รีวิว Huawei HG8145X6N Mesh Router รุ่นล่าสุดจาก AIS Firbre

Huawei HG8145X6N เป็น Mesh Router รุ่นล่าสุดของ AIS Fibre ที่ได้รับการพัฒนามาโโดยการทำบงานร่วมกันกับทาง Huawei เพื่อให้ประสิทธิภาพในการทำงานนั้น สามารถเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงที่สุด และมีความเสถียรมากที่สุด และยังรองรับการเชื่อมต่อกันเองระหว่างอุปกรณ์ เพื่อทำการขยายพื้นที่ของสัญญาณให้ครอบคลุมพื้นที่ภายในบ้านให้มากที่สุด

วิธีสังเกตุไฟสัญญาณไฟ PON และ ไฟ LOS

• การใช้งานอินเตอร์เน็ตถ้าสถานะการเชื่อมต่อปกติ ไฟที่ PON จะเป็นสีเขียวติดนิ่ง แต่ถ้าการเชื่อมต่อไม่สำเร็จไฟจะเป็นสีแดง
• ไฟ PON ดับคือยังไม่มีการเชื่อต่อ / ไฟ PON กระพริบ คือกำลังเชื่อมต่อ / ไฟ PON ติดค้างสีเขียว คือเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว
• ไฟ LOS ดับ คือเชื่อมต่อปกติ /  ไฟ LOS กระพริบ คือยังไม่สามารถเชื่อมต่อได้ เพราะสัญญาณต่ำ / ไฟ LOS ติดค้าง คือ ไม่ได้รับสัญญาณ /

พอร์ทการเชื่อมต่อ

• Tel สำหรับใช้บริการกับโทรศัพท์ที่เป็น VoIP
• Lan จำนวน 4 Port ซึ่งในการใช้งานเราสามารถเสียบเข้าช่องไหนก็ได้ เพราะทุกช่องสามารถใช้งานได้เหมือนกันหมด
• USB สำหรับเสียบอุปกรณ์ที่ใช้ผ่าน  Lan Network  เช่น Printer , External Hard Drive  

เมื่อหงายใต้ท้องเครื่องขึ้นมาจะเห็นช่องใส่สาย Optical ที่ด้านล่าง ซึ่งรุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องมี Modem เพื่อทำการต่อพ่วง

Username และ Password ของ AIS Mesh Wi-Fi

Username : admin
Password : aisadmin
IP : 192.168.1.1

วิธีการลบอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ Wi-Fi

ด้วยสเปคสำหรับรุ่นนี้ก็สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลักหลายสิบตัวอยู่ แต่บางทีอาจจะมีอุปกรร์ที่เราเองก็หลงๆ ลืมๆ ว่ามีการเชื่อมต่อค้างไว้  หรืออาจจะเอาไว่ตรวจสอบว่ามีใครที่เราเองก็ไม่ได้อนุญาตให้มาทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi เข้ามาแอบใช้อยู่หรือเปล่า  ถ้าต้องการลบอุปกรณ์สำหรับ Wi-Fi Router รุ่นนี้ไม่ยากครับ

1. เข้าไปที่เมนู Attached Devices
2. มาที่หัวข้อ Number of devices แล้วคลิ๊กตัวเลขที่อยู่หลังข้อความ ซึ่งจะบอกจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
   
3. เมื่อเข้ามาเราจะเห็นสองหัวข้อที่ปรากฎอยู่คือ Wi-Fi Devices  และ Wire Devices ซึ่งที่เราตามหาว่าใครมาเกาะวง Wi-Fi อยู่บ้าง ให้กดคลิ๊กที่ไอคอน Wi-Fi Devices
4. จากนั้นก็จะปรากฎรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมด  ตัวมที่ที่เราเห็นว่าไม่ใช่ของเราหรือว่ามีแปลกปลอมขึ้นมา ให้กดที่ delete เพื่อทำการกดลบ และตัดการเชื่อมต่ออกไปได้เลยครับ  ถึงอุปกรณ์นั้นจะ offline ถ้าเราตัดการเชื่อมต่อไป อุปกรณ์นั้นก็จะไม่สามารถเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติได้อีก 

ตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเบื้องต้น

การสังเกตุไฟด้านหน้า Router เป็นวิธีที่นิยมใช้กันโดยพื้นฐาน แต่ด้านใน Dash Board ของตัวอุปกรณ์ก็มีบอกไว้เช่นกันในรูปแบบของกราฟฟิค ซึ่งจะบอกไปถึง IP Address และ DNS  IP Address

ขั้นตอนการตรวจสอบ

ดูที่หัวข้อ Internet Status ถ้าขึ้นเครื่องหมายถูกสีเขียวระหว่าง
Computer กับ Router และ Router กับลูกโลก นั่นคือการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอยู่ใสภาพปกติ
แต่ถ้ามีเครื่องหมายกากบาทสีแดง แสดงว่านั่นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกำลังมีปัญหา

Tips : หลายๆ ครั้งเราต้องเอื้อมไปที่ดันหลังอุปกรณ์ เพื่อทำการเชื่อมต่อสัญญาณใหม่ โดยการกดปุ่มปิด – เปิด Router ซึ่งนั่นอาจจะไม่ได้สะดวกกับทุกคน เพราะบางบ้านอาจจะวาง Router ไว้ในจุดไม่ได้เข้าถึงง่ายนัก
วิธีทำการเชื่อมสัญญาณใหม่แบบเร็วที่สุดคือ ไปที่หัวข้อ Internet Status จากนั้นกดที่ Re-Connect
ระบบจะทำการตัดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต แล้วทำการเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง

วิธีตั้งค่าอุปกรณ์ Wi-Fi 6 เชื่อมต่อให้ได้ความเร็วให้เต็มที่

มาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 เป็นสิ่งที่ผู้ใช้หลายคนคาดหวัง ว่าอยากได้ความเร็วสูงที่สุดเท่าที่จ่ายเงินไป และสามารถเป็นไปได้ในทางปฎิบัติ  แต่ถ้าเชื่อมต่อแล้วยังไม่สามารถได้ความเร็วอินเตอร์เน็ตสูงสุดเท่าที่สมควรจะได้ ลองตรวจสอบตามขั้นตอนนี้

1. เข้าไปที่หัวข้อ  Basic Setup > 5G Advanced  Network Setting
2. เลือกไปที่ Mode
3.  ตรวจสอบว่าตัวเลือกตรงนั้นต้องเป็น 802.11a/n/ac/ax เท่านั้น  

Tips :  สำหรับแล็ปทอป หรือ Wireless Card สำหรับพีซี ควรแก้ไขโดยเข้าไปตรวจสอบกับทางเว็บไซต์ของผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์ที่หน้า Support ของอุปกรณ์ชิ้นนั้น  แล้วดาวน์โหลด และติดตั้ง Driver ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

วิธีตรวจสอบการเชื่อมต่อสาย Lan กับ Router ด้วย Easy Diagnostic

การตรวจการทำงานของสาย Lan กับ Router นั้นในเบื้องต้น เราจะใช้วิธีการสังเกตุสีของสัญญาณไฟ บนตัว Router ที่คำว่า Lan  แต่ถ้าเราอยู่ในหน้า Admin ก็สามารถตรวจสอบการทำงานได้เช่นเดียวกัน 

1. เลือกที่หัวข้อ Easy Diagnostic
2. ดูรายละเอียดของ Lan แต่ละช่อง  ถ้าการเชื่อมต่อ และการส่งข้อมูลเป็นไปอย่างเป็นปกติจะขึ้นเครื่องหมายถูกสีเขียวที่ด้านหลัง เพราะพร้อมปรากฎชุดเลข  IP
3. ถ้าขึ้นเครื่องหมายกากบาทสีแดงที่ด้านหลัง จะเกิดขึ้นได้ในสองกรณีคือ 1. ไม่มีการเชื่อมต่อที่พอร์ทนั้น 2. การเชื่อมต่อกำลังมีปัญหา การแก้ไชเบื้องต้นคือ ทำการถอดสาย Lan และเสียบใหม่ช่องเดิม , ลองสลับช่องเสียบสาย Lan  , ดูที่หัวของสาย Lan ว่ามีการเข้าหัวถูกต้องต้องไม่มีการเสียหาย หรือทำการเปลี่ยนสาย Lan เส้นใหม่

