MINIX ประกาศทิศทางและกลยุทธ์ปี 2568 ขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม พร้อมชี้ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเทรนด์ของ AIโดยเฉพาะ AI Mini PC ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโอกาสสำคัญของ MINIX นอกจากนี้ยังควงคู่ JWIPC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมด้านระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม AI และเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เพื่อขยายตลาดในไทย
นาย เคนนี วู ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท มินิกซ์ เทคโนโลยี จำกัด (MINIX Technology Limited) เปิดเผยว่า
ทิศทางและกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในปี 2568 มุ่งเน้นการขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่ง MINIX มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ประชากรมีกำลังซื้อสูงขึ้น และมีความต้องการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ในอดีตบริษัทฯ ได้เน้นทำตลาดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเป็นหลัก
“เรามั่นใจว่าประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพในการขยายฐานลูกค้า ด้วยปัจจัยจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล นโยบายส่งเสริมการลงทุน และกระแส AI ที่กำลังมาแรง MINIX พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลก เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและร่วมพัฒนา AI ในประเทศไทย”
MINIX เป็นบริษัทในเครือ JWIPC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดย MINIX มุ่งเน้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค
ขณะที่ JWIPC มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ MINIX เริ่มต้นธุรกิจในปี 2547 ในฐานะผู้ผลิตเมนบอร์ดระดับโลก ด้วยเทคโนโลยี All-In-One หลังจากนั้น บริษัทฯ ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์ Android TV Box และ Mini PC ภายใต้แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเล็ก ประหยัดพลังงาน และทนทาน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในกลุ่มลูกค้าเฉพาะ (Niche Market) เช่น ธุรกิจป้ายดิจิทัล (Digital Signage) และสื่อดิจิทัล
“MINIX เดินหน้าพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนิยามวิถีชีวิตใหม่ผ่านแนวคิดและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดย Android Media Hub ของ MINIX เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่เปิดตัวในระดับโลก และได้สร้างแรงบันดาลใจให้บริษัทอื่น ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ตามมา
นอกจากนี้ เรายังเป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่เปิดตัว Mini PC ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows แบบ 64 บิต และอะแดปเตอร์ GaN แบบหลายคอนเนคเตอร์ขนาดเล็กที่สุด เพื่อตอบโจทย์นักเดินทางให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ภายใต้นิยามใหม่ของคอมพิวติ้งที่มีขนาดเล็ก ใช้พลังงานต่ำ แต่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ MINIX ยึดถือ”
จากความสำเร็จของ Android Media Hub และ Mini PC ทาง MINIX ได้ขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง รวมถึง CarPlay และ IT Gadget ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดเรื่อง “นวัตกรรม” ที่ไม่ใช่เพียงการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิต เราเชื่อมั่นในคำมั่นสัญญาและมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
“MINIX เชื่อมั่นว่า AI จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงานของผู้คน โดยเราเองมีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี ทีมวิศวกร และความร่วมมืออันดีกับพันธมิตร เช่น Intel, AMD และ NVIDIA ซึ่งจะทำให้เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ AI
ที่นำเสนอจะมีคุณภาพสูงและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแน่นอน”
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ MINIX วางแผนใน 3 ด้านหลัก
ได้แก่
- การสร้างความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
- การสร้างเครือข่ายพันธมิตรโดยหาตัวแทนจำหน่ายและช่องทางการตลาดในแต่ละประเทศ
- การสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อต่าง ๆ โดย MINIX ให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการตลาด และเชื่อมั่นว่าด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและผลิตภัณฑ์ที่พร้อม จะนำพา MINIX ประสบความสำเร็จในการกลับมารุกตลาดในเอเชียอีกครั้ง
MINIX ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในแต่ละประเทศ เพื่อกระจายสินค้าและให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง โดยเริ่มจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ซึ่งในครั้งนี้ได้เข้าร่วมงาน Intel LOEM 2024 Summit ที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน
เพื่อพบและเจรจาธุรกิจกับตัวแทนจำหน่าย (distributor) พร้อมนำ Mini PC รุ่นล่าสุดมาอวดโฉม ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทุกระดับ ตั้งแต่กลุ่มผู้ใช้งานเริ่มต้น ระดับกลาง และระดับไฮเอนด์ ผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ของบริษัทฯ ได้แก่ Mini PC ที่ขับเคลื่อนด้วย AI หลายรุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาและมีเอกลักษณ์สไตล์ MINIX แสดงให้เห็นถึงแนวทางการยกระดับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพบปะสื่อมวลชนเพื่อสร้างการรับรู้ (brand awareness) ในวงกว้าง
“เราตระหนักดีว่า การทำตลาดในแต่ละประเทศต้องอาศัยความเข้าใจในวัฒนธรรมและพฤติกรรมผู้บริโภค ดังนั้น เราจึงมุ่งร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่นในการวางแผนและดำเนินกิจกรรมทางการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ พร้อมด้วยการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Amazon และเน้นความร่วมมือกับร้านค้าปลีก (retail shop) เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จริงก่อนตัดสินใจซื้อ”
จุดแข็งของ MINIX คือคุณภาพผลิตภัณฑ์ระดับเวิลด์คลาสที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล การบริการหลังการขาย และการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าองค์กรให้ความสำคัญ MINIX เลือกใช้ส่วนประกอบคุณภาพสูงเทียบเท่าระดับอุตสาหกรรมการทหาร เพื่อรับประกันความทนทานในการใช้งาน มีอายุการใช้งานยาวนาน และยังคงสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายไปนานแล้ว เช่น Android Box รุ่นแรกที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2547
“MINIX มั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นฐานที่มั่นสำคัญในการขยายธุรกิจ AI ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพร้อมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา AI ของประเทศไทยให้ก้าวหน้าและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและคุณภาพการบริการที่เหนือกว่าคู่แข่ง” นาย เคนนี วู กล่าว
นาย สตีฟ เกา ซีอีโอ JWIPC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ MINIX กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริษัทฯ ได้จัดงาน Asia-Pacific Partner Meeting ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ โดย JWIPC มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมด้านระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม AI และเทคโนโลยีประหยัดพลังงานสีเขียว พร้อมจัดแสดง IoT อุตสาหกรรมยุคใหม่และผลิตภัณฑ์จอแสดงผลเชิงพาณิชย์ ซึ่ง JWIPC ได้เริ่มทำตลาดในไทยมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยร่วมงานกับคู่ค้าเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพ ได้แก่ โมดูล OPS จอใหญ่เพื่อการศึกษา จอแสดงผลเชิงพาณิชย์ มินิพีซี และผลิตภัณฑ์ IPC คุณภาพสูงสู่ภาคอุตสาหกรรมฝังตัวของไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบอัตโนมัติในท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว เช่น ผลิตภัณฑ์ BOX PC อเนกประสงค์ที่ประสบความสำเร็จ ตัวควบคุมระบบภาพสำหรับเครื่องจักร ตัวควบคุมหุ่นยนต์ และกล่องคอมพิวเตอร์สำหรับอุปกรณ์ปลายทาง AI ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เตรียมเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้” ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jwipc.com