Review!

รีวิว nuraphone หูฟัง Headphone อัจฉริยะ เรียนรู้ และปรับเสียงเองตามหูผู้ใช้

หูฟัง nuraphone

คงจะดีถ้าหูฟังสักคู่นั้นทำการเรียนรู้ และปรับแต่งการฟังให้เข้ากับผู้ใช้แบบอัตโนมัติ ซึ่ง nuraphone ก็เป็นหูฟังแบบ headphone ที่สามารถทำแบบนั้นได้
และยังมีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความเป็นหูฟังแบบ On-Ear และ In-Ear เข้าไว้ด้วยกัน

Tech Specs

ขนาด : 190 x 170 x 88 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 329 กรัม
การเชื่อมต่อ : Bluetooth aptX HD, Universal Wired (Lightning, USB-C, micro-USB, analog)
แบตเตอรี่ : Lithium Ion Battery, ฟังต่อเนื่องสูงสุดนาน 20 ชั่วโมง
ระบบป้องกันเสียงรบกวน : Active Noise Cancellation (ANC) + Dual passive isolation
วัสดุ : แสตนเลสเกรดชั้นดี, aluminium cups, แพดข้างแบบ hypoallergenic silicon 
ไมโครโฟน : ไมโครโฟนนอกสำหรับรับสาย

แว้บแรกที่เราแกะกล่อง เรารู้สึกสองสามอย่าง

1. เออ..เป็นหูฟังที่ทรงแปลกประหลาดดีมาก ตอบยากน่ะว่ามันดูสวยหรือว่าดูแปลก คือใช้คำว่ามันคือการผมสมผสานระหว่างคำว่านี่คืองานศิลปะ และมีความเป็นวิทยาศาสตร์จัดๆ เหมือนเราดูหนังวิทยาศาสตร์ที่ขึ้นยานอวกาศ แล้วเจออารยธรรมจากต่างดาว หรือว่ามนุษย์ในอนาคตนั่งไทม์แมชชีนจากอนาคตแล้วหย่อนมาฝากไว้ให้มนุษย์ในยุคอดีต

2. สายชาร์จ USB นี่ใจคอจะไม่ให้ใช่ร่วมกับใครได้เลยใช่มั้ย เพราะพอร์ท USB ของหูฟังตัวนี้จะแตกต่างจากหูฟังโดยทั่วไปคือเป็นพอร์ต USB ที่เป็นมาตรฐานของตัวเองไม่ใช่ Micro USB เหมือนหูฟังทั่วไปๆ

3. กล่องหูฟังเราคิดว่ามันอลังการดีมาก ในนั้นมี Ear Tips จำนวน 2 คู่ คือ S และ M ความใส่ใจในเรื่องกระจุ๊กกระจิ๊กคือกล่องนั้นด้านล่างติดแม่เหล็กด้วย คือใส่กล่องมายังไงก็ไม่ดิ้นหลุด  

ระบบการปรับแต่งเสียงอัตโนมัติของ Nuraphone  ทำงานอย่างไร

คือปกติแล้วหูฟังจะมีแนวเสียงของตัวเอง แต่นี่ทำสิ่งที่ตรงกันข้าม คือตัวหูฟังจะเล่นเสียงหลายประเภทเข้าไปในหูแล้ววัดเสียงจาง ๆ ที่หูของคุณสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อเสียงเรียกว่า Otoacoustic Emission (OAE)  ซึ่งสัญญาณเล็ก ๆ นี้เกิดขึ้นในโคเคลีย และการสั่นสะเทือนภายในหูจนเปลี่ยนเป็นลำโพง และเล่นเสียงกลับออกมาจากช่องหู ซึ่งเขาบอกว่าเสียงนี้เล็กกว่าเสียงที่เข้าไปประมาณ 10,000 เท่า 

จนได้้การเข้ารหัสในคลื่นเสียงที่กลับมาเป็นข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่เราได้ยินเสียง และมีการใช้ไมโครโฟนที่มีความไวสูงมากในการตรวจจับคลื่นเสียงที่ส่งคืนกลับมา และเครื่องมือเรียนรู้ด้วยตนเองที่สร้างขึ้นใน เพื่อสร้างโปรไฟล์ของคุณ ไม่มีปุ่มไม่มีอะไรให้หมุนปรับทั้งนั้น  เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและในเวลาประมาณ 60 วินาที 

ตอนที่เราทดสอบมันก็จะดังจิ๊ดๆ วิ๊ดๆ เหมือนเอาอุปกรณ์ทดสอบการได้ยินวิ่งผ่านหู  จากนั้นหูฟังจึง สร้างโปรไฟล์การได้ยินของคุณ และมันจะสร้างรูปแบบของดนตรีของคุณเพื่อให้เข้ากับระบบการได้ยินของคุณ และปรับรูปแบบการฟังให้เป็นแบบส่วนตัว 

