Huawei ปูพรมรุกตลาด Audio มาต่อเนื่อเหลือเกินทั้งลำโพง และหูฟัง ซึ่ง Huawei Freelace Pro นี่ก็เป็นหูฟังแบบคล้องคอรุ่นแรกของพวกเขา หลังจากที่ทำหูฟัง in ear แบบ True Wireless มาก่อนหน้านี้จนเป็นที่รู้จัก
มีิอะไรที่น่าสนใจมีอะไรที่น่าสนใจหูฟังรุ่นนี้บ้าง
– ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation แบบไมโครโฟน 2 ตัว
– ใช้งาน 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
– รองรับการชาร์จเร็วด้วย HUAWEI HiPair ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จ 5 นาที
– Quick Switch สำหรับการสลับใช้งานระหว่างอุปกรณ์
สำหรับคนทั่วไปผมให้น้ำหนักในสองข้อบนมากกว่า โดยเฉพาะอายุการใช้งานนี่ เจ้าหูฟังคู่นี้นี่ทำให้ผมวางหูฟัง True Wireless ไว้บ้านหลายรอบเพราะอายุการใช้งานนี่ล่ะ เพราะชาร์จแล้วใช้ไปลืมๆ คือ True Wireless ทั่วไปนี่ถ้าฟังยาวๆ 4 ชั่วโมงคือจบกัน
คำถามที่เจอบ่อยในนาทีนี้คือคือ หูฟังตัวขนาดนี้ที่มักบอกว่าให้พลังเบสมาบึ้มๆ
อืม .. มันจริงแท้แค่ไหน และขอเอาที่พูดแล้วเสียงชัด สนทนาแล้วไม่ขัดหูขัดใจไปยังปลายทางได้มั้ย
คำตอบของเรื่องนี้คือลองดูจากภาพครับ ปัจจัยเรื่องของความใหญ่นี้จริงๆ มาจาก “ขนาดของไดรเวอร์” หูฟังรุ่นนี้ใส่กันมาที่ 14 มิลิเมตร ถือว่าให้ให้มาขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับรายอื่นในตลาด และมีหลอดเสียงสำหรับย่านความถี่ต่ำอีก ส่วนในเรื่องของไมโครโฟนนั้นเป็นไมค์แบบคู่ที่มีอยู่ใกล้ๆกันที่ล่ะ นอกจากนั้นยังมี Deep Neural Networks ในการจับเสียงของมนุษย์
เวลาที่มีคนถามผมว่ามีหูฟังรุ่นไหนที่ให้คุณภาพเสียงสนทนาที่ดีกว่า AirPods มั้ย ผมจะตอบง่ายๆ สั้นๆ ว่าหนึ่งในตัวแนะนำของผมก็ “หัวเว่ย” นั่นล่ะ
อ่อ .. ถ้าจะเปลี่ยนจาก ANC มาเป็น Awareness สำหรับฟังเสียงจากภาพนอก แค้แตะด้านซ้ายค้างไว้เท่านั้นพอครับ
สิ่งที่ Huawei Freelace Pro ทำมาแล้วผมคิดว่าใส่ใจ และใช้ง่ายมากกว่าหูฟังแนวนี้หลายตัวคคือ “ปุ่มควบคุม” คือโดยมากจะมาเป็นแผงป๊อกแป๊กนี่ล่ะครับ แต่อันนี้แผงควบคุมจะมาอันใหญ่มาก คือจังหวะที่เราคล้องคอแบบในรูปคือเอื้อมมือไปลูบยังไงก็ต้องเจอ แล้วปุ่มคุมเพลงจะเป็นตัวนูนขึ้นมา ใช้นิ้วโป้งสัมผัสยังไงก็ไม่พลาด
คำถามที่ผมพบบ่อยมากเวลาใช้หูฟังตัวนี้
ถาม : ใช้กับ iPhone ได้มั้ย
ตอบ : ใช้ได้ครับ เพราะผมก็ใช้อยู่ เพียงแต่ถ้าใช้ android และลงแอพของ huawei เองจะรีดประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น ส่วนการ Pair กันก็ไม่ยาก คือกด Power ค้างไว้ให้ไฟกระพริบ แล้วสั่ง Search Bluetooth ไปที่ Freelace Pro แป๊บเดียวเจอครับ
คือสินค้าหัวเว่ยอย่าว่าแต่หูฟังเลย นาฬิกาก็จับคู่กันมาได้สบายๆ กับ iPhone ครับ
ถาม : ใส่ออกกำลังกายได้มั้ย
ตอบ : ถึงเขาจะไม่ได้บอกว่ามันกันความชื้น แต่จุกยางที่ให้มานี่หนาและแน่นมาก ผมใส่หูฟังออกกำลังด้วยการปั่นจักรยาน 20 กิโลครับ ความชื้นจากเหงื่อไม่ได้มีผลมีอะไรกับหูฟังตัวนี้ แล้วที่ดีคือ Magnatic Snap คือหูฟังสองข้างจะมีแม่เหล็กติดกัน มันจะไม่แกว่งไปแกว่งมาเวลาที่คุณเอาคล้องคอ
ถาม : ชาร์จไฟยังไง
ตอบ : ในแพคเกจมีตัวแปลง usb-c มาครับ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าใช้คอมรุ่นใหม่ๆ ที่มี usb-c อยู่แล้ว ดึงหัวต่อแล้วต่อเสียบตรงๆ ไวกว่าเยอะ
ถาม : สายเป็นยางแบบนี้จะเสียง่ายพังไวมั้ย
ตอบ : ผมใช้พกพาไปไหนมาไหนระดับข้ามจังหวัดเยอะมาก วางตากแดดไว้หน้ารถ
ใส่ออกกำลัง ทุกอย่างยังอยู่ในระดับที่เป็นปกติครับ คือเป็นหนึ่งในหูฟังที่ถึกเกินหน้าตาและราคาไปอักโขอยู่ คือนี่เป็นหูฟังที่สายเป็นยางไซส์ใหญ่สุดตัวนึงเท่าที่ตลาดมีขายในตอนนี้เลยล่ะ
ซื้อดีมั้ย Huawei Freelace Pro
นี่อาจจะเป็นไม่กี่ครั้งมั้ง ที่ผมรีวิวหูฟังแล้วไม่ได้บอกว่ามันเหมาะกับแนวเพลงแบบไหนบ้าง คือมันชัดเจนในตัวเองสำหรับผมในระดับที่ชี้เป้าว่า ถ้าไม่ติดกับภาพในโฆษณาว่ามันคือหูฟังแฟชั่นสวยๆ
คุณซื้อมาใส่ออกกำลังกายได้นะ ฟังเพลงพวก High Energy ทั้งหลาย หรืออย่างสาย K-Pop ,Hip-Hop หรือว่า Rock นี่ได้หมด สำหรับผมมันคือหูฟังที่ชวนคุณออกไปใช้ชีวิตมากกว่านั่งสวยๆ ยิ่งถ้าข้อมือมี Watch GT นี่เข้าคู่กันดีเรื่องความถึกบึกบึนมากเพราะผมก็ทำแบบนั้นในชีวิตจริงๆ ราคาขายอยู่สองพันบาทปลายๆ ก็จัดว่าซื้อได้ไม่เสียดายเงินครับ
ขอบคุณ Huawei Thailand ที่เอื้อเฟื้อสินค้าในการทดสอบครับ