Samsung Galaxy Z Fold 2 5G คือการกลับมาของโทรศัพท์หน้าจอพับระดับพรีเมี่ยม ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ต่างไปจาก Galaxy Note ในแง่ของพื้นที่การใช้งานและเทคโนโลยีของหน้าจอที่ยากจะทำตาม และการกลับมาครั้งนี้ก้มากับการรองรับ 5G รวมถึงพื้นที่การแสดงผลที่กว้างเต็มตามากขึ้น รวมถึงการแก้ไขจุดที่เคยมีให้หายไปหมดสิ้น
การปรับใหม่อย่างแรกนั้นคือในเรื่องของระบบปฎิบัติการณ์ทีามากับ Android 10 และ One UI 2.5 ใหม่ล่าสุด และพื้นที่หน่วยความจุที่ 256 GB Ram 12 GB
ในส่วนของหน้าจอหลีกเป็นจอ Infinity-O ขนาดใหญ่ 6.2 นิ้ว เรื่องนึงที่เรายังติดใจนิดหน่อย ถ้าคุณเป็น young rich คือประสบความสำเร็จได้จับเงินหลายล้านไวหน่อย คุณน่าจะยังคงไม่น่าจะมีปัญหาด้านสายตา ฉะนั้นการมองหน้าจอที่ฟอนท์ตัวเล็กในพื้นที่การแสดงผลถูกบีบลงคงไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าคุณอายุ 40+ อาจจะต้องเริ่มคิดนึดนึงละว่ากับสายตาคุณจะอ่านยากมั้ย อันนี้ไม่ยากคือเดินไปลงที่ shop เลยครับ
การรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นการแสกนด้วยลายนิ้วมือที่ด้านข้าง น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 282 กรัม ถามว่าหนักมั้ยเวลาถือ ก็ไม่ค่อรู้สึกเท่าไหร่นะครับเวลาเราถือยกก็เป็นทรงแบบที่พับได้อยู่แล้วเพียงแต่ความหนานั้นอาจจะต้องปรับตัวนิดหน่อย
สันบานพับของเครื่องที่เคยมีข้อกังขาว่าจะมาแล้วแข็งแรงมั้ยในรุ่นแรก คราวนี้กลับมาใหม่ โดยมีความแข็งแรงขึ้นแบบเห็นได้ชัด และมาพร้อมกับสีสันที่เราสามารถสั่งมาเปลี่ยนใส่เองได้จนกลายเป็นจุดขายใหม่ของรุ่นนี้
ในเรื่องของกล้องหลังนั้นมากับกล้อ ง 3 ตัว มากับความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8, 26mm (wide) กลังที่ตัวที่สอง 12 ล้านพิกเซล , f/2.4, (telephoto),ซูม 2x optical zoom และกล้องตัวที่สาม 12 ล้านพิกเซล, f/2.2, (ultrawide) ส่วนวิดีโอนั้นถ่ายสูงสุดได้ที่ 4K ที่ 60fps ครับ
ในส่วนของกล้องนั้นสามารถซูมได้สามระยะ แต่สิ่งที่เราคิดว่ามันน่าจะใส่มาด้วยคือเรื่องไมโครโฟนแบบ Note 20 นี่ล่ะ แต่ความสามารถในการโฟกัสนี่ก้มาในระดับเดียวกัน ลองมองอีกมุมนึงโทรศัพท์เขาก็คนละกลุ่มเป้าหมายกัน
ในส่วนของของกล้องหน้าใส่มาให้ 2 ตัว ความละเอียดมาให้ 10 ล้านพิกเซล การถ่ายภาพนั้นมีโหมด Dual Preview ที่ทำให้ผู้ถูกถ่ายเห็นตัวเองได้ในขณะกำลังถ่ายภาพ และ Rear Camera Selfie ถ่ายเซลฟี่ความละเอียดสูงด้วยกล้องหลัง
การเชื่อมต่อแบบไร้สายนั้นจัดว่ามาอย่างครบ คือ รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 dual-band, Wi-Fi Direct ถ้าใช้เน้ตบ้านแรงๆ สัก 1Gbps ซื้อรุ่นนี้ไปคือรองรับการใช้งานระดับความเร็วสูงๆ ขนาดนั้นแน่นอน ส่วนแบตเตอรี่ขอใหญ่ขนาดนี้เลยใส่แบตเตอรี่ความจุมาให้ที่ 4,500mAh และมาพร้อมกับระบบชาร์จไวครับ
การกางเครื้่องออกมาใช้งานนั้นสามารถกางเครื่องออกเพื่อได้งานได้หลายองศาซึ่งเรียกว่า Flex Mode โดยสามารถตั้งใช้งานบนพื้นราบได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องใช้มือจับ
การทำงานแบบ Multi Active Windows คือปกติแอนดรอยด์นั้นก็สามารถทำงานได้แบบ multitask อยู่แล้ว แต่สำหรับรุ่นนี้สามkรถทำงานได้ 3 หน้าจอพร้อมกันทั้งแนวตั้งและแนวนอน ในตัวอย่างนี่คือ อ่านเว็บ อ่าน SMS และเปิดวิดีโอไปพร้อมกัน การทำงานก็คล้ายๆ กับคอมพิวเตอรืจอกว้างที่สามารถตั้งค่าให้แสดงผลหลายหน้าจอพร้อมกันนั่นล่ะครับ