สิ่งที่ให้หูฟังคู่นี้ดูจะแตกต่างกับหูฟังทั่วไปจะมีอยู่ 2 เรื่อง

เรื่องแรกคือ  นี่เป็นหูฟังรุ่นแรกของโลกเราก็มีการเสียบเข้าไปในช่องหูของผู้ฟัง ขณะที่ยังเป็นเป็นหูฟังแบบครอบหู    ซึ่งเขาให้เหตุผลแบบนี้ว่าการที่มีช่องเสียบเข้าไปในหูฟังแบบ in-ear นั้นจะทำให้สามารถเก็บรายละเอียดของเสียงได้ดียิ่งขึ้น  และส่วน ear pad ด้านนอกจะทำให้สามารถเก็บรายละเอียดของเสียงในย่านต่ำได้ดี สามารถทำให้มิติของ sound stage แยกหน้าหลัง และเกิดการสั่นกระพือ คล้ายๆ กับการที่เรายืนอยู่ที่หน้าตู้ลำโพง แล้วมีการสั่นสะเทือนของ Sub Woofer 

เรื่องสองคือ  ผู้ผลิตเขาบอกว่า  “The nuraphone is the world’s only headphone that automatically learns and adapts to your unique hearing.”

ซึ่งหมายถึงว่าหูฟังรุ่นนี้สามารถปรับแต่งเสียงเข้ากับการฟังของผู้ใช้ก่อนใช้งาน ซึ่งแตกต่างกับหูฟังโดยทั่วไปที่ต้องปรับแต่งด้วยตนเองผ่าน equalizer  เหตุผลของการปรับแต่งก่อนฟัง ทางผู้ผลิตบอกว่าการฟังของแต่ละคนเนี่ยจะมีความแตกต่างกันนั้น  แอพลิเคชั่นนั้นจะทำการปรับการฟังของหูฟังให้ได้ยินเสียงที่ดีที่สุด  ซึ่งการปรับแต่งนั้น จะทำผ่านแอพลิเคชั่น หูฟังตัวนี้สามารถรองรับการเชื่อมต่อทั้ง iPhone เเละ Andriod

การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหูฟังครั้งแรกนั้นต้องมีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตก่อน เราแนะนำว่าอินเทอร์เน็ตของคุณควรจะมีความเสถียร อาจจะต่อผ่าน Wifi หรือ  4G Network ที่มีความเร็วสูงเและควรอยู่ในห้องที่มีความเงียบอยู่สักหน่อย

ที่เราบรรยายมาขนาดนี้คือจะบอกสั้นๆว่า เราไม่สามราถแกะกล่องแล้วเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ตรงๆ ได้เลยถ้าไม่ผ่านขั้นตอนเหล่านี้

ขั้นแรกนั้น เราต้องทำการใส่หูฟังให้พอดีกับศีรษะก่อน โดยระบบการตรวจจับการเสียบหูฟังให้ถูกต้องทั้งสองข้าง คือถ้าใส่ไม่พอดีหูฟังก็จะให้เราขยับจนพอดีเป๊ะ ซึ่งหูฟังจะรู้ได้จากการส่งสัญญาณเสียงเข้าไปในหูของเราแล้วส่งเสียงสะท้อนกลับมา

ถ้าเราเสียบหูฟังไม่ถูกต้อง ตัวแอพลิเคชั่นจะไม่สามารถทำงานต่อได้  จนกว่าเราทำการเสียบหูฟังอย่างถูกต้อง ..  นั่นคือความละเอียดขั้นแรก

หลังจากที่ทำการเสียบหูฟังอย่างถูกต้อง แอพลิเคชั่นจะทำการส่งเสียงทดลองมาที่หูของเราทั้งสองข้าง โดยจะเป็นการส่งสัญญาณเสียงสั้น ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เพื่อนส่งสัญญาณไปยังชิ้นส่วนของหูด้านในการส่งสัญญาณเสียงนั้นทำ 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกจะเป็นเสียงติ๊ดแบบสั้นๆ จะเป็นเสียงติ๊ดแบบเล็ก แหลม และยาว 

ซึ่งทั้งหมดนี้เบื้องหลังคือ เสียงทั้งหมดจะทำการสะท้อนเข้าไปยังรูหูของเราแล้ว แล้ววัดเสียงที่สะท้อนกลับออกมาเพื่อเป็นการวัดค่าการฟังที่สมบูรณ์ที่สุด และเหมาะสมที่สุดสำหรับการฟังของแต่ละคน โดยจะมีการแสดงกราฟออกมา ซึ่งงเราทดลองจากของตัวเอง และของคนอื่นก็พบว่ากราฟนั้นออกมาต่างกัน ซึ่งเราสามารถเก็บโฟรโฟล์แยกเฉพาะบุคคลได้ 3 ชุดครับ

โดยหลังจากการปรับแล้วจะมีชุดการฟังให้เลือกสองแบบคือ
1. Neutral ซึ่งเป็นชุดการฟังแบบปกติ
2. Personalised ซึ่งเป็นชุดการฟังแบบปรับแต่งแล้ว

ซึ่งเอาจริงๆ  Personalised นี่เหมือนการปรับ EQ แล้ว เพราะคุณภาพกเสียงที่ได้ฟังนี่ทิ้งห่างเป็นทุ่ง

