Nubia Z9 mini เป็นโทรศัพท์รุ่นเล็กจนถึงกลาง วางตำแหน่งในฐานะของการเป็นเครื่องที่เรียบหรูดูดี
มีคุณสมบัติของกล้อง แบบ DSLR มาย่อไว้ และ CPU แบบ 64 bit 8 core
แรกสัมผัสของความหรูหรา
ตอนที่เราได้เครื่องมาทดสอบคือมาตัวเครื่องแบบเปล่าเปลือยไม่มีกล่องแพ็คเกจ
บอกตรงๆ ตอนแรกเราก็ไม่คาดหวังอะไรเท่าไหร่ พอแกะซองออกมาดูเท่านั้นล่ะ ตัวเครื่องนั้นดูดีกว่าที่เราคิดไว้ “เยอะ” เลย
ตรงกลางเครื่องที่เสริมความแข็งแรงด้วย Aluminium Titanium Alloy
มันอาจจะไม่ใช่โทรศัพท์ที่บางที่สุด แต่นั่นก็ทำให้เครื่องดูแข็งแรงและดูมีราคาไปพร้อมๆกัน
เพียงแต่ฝาหลังต้องการเช็ดทำความสะอาดบ่อยอยู่สักหน่อยเพื่อแลกกับภาพลักษณ์นี่ล่ะ
และที่ต้องดูแลรักษากันอีกนิดคือ ช่องเสียง microSD Card คือเปิดฝามาโล่งๆ
หน่วยความจำในเครื่องมีมา 16GB เพิ่มได้เต็มที่คือ 64GB
การเชื่อมต่อกับ WiFi ในระดับมาตรฐาน AC
การเชื่อมต่อกับ WiFi รุ่นนี้รองรับมาตรฐาน 802.11 b/g/n/ac
ซึ่งนั่นหมายถึงการรองรับ Wi-Fi 2.4GHz และ 5GHz อ่านไม่ผิดหรอกครับ 5GHz จริงๆ
ทำไมเราถึงพูดเรื่องนี้ เพราะว่าอินเตอร์เน็ตบ้านยุคใหม่
ตัว Router จะปล่อยสัญญาณแยกออกจากกันมาเป็น 2.4 Ghz และ 5 Ghz แยกกันอยู่แล้ว
ตอนแรกเราก็ไม่คิดหรอกว่าด้วยเครื่องมันตัวแค่นี้จะรองรับ จนลองจับ WiFi 5GHz ที่ใช้อยู่
ใครที่อินเตอร์เน็ตบ้านปล่อยมาแรงๆ ตัวนี้สามารถดึงความเร็วออกมาได้เต็มที่
ส่วน Bluetooth 4.0 คือว่ามาตามมาตรฐาน
ซอฟท์แวร์ และมัลติมีเดีย
OS ที่ติดเครื่องมาเป็น Android 5.0.2 ซึ่งเรามองว่าน่าจะอัพเกรดไปได้มากกว่านี้
อย่างน้อยก็ควรจะเป็น Android 6 เราลองกด Update หลายครั้งก็ยังอยู่เท่าเดิม
แต่ถ้าถามว่ามีผลกับการใช้งานแอปทั่วไปมั้ยก็บอกเลยว่าไม่สำหรับการใช้งานทั่วๆไป
แต่มองอีกมุม CPU รุ่นนี้ให้มาในระดับกลางๆ คือ MSM8939 Octa Quad 1.7GHz Quad 1.0GHz
64 bit และมี Ram 2 GB เท่านั้น
ในแง่ของมัลดิมีเดียนั้น ถึงเขาจะไม่ได้พูดถึงมันแต่เราดันอยากช่วยพูดให้
คือรุ่นนี้สามารถส่งภาพของหน้าจอตัวเองไปยังโทรทัศน์ได้โดยผ่าน WiFi
รวมถึงสามารถส่งสัญญาณภาพ เสียง ภาพยนต์ เกม ไปยังโทรศัพท์อีกเครื่องได้แต่ต้องเป็น Nubia เหมือนกัน
กล้องตัวเล็กกับคุณสมบัติแบบกล้องใหญ่
ถึงเขาจะบอกกับเรามาแต่แรกว่ากล้องมากับเลนส์ 6 ชิ้นแต่ F2.0
แต่ข้อนี้เราไม่ได้คาดหวังอะไรมาแต่แรก เพราะนี่เรากำลังถือรุ่นเล็กจนถึงระดับกลางอยู่
แต่พอเราปาดเข้ามาที่เมนูกล้อง ถึงได้เข้าใจในจุดขายที่เขาบอกว่า
ยกคุณสมบัติของกล้อง DSLR ย่อส่วนลงมานี่ก็จริงแบบที่เขามานั่นล่ะ
คือเมนูกล้องนี่ถูกถ่ายถอดกันมาจากรุ่นใหญ่ชัดๆ ในราคาเท่านี้คือใส่กันมาให้อย่างสุด
ฟิลเตอร์กล้องเยอะอะไรเบอร์นั้น คือมีทั้ง Time-lapse , Multi Exposer , Light Painting
, Special Effect , Electronic Aperture ,Slow Shutter , Star Track
ซึ่งแต่ละหมวดถ้าอ่านชื่อ filter อาจจะไม่ค่อยเข้าใจ
แต่ก่อนใช้งานมีตัวอย่างภาพให้ดูก็พอที่จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น
แล้วพอปาดเข้ามาในส่วนของเมนูกล้องเพื่อดูการปรับแต่ง
ตั้งแต่ DOF Dectection ,Snapshot , HDR ,Grid , Continuous capture , Gradienter ,Compass
นั่นยังไม่รวมถึง Golden Ratio มีเข็มทิศตอนถ่ายรูป รวมไปถึงชุด Preset สำเร็จสำหรับการถ่ายรูป
แต่ละอย่างที่ใส่มานี่คืออย่างสุด
แต่อย่างที่บอก CPU ของเครื่องอยู่ในระดับกลkงๆ อาจจะดูไม่ค่อยทันใจเท่าไหร่ในการใช้งานกล้อง
มันก็ไม่ใช่ควักมาแล้วถ่ายได้แบบปุบปับนะ แต่ก็ไม่ได้หยิบมาถ่ายแล้วรู้สึกแย่แค่ไม่เหมาะกับคนใจร้อน
ชมตัวอย่างภาพถ่ายกดที่นี่
ซื้อดีมั้ย Nubia Z9 Mini
ถ้าคุณชอบโทรศัพท์เครื่องขนาดพอดีมือ ที่ดูดีมีสกุลเวลาถือหน้าตาเกินราคา
นี่คือเครื่องที่ตอบโจทย์เลยทีเดียว อย่างน้อยเราก็แน่ใจว่าเขาใส่ใจกับการออกแบบอยู่พอสมควร
โดยราคาขายอยู่ที่ 3,790 บาท
ส่วนเรื่องกล้องนั้นจัดว่าซอฟท์แวร์ที่แถมกันมาให้จัดปรับแต่งการถ่ายได้สนุกดีถ้ามีเวลาทำความเข้าใจกับมัน
คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ตามราคา ถ้าอยากไดุ้คณภาพของภาพมากกว่าที่เห็น
คงต้องเขยิบไปเล่นรุ่นที่ใหญ่กว่านี้ ถ้าเรามีโอกาสได้ทดสอบอีกครั้ง เราเองก็อยากจะลองรีดประสิทธิภาพอยู่เหมือนกัน
ขอบคุณ :Nubia Thailand ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ในการทดสอบครับ