Shure Aonic 50 หูฟังรุ่นนี้ที่วางตัวเองในตลาดหูฟังระดับพรีเมี่ยม คือ สามารถสัมผัสได้มีความพรีเมี่ยมตั้งแต่ Packaging ที่มีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก หรือ Noise Cancelling คือสามารถใส่ฟังได้ยาวนานสูงสุดที่ 20 ชั่วโมง แล้วก็มี Environment Mode
ในกล่องมีสายหูฟัง 3.5 แล้วก็มีสายชาร์จแบบ USB C ให้มา 1 เส้น ขนาดความยาวนี้ก็อยู่ในระดับกลางๆ Driver เนี่ยขนาดอยู่ที่ 50 mm นะครับ
น้ำหนักอยู่ที่ 334 กรัม ก็ถือว่ากำลังกลางๆ ตอนที่เราใส่หูฟังเข้ากับศรีษะ แล้วถามว่าก็หนักไหมก็หนักประมาณนึง ไม่ได้ถึงกับหนักมาก แต่น่าจะคุณเป็นคนที่ขนาดศรีษะความกว้างหน่อยอาจจะรู้สึกอึดอัดบ้างนิดหน่อย โดยรวมก็คือว่าน้ำหนักมันดีเลย แล้วยิ่งแผ่นแผ่นที่ด้านบนนี่ถือว่านิ่มหนุบหนับรับกับศรีษะดีมาก
ในแง่ของการออกแแบหูฟังแบบไร้สาย มันไม่ใช่แค่ว่าจะเสียบกับผ่าน Bluetooth แต่ตัวหูฟังเองก็ไม่ควรจะมีสายสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างกัน ซึ่งหูหังรุ่นนี้ไม่มีสายที่สอดลอดออกมาให้เราเห็น นี่ล่ะคือสิ่งที่เราชอบมากเลยเพราะว่าจะไม่มีอะไรมาให้เกะกะนะ ส่วนตัวก้านสามารถหมุนได้ในระดับที่ให้มันแบนลงสำหรับการใส่กล่อง Hard Case ส่วน Ear Cup ก็จะคลุมครอบคลุมหูพอดีเป๊ะ
ปุ่มการควบคุมก็ทำมาแบบกดใช้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไปเจอหูฟังระบบสัมผัส แล้วอาจจะจับไม่ถนัดมือ ก็จะมีปุ่มเปิด-ปิด ,ปุ่มเร่ง-ลดเสียง ,ปุ่มรับสาย-โทรออก การเชื่อมต่อแบบสายเป็น USB Type C การเชื่อมต่อแบบไร้สายเป็น Bluetooth 5.0 ระยะการฟังอยู่ที่ 10 เมตรหรือว่า 30 ฟุตนะครับ ส่วน Frequency Work อยู่ที่ 20 kHz-22 kHz ส่วน Codec ก็มี aptx , AAC ,SBC ,LDAC และสิ่งที่น่าสนใจก็คือว่าตัวหูฟังมีแอพิเคชั่นที่ชื่อ Shure Plus Play ซึ่งมีบนทั้ง iOS และ Android
การเชื่อมการใช้หูฟังตัวนี้กับแอพพลิเคชั่น เราบอกได้เลยว่า ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอในเรื่องของการปรับแต่งอย่าง เช่น Environment Mode / Active Noise Cancellation คือเราจะปรับแต่งตรงนี้ง่ายขึ้นมาก ซึ่ง Active Noise Cancellation จะมี 2 โหมดก็คือจะมี Normal กับ Max
อ่อ .. อย่าลืมว่าหลังจากการเชื่อมต่อครั้งแรกแล้ว ให้ไป Update Firmware กันด้วยนะครับแนะนำว่าก่อน Updateก็ควรจะชาร์จไฟให้มีแบตเตอรี่เต็มร้อยนะครับ เพื่อป้องกันความเสียหาย ใช้ระยะเวลาอยู่ประมาณนึงซักประมาณ 4-5 นาที ยังไงก็อดใจรอกันนิดนึงนะครับ
ส่วนเรื่องของการเล่นนั้นก็สามารถใช้งานโดยเปิดเพลงจากที่เราซื้อไว้ iTunes ได้ครับแต่ก็จะใช้ได้กับเพลงที่คุณมีการซื้อเท่านั้นนะครับ เพลงจาก Apple Music คือหมดสิทธิ์
ที่ควรรู้อีกอย่างคือ แต่ในตัว App เนี่ยเหมือนจะมี Bug อยู่นิดหน่อย เมื่อเราเลือกปรับ EQ นะครับบน iOS 14 รุ่นล่าสุดนะครับก็พบว่าแอพทำการปิดตัวเองนะครับต้องทำการถอดทิ้งแล้วลงใหม่ถึงจะสามารถใช้งานได้นะครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราก็แอบเสียใจอยู่นิดนึงว่าน่าจะมีการอัพเดทกว่านี้ แต่ในแอพก้มีเรื่องที่ดีที่เราชิบอย่างหนึี่งคือ คือมีเสียงในการแจ้งสถานะการเชื่อมต่อมาที่หูฟังด้วยนะครับ รวมถึงมีการแจ้งสถานะว่าแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ โดยมีการแจ้งแบบครั้งเดียว แล้วก็แจ้งทุก 15 นาทีครับ
ทดสอบการฟังหูฟัง Shure Aonic 50
