มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นใช้มาตรการต่างๆ ในการจัดการกับการ chatGPT ซึ่งเป็น AI แบบโต้ตอบ (ปัญญาประดิษฐ์) ที่สร้างประโยคที่เป็นธรรมชาติในการตอบคำถาม และเริ่มมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลดังกล่าวในใช้ทำรายงาน และเพื่อเตือนนักเรียนถึงอันตรายของการรั่วไหลของข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญชี้ครูต้องดำเนินการ
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม Sophia University ได้ประกาศบนเว็บไซต์ทางการเกี่ยวกับ “นโยบายการประเมินผลการเรียน” สำหรับนักศึกษาและคณาจารย์ ห้ามใช้ประโยคและผลการคำนวณที่สร้างโดย AI เช่น Chat GPT ในรายงานและวิทยานิพนธ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณาจารย์ หากพบว่ามีการใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับข้อความที่สร้างโดย AI ในเอกสารวิชาการ จะมีการใช้มาตรการที่เข้มงวด
ChatGPT เปิดให้ใช้งานฟรีในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วโดย OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพของสหรัฐฯ และมีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกแล้ว แม้จะสะดวกมาก แต่ AI อาจตอบด้วยเนื้อหาที่ไม่ถูกต้องในส่วนที่ AI ยังเรียนรู้ไม่เพียงพอ และหากข้อมูลการเรียนรู้มีข้อความที่มีลิขสิทธิ์ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ หากมีการเขียนข้อมูลที่เป็นความลับ เช่น บริษัทและเนื้อหาการวิจัย มีความเสี่ยงที่ AI จะเรียนรู้ข้อมูลนั้นและรั่วไหลออกสู่ภายนอก
เนื่องจากไม่สามารถห้ามนักศึกษาไม่ให้ใช้ AI ได้ ดังนั้นการตอบสนองของแต่ละมหาวิทยาลัยจึงเน้นที่การจำกัดการใช้งานในรายงานและเรียกร้องความสนใจเป็นหลัก
ในวันที่ 3 ของเดือนนี้ มหาวิทยาลัยโตเกียวได้โพสต์เอกสารชื่อ “Generative AI” รวมถึง AI แบบโต้ตอบอื่นๆ บนเว็บไซต์ภายใน “นักเรียนต้องจัดทำรายงานเอง การใช้ AI เพียงอย่างเดียวไม่สามารถใช้จัดทำรายงานได้”
ในพิธีรับเข้ามหาวิทยาลัยเกียวโตเมื่อวันที่ 7 นางาฮิโระ มินาโตะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกียวโต ชี้ให้เห็นว่ามีปัญหามากมายเกี่ยวกับเอกสารการสร้าง AI “งานเขียนเป็นงานที่ต้องใช้พลังงานมาก แต่มันฝึกความแข็งแกร่งทางจิตใจและพลังความคิดของคุณ” เขากล่าวกับนักศึกษาใหม่
อีกทั้งยังมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ครูดำเนินการ ทางด้านมหาวิทยาลัยโทโฮคุ นำเสนอ “Points to Note” บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ นอกจากการเรียกร้องความสนใจจากนักเรียนแล้ว ขอแนะนำให้ทบทวนวิธีการมอบหมายงานและวิธีการตรวจสอบ เช่น “ก่อนมอบหมายแบบฝึกหัดและรายงาน ให้ตรวจสอบว่า AI จะตอบอย่างไร” และ “ใช้รูปแบบข้อสอบเขียนในห้องเรียน ”
Motohisa Kaneko ศาสตราจารย์ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพิเศษแห่งมหาวิทยาลัยซึคุบะ (ทฤษฎีการศึกษาระดับอุดมศึกษา) กล่าวว่า “แม้ว่าเราจะห้ามใช้ในการทำรายงาน แต่ก็ยากที่จะระบุได้ว่านักเรียนใช้จริงหรือไม่” ครูจะต้องทำงานซ้ำด้วยความยากยิ่งขึ้น” เขากล่าว