อีกโหมดนึงที่ถือว่าเป็นจุดเด่นนั่นคือ Immersion ที่อาศัยจุดเด่นของหูฟัง Over-Ear คือ สามารถสร้างแรงสั่นกระพือออกมาได้ผ่านช่องว่างด้านใน

ความฉลาดกับ ความ Automatic ของหูฟังอย่างนึงที่เราเองชอบมากคือ  คือเมื่อเราทำการถอดหูฟังออกมาจากการเชื่อมต่อด้วยตนเอง หูฟังทำการปิดโดยอัตโนมัติซึ่งจะทำให้เป็นการประหยัดพลังงาน  ตอนใส่หูฟังกลับก็จะบอกสถานะการเชื่อมต่อ และบอกแบตเตอรี่ที่เหลือ

ซึ่งคนที่ซื้อมาแรกๆ จะมีอาการงงตรงนี้ถึงกับหันมาถาม “พี่..หูฟังตัวนี้มันเปิดปิดยังไง”
ถ้าไม่ถนัดกับฟังการบอกปริมาณแบตเตอรี่ของหูฟังที่เหลือด้วยเสียง  ก็สามารถดูผ่านแอพพลิเคชั่นโดยเป็นการบอกผู้ใช้ผ่านเสียงถึงจำนวนที่เหลือว่าเหลืออยู่จำนวนกี่เปอร์เซ็นต์ 

ส่วนการควบคุมนั้นใช้การแตะที่ด้านข้าง อย่างการเปิด-ปิดเพลง หรือว่าการเลือกเพลงนั้นเราสามารถตั้งค่าผ่าน Application   ซึ่งมีให้เลือกทั้ง เล่นเพลงถัดไป เล่นเพลงก่อนหน้า หยุดเพลง หรือว่าเล่นเพลง ซึ่งการสัมผัสตัวรับนี่ไวมากคือแตะนิดเดียวนี่ไปเลย 

ได้ยินเสียงรอบข้างด้วยการสัมผัส ข้ามเพลง เปลี่ยนระดับเสียง การควบคุมที่ใช้งานง่าย
แค่แตะปุ่ม .. อันนี้ง่ายจริงครับ แตะปุ๊บปิดปั๊บ จนบางทีเรายังอยากบอกว่า  ช่วยทำให้หน่วงบ้างก็ได้ เพะราะแค่สะกิดนิดชีวิตก็เปลี่ยน

หูฟัง Nuraphone

ซื้อดีมั้ยหูฟัง Nuraphone

นิยามที่เขาบอกว่า เสียงส่วนบุคคล = เสียงที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ
นี่คงเป็นครั้งแรกเลยที่เราไม่ได้บอกว่าหูฟังรุ่นนี้ควรไปฟังกับอะไร เพลงแบบไหน เพราะว่าความสมบูรณ์ของเสียงทีไ่ด้ยินหูฟังมันถูกปรับมาเฉพาะบุคคลเลยจริงๆ   อย่างเพลงทดลองที่เปิดหลังการ tuning คือเพลงที่มีลักษณะของความเป็น live sound เล่นเครื่องดนตรีสด มีความโปร่งของดนตรี ซึ่งนั่นเราคิดว่าคือแนวเพลงที่หูฟังตัวนี้ทำได้ดีที่สุด   อย่างเพลงที่ปรุงแต่งมาน้อยๆ อัดกันสดๆ จะฟังได้ดีบนหูฟังตัวนี้   หรือเพลงอีกจำพวกที่เราต้องการย่านต่ำย่ำเบส แล้วอยากได้ความกระพือเหมือนคือยืนอยู่หน้าตู้  แต่เราไม่แนะว่าให้เลื่อนไปจนถึงขั้นสุดหยุดมือตัวเองไว้บ้างก็ได้ เพราะมันทำลายอรรถรสในการฟัง

เราเองเสียดายอยู่อย่างนึงว่า  ทำมาให้ Auto ขนาดนี้แต่ไม่มี Assistance  แบบหูฟังสมัยใหม่ตัวอื่น ส่วนเรื่องของไมโครโฟนนั้นเราทดสอบด้วยการเดินออกไปคุยตามริมถนน ก็ถือว่าอยู่ในขั้นที่เสียงดังฟังชัดคุยถนัดอยู่ โดยเฉพาะเวลาใช่ร่วมกับ Social Mode

แบตเตอรี่ของหูฟังนั้นอึดจริงอัดได้ยาวๆ 20 ชั่วโมง  แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องของน้ำหนักตัวที่ดูจะหนักอยู่สักหน่อย เอาคล้องไว้ที่คอก็รู้สึกเหมือนมีเฝือกดามคอ และใส่นานๆ มีการอาการเจ็บหูนิดหน่อย  แม้จะมีอะไรขาดๆ เกินๆไปบ้าง แต่เราก็ยังก็ชอบความเป็น  “หูฟังที่ฉลาดที่สุดในโลก” แบบที่ผู้ผลิตเขาบอกเราไว้อยู่ดี   คุณสามรถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nuraphone.com

ขอบคุณ : ร้าน Jaben Thailand ที่เอื้อเฟื้อสินค้าในการทดสอบครับ

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

Back to top button