Emporium
หาบันได้เลื่อนเดินขึ้นไปตรงชั้น 4 ที่เป็น Food Cort หน้าตาไฮโซ
จะมีบันไดเลื่อนแอบๆ อีกอันนึงที่พาเราไปถึงชั้นโรงภาพยนต์
ขึ้นบันไดมาจนหน้าเจอโรงหนัง ให้หันหลัง 360 องศาจะเจอทางเข้าพอดี

สนใจรายละเอียเพิ่มเติมติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/aisdesigncentre/ ครับ

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Back to top button