สโรชา – ขอโทษที่รักเธอมากเกินไป
เพลงนี้ให้เสียงร้องที่ค่อนข้างคม เสียงกลางออกมาค่อนข้างโปร่ง แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือเสียงการเล่นคอร์ดของกีต้าร์โปร่งที่ด้านหลังให้ความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสูง
ส่วนที่เป็นเสียงของกีต้าร์ไฟฟ้าตรงกลางนะครับ ให้ความรู้สึกว่าเหมือนเรานั่งอยู่หน้าแอมป์ใกล้ๆ ระดับหนึ่ง อาจจะยังไม่ได้ถึงกับได้ยินหางเสียงออกมาเท่าไหร่
ส่วนการที่จะฟังในย่านเสียงแหลมหรือว่าจังหวะที่กรีดลงไปในแต่ละตัวโน๊ตถือว่า-+ถพะถพนะครับ เพียงแต่ว่าเสียงลมหายใจของนักร้องในอาจจะยังไม่ได้ถึงกับถูกขับออกเท่าไหร่ เราคิดว่าน่าจะสามารถดึงความเศร้าของเพลงนี้ออกมาได้อีกนิด เพราะนี่ยังไม่สุดเท่าไหร่
Back at one – Brian Mcknight
กับเพลงนี้ืคือให้เสียงย่านต่ำที่ฟังดูแพงถ้าฟังเพลงสากลลักษณะนี้ค่อนข้างจะเหมาะกับหูฟังตัวนี้มาก คือกระเดื่องของกลองในคือจะได้ยินแบบการสั่นของเสียงเบาๆ แล้วตัวเสียงย่านต่ำในคือจะไม่ได้ออกกระทุ้งรุนแรงนะครับ ส่วนย่านสุูง หรีือว่าเสียงร้องตรงกลางนี้ค่อนข้างจะค่อนข้างจะให้ความกระจ่าง ให้ความใสมีหางเสียงให้ฟังอยู่บ้างแต่ว่าอย่างที่บอกครับพี่ว่าถ้ามี EQ ให้ปรับได้หรือว่าการ Boost เสียงขึ้นอีกนิดเนี่ย มาเนี่ยน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีก แต่ก็ทำให้เราเห็นบุคลิกของความรุ่มรวยของหูฟังตัวนี้มากขึ้น
Art Of Life – X-Japan
การให้เสียงเปียโนของเพลงนี้คือค่อนข้างจะลึกนิดนึง มีความกระจ่างของเสียงในตอนช่วง intro คือมาอย่างใสเลยล่ะนะครับ แต่ตัวช่วงกลางของเพลงค่อนข้างบางไปหน่อยคือกลองอาจจะไม่ใช่กลองที่มาแบบตูมตาม คือมาแบบมีความเป็นผู้ดี จะมีความกว้างของเสียงแต่ว่าในส่วนของเครื่องสาย คือถ้าปรับ EQ ได้ก็คิดว่าเสียงน่าจะพุ่ง หรือแหลมมากกว่านี้ได้อีกนะครับ แล้วคือช่วงโซโล่เปียโน ค่อนข้างจะคาดหวังไว้เยอะผมรบกวนว่าน่าจะอลังการมากกว่านี้ เพราะว่านี่คือช่วงลากยาวอันเป็นจุดเด่น คือเสียงที่ได้มาก็อยู่ในระดับที่ีจัดว่าดีแต่ยังไม่ลึก
นักเลงคีย์บอร์ด – สแตมป์
โดยตัวเนื้อของเสียง มีความอุ่นของเนื้อเสียงร้องค่อนข้างหนา และให้ความละมุนได้พอสมควร ในส่วนของกีตาร์นั้น acoustic ค่อนข้างสูงนะครับ ย่านเสียงแหลมของกีต้าร์เนี่ยเราจะได้ยินความคมอยู่ประมาณนึง รวมถึงเสียงเสียงไม่มีความกระแทกกระทั้น เนื่องจากตัวเพลงที่มีความอุ่นอยู่แล้ว ตัวหูฟังกก็ทำให้มีความอุ่นที่เพิ่มขึ้นมาอีกนิด แต่อาจจะไม่ได้สุ้มที่กว้างมาก ส่วนรายละเอียดด้านหลังเนี่ยคือจะให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังฟังลำโพงชุดใหญ่อยู่เบาๆ
ซื้อดีไหมหูฟัง Shure Aonic 50
ซื้อดีไหม .. คือถ้าต้องการหูฟังหน้าตาเรียบดูแน่น ในแบบของ Shure คือข้อนี้ก็ถืิอคุ้มอยู่นะครับ ถ้าต้องการหูฟังที่ใส่แล้วสบายก็ยังได้อยู่ แต่ถ้าขนาดศรีษะค่อนข้างใหญ่ใส่นานควงามสบายอาจจะลดลงไปนิดนึง แม้ว่าการให้ซุ้มเสียงที่เรียบหรูดูแพงอยู่ แต่ต้องการหูฟังให้เทคโนโลยีล้ำหน้าล้ำหน้าก็ถือถือค่อนข้างดีกับสิ่งที่แอปทำได้ แล้วถ้าต้องการหูฟังที่ควบคุมแบบง่ายๆ ตัวนี้ล่ะที่ตอบโจทย์ คือก็สามารถซื้อใช้ได้ล่ะ แต่ถ้าอัพเดทแอปไม่ให้พังคามือคือจะให้คำชมมากกว่านี้ ราคาอยู่ที่ 14,900 บาท และมีการรับประกันอยู่ที่ 2 ปีครับ
ขอบคุณ : Mahajak ที่เอื้อเฟื้อสินค้าในการทดสอยครับ