ถ้าคุณเป็นระดับมันสมองขององค์กร คุณน่าจะนึกชอบในแง่ของการอ่านเอกสาร ในส่วนของหน้าจอนั้นมีการปรับในเรื่องของพื้นที่การแสดงผลให้มีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น คืออยู่ที่ 7.6 นิ้ว ซึ่งของเดิมอยู่ที่ 7.3 นิ้ว และที่ของหน้าจอสำหรับกล้องหน้านั้นก็หายไปทำให้ได้พื่นที่ในการแสดงผลกลับมา จากที่เราลองสัมผัสแล้ว กดแล้วปาดลากอ่านก็ถือว่าทำได้ดี คือการเลื่อนของข้อความนั้นสำหรับการอ่านบนเว็บบราวเซอร์นั้น ไม่มีอะไรมากวนใจต้องให้สะดุดความรู้สึกอันเป็นผลพวงมาจากหน้าจอที่มี Refresh Rate 120Hz ส่วนตัวจอทำมาจากทำจากกระจก Ultra Thin Glass สำหรับใครที่ที่จะนำไปใช้งานด้านเอกสารก็รองรับ Samsung DeX ครับ
ความต่อเนื่องของการเปิดแอพลิเคชั่นนั้น เราลองทดสอบกับ Google Maps ถ้าวัดความรู้สึกจากหน้าจอหลักคือพื้นที่แสดงผลมันก็พอได้ในระดับหนึ่ง คือจะโฟกัสกันตรงส่วนของพื้นที่การเดินทางตรงกลาง แต่เมื่อเราคลี่โทรศัพท์ออกมา แผนที่ก้ยังทำงานเช่นเดิม เพิ่มเติมคือขยายให้เห็นกันเต็มแผ่น ก็ลองนึกภาพว่าเราถือกระดาษแผนที่แบบม้วนไว้ แล้วคลี่อออกมาเป็นแผ่นใหญ่ก็แล้วกันครับ
ถ้ามองในแง่ความบันเทิงเช่นการซื้อมาดูหนังล่ะ คือถ้าพับจอมาครึ่งนึง การแสดงผลจะไม่ได้ขยายแล้วยืดตามนะครับ คือมาในรอบกรอบ 16:9 นั่นล่ะ และเหลือขอบข้างแต่ถ้าเรากางภาพให้เต็มจาอนั้นก้ทำได้ แต่มันก็จะมีบางส่วนที่ถูกครอปออกไป สำหรับการกางเต็มหน้าจอก็เช่นกันคือ ขอบจอถึงจะพอดีแบบชนขอบแล้วก็มีเว้นเป็นกรอบดำที่ด้านบน และด้านล่าง แต่เราก็แนะนำว่าให้ดูแบบคลี่ออกมามากกว่า จะได้ไม่ต้องมีภาพที่ถูกตัด crop ออกไป
ในขณะที่การเล่นเล่นเกมดูจะมีภาษีที่ดีกว่าการดูวิดีโอ ในกรณีที่เกมนั้นรองรับตัวอย่างคือ Call Of Duty Mobile นั้นได้ภาพที่ออกมาแบบเต็มจอ และการเคลื่อนไหวของภาพ รวมถึงการตอบสนองต่อการกดนั้นถือว่าทำได้ดีมากในระดับที่น่าพอใจ
ในแง่การพิมพ์นั้นนั่นก็เป้นอีกเรื่องที่เราชอบ คือตัว Keyboard Layout นั้นสามารถเลือกได้ 2 แบบ คือ แบบปกติที่คลี่ออกมาแบบเต็มแผ่น และแบบที่แยกออกมาเป็นสองข้างสำหรับใครที่อาจจะใช้นิ้วโป้งพิมพ์ แล้วไม่อยากเอื้อมนิ้วจนมากเกินไป แต่สำหรับจากที่ทดลองแล้วก็พิมพ์ได้ดีทั้งสองแบบนั่นล่ะครับ ขึ้นอยู๋กับสรีระของผู้ใช้ล้วนๆ
ซื้อดีมั้ย Samsung Galaxy Z Fold 2 5G
สำหรับเรานี่คือ Fold ที่ทำเสร็จแล้ว คือใครที่ตามข่าวมาจากรุ่นแรกก็คงนึกอยู่เหมือนล่ะว่า นวัตกรรมใหม่ การที่ทำโทรศํพท์จอพับได้แบบนี้จะปัญหาตามมาเยอะแค่ไหน
และนาทีนั้นการแข่งขันการทำโทรศัพท์จอแบบนี้มีสูงมาก จนในที่สุดเวลาก็บอกเองว่าใครที่สามารถทำผลิตภัณฑ์ในลักษณะนี้ที่ผลิตขายได้จริงในเชิงธุรกิจ ซึ่งก็มีในจำนวนที่นับด้วยมือได้เพียงข้างเดียว และ samsung ก็คือหนึ่งในนั้นที่เหลือรอดออกมาสู่ตลาด
Samsung Galaxy Fold 2 5G มาใน 2 เฉดสีคือ Mystic Bronze และ Mystic Black โดยล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 2 – 13 กันยายน 2563 ที่ Samsung Experience Store หรือทาง Samsung.com และออนไลน์สโตร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย ในราคา 69,900 บาท พร้อมรับGalaxy Buds Live มูลค่า 6,990 บาท
รวมไปถึงบริการ Galaxy Butler Gold มอบบริการช่วยเหลือพิเศษและการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง และ Samsung Care+ ประกันอุบัติเหตุตัวเครื่อง คุ้มครองเปลี่ยนหน้าจอ 1 ครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี พร้อมบริการส่งช่างเทคนิคถึงที่
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.samsung.com/th/offer/samsung-care-plus1/