Tips :  ที่หัวข้อ Easy Diagnostic  เราสามารถตรวจสอบสถานะของ Wan IP Check / DNS  Check ได้เช่นเดียวกัน โดยดูเครื่องหมายถูกสีเขียวที่ด้านบน

วิธีตรวจสอบ Router ทำงานหนักไปหรือไม่ และการแก้ไข

สเปคของ Router แบบ Home Use จะผลิตมาในระดับที่รองรับรับการทำงานทั่วไป
เช่น การชมภาพยนต์ 4K การเล่นเกมพีซี ,เกมคอนโซล ,การรับชมโทรทัศน์จากกล่อง iptv ,การสตรีมมิ่งเพลง
หรือแม้แต่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ iot สำหรับบ้านอัจฉริยะ แต่ก็มีหลายครั้งที่ Router ทำงานได้ช้า หรือว่าผืดพลาดเพราะมีการใช้งานหนักจนเกินไป

1. สังเกตุที่แถบแสดงสถานะที่เป็นเส้นสีเขียวไม่ควรสูงเกิน 70%
2. ถ้าแถบแสดงสถานะวิ่งเกินไปกว่านั้นให้กดที่ปุ่ม Reboot เพื่อคืนสถานะการทำงานให้กลับสู่สภาวะปกติ

จุดสังเกตุ :

Cpu Usage  คือ  สภาวะการทำงานของหน่วยประมวลผลกำลังทำงานเกินกำลัง เช่น อาจจะกำลังถูกโจมดีด้วย Packet แบบ Loop ทำให้ Cpu ทำงานหนัก
Memory Usage  คือ  สภาวะการทำงานของหน่วยความจำ กรณีที่ memory มักจะใกล้เต้มบ่อยๆ เช่นการดาวนืโหลด และอัพโหลดไฟล์  bittorent เป็นเวลานานๆ  

วิธีปลี่ยนชื่อ SSID  2.4 และ 5Ghz

การตั้งชื่อ SSID มักจะมีการตั้งชื่อมาจากโรงงาน หรืออาจจะตั้งชื่อใหม่ในวันที่ช่างเข้ามาติดตั้งครั้งแรก ซึ่งรวมไปถึงรหัสผ่านในการเข้ใช้ Wi-Fi ด้วย แต่เราสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงได้เองในภายหลัง โดยทำตามขั้นตอนนี้

1. เลือกหัวข้อ Wireless
2. เลือกไปที่ 2.4G Basic Network  หรือ 5G Basic Network
3. เลื่อนมาที่หัวข้อ SSID Name

   
   

4. เลื่อนมาที่หัวข้อ SSID Name แล้วพิมชื่อที่ต้องการ
5. เลื่อนมาที่ WPA PreShareKey  สำหรับการเปลี่ยนรหัสผ่านของ Wi-Fi
6. จากนั้นกดที่ปุ่ม Apply เพื่อทำการตกลง

ตรวจสอบอย่างรวดเร็วด้วย One-Click Diagnosis

การตรวจสอบแบบ One-Click Diagnosis เหมาะสำหรับการตรวจสอบความปลอดภัย การเชื่อมต่อ การทำงานของ Router ในเบื้องต้นภายในคลิ๊กเดียว 

1. เข้าไปที่ Basic Setup
2. เลือก One-Click Diagnosis และกด One-Click Diagnosis ที่กลางหน้าจอ
3. ระบบจะทำการตรวจสอบในสี่หัวข้อ

• Password strength – ความปลอดภัยของรหัสผ่าน
• Internet connection status – สถานะการเชื่อมต่อ
• Device hardware status – สถานะของฮาร์ดแวร์
• Voice service status – สถานะของบริการ voIP