Review!

รีวิว Huawei FreeBuds SE 3 : หูฟังไร้สายสัมผัสใหม่แห่งความเบา

Huawei Freebuds SE 3 หูฟังรุ่นล่าสุดจากทางหัวเว่ยที่เน้นเจาะตลาด  EntryLevel  หรือผู้ใช้เริ่มต้นที่ต้องการหูฟังราคาเข้าถึงง่ายๆ และรุ่นนี้สิ่งที่ต่างออกไปจากที่พวกเขาเคยทำคือเรื่องของการออกแบบที่ยกเครื่องคิดใหม่ ออกแบบใหม่

แกะกล่องลองใช้ Huawei Freebuds SE 3

Huawei FreeBuds SE 3

ตัวหูฟังรุ่นนี้ตอนที่เราแกะกล่องมาครั้งแรก คือรู้สึกได้เลยว่าเป็นหูฟังที่ออกแบบมาให้ถ่ายรูปแล้วดูสวยขึ้นกล้อง ไม่ว่าจะตัวกล่องชาร์จที่ทำออกมาเป็นลายคล้ายหนัง ฝาพับเปิดปิดที่ด้านบนที่ดูแบบโครเมียมเน้นความเงางามเพื่อความหรูหราในราคาที่จับต้องได้ โดยจุดสังเกตคือทั้งหมดเป็นพลาสติค ส่วนนพอร์ตชาร์จนั้นเป็น USB C การเชื่อมต่อนั้นเป็น Bluetooth 5.4

ในส่วนของเคสชาร์จนั้นเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนโพลิเมอร์ ให้แบตเตอรี่มาในขนาด 510 mAh  และเอียร์บัดแบตเตอรี่อยู่ที่  41 mAh  การเล่นเพลงเล่นได้นานต่อเนื่องสูงสุด 9 ชั่วโมงถ้าชาร์จเต็ม และ 42 ชั่วโมงด้วยการชาร์จในเคสชาร์จ (ซึ่งรวมการชาร์จหลายครั้ง) การชาร์จเอียร์บัดด้วยเคสชาร์จใช้เวลาประมาณ 60 นาที  ส่วนการชาร์จเคสชาร์จด้วยสายเคเบิลโดยมีหูฟังอยู่ในเคสใช้เวลาประมาณ 110 นาที ส่วนถ้าใครรีบก็ชาร์จ 10 นาทีเพื่อฟัง 3 ชั่วโมง หรือชาร์จเต็มความจุเพื่อฟัง 9 ชั่วโมง

การจับคู่ไม่มีอะไรยากใช้กดปุ่ม 2 วินาทีเพื่อจับคู่โดยกดปุ่มที่ด้านล่างของเคสชาร์จค้างไว้เพื่อการจับคู่หูฟัง รอจนไฟแสดงสถานะบนเคสชาร์จจะกะพริบเป็นสีขาว แสดงว่าหูฟังของคุณพร้อมจับคู่แล้ว เมื่อเชื่อมต่อสําเร็จแล้วไฟแสดงสถานะจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ถ้าจับคู่แล้วหูฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณอีกครั้งโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่เปิดเคส ส่วนการจับคู่ป๊อปอัปจะรองรับกับโทรศัพท์ HUAWEI ที่ใช้ EMUI 10.0 หรือใหม่กว่าเท่านั้น ส่วนการกันน้ำกันฝุ่นนั้น รองรับระดับมาตรฐาน IP54 ทนต่อฝุ่นและน้ำกระเซ็น  ออกกําลังกายในระดับเบาๆ นี่พอได้  ส่วนไดร์เวอร์ไดนามิกมีขนาด 10.0 มม ก็ถือว่าให้มาขนาดพอดีตัว ในการใช้งานนั้นเราทดสอบจับคู่กับ iPhone ก็ถือว่าจับคู่ได้ราบรื่นดี

Huawei FreebudSE 3 ใช้คู่กับแอป AI Life

หูฟังจะมีประโยชน์สูงสุดต่อเมื่อจับคู่กับแอป HUAWEI AI Life เพื่อใช้คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • ระดับแบตเตอรี่
  • รูปแบบการสั่งการแบบกําหนดเอง
  • ค้นหาหูฟัง

ปุ่มลัด

  • แตะที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่งสองครั้ง: เล่น/หยุดเสียงชั่วคราว / รับสาย / วางสาย
  • แตะที่เอียร์บัดข้างใดข้างหนึ่งสามครั้ง : เพลงก่อนหน้า/เพลงถัดไป

การปรับ EQ

ในส่วนของปรับเสียงนั้นจะอยู่ตรง Sound Effect

  • Default Effct  – เสียงมาตรฐานไม่มีการปรุงแต่ง
  • Bass Boost – เสียงเบสหนักแน่น
  • Treble boost – เสียงแหลมชัด
  • Voices – เน้นเสียงร้องชัด

แกะกล่องลองฟัง Huawei FreebudSE 3

Huawei FreeBuds SE 3

Ko-So-Ko-So // Koda Kumi

เราลองเปิดหัวด้วยเพลงเต้นรำที่ไม่ได้ที่กระแทกรุนแรงอะไรมาก เสียงพอได้อยู่ซินท์เก๋ๆ พอได้ยินกรุบกริบล่ะ
คือย่านกลางกับร้องออกชัด เป้นหูฟังที่ฟังเพลงเต้นแบบเบาๆ ไม่เน้นโยกในระดับเพลินๆ

กลับมาเถอะนะ (Come Back To Me) : Limousine feat. Jayson

ลองกับเพลงที่มีความเป็น R&B ที่ออกมาหลายปี แต่ยังฟังดีอยู่สำหรับเพลงนี้เสียงร้องได้ยินค่อนข้างชัด ในส่วนของไลน์กีตาร์จัดว่าค่อนข้างคมอยู่ การให้เสียงในย่านต่ำ ถือว่ามาแบบกลมๆ ค่อนข้างอิ่มอยู่ ถ้าใส่เข้าไปในช่องหูลึกๆ อาจจะรู้สึกว่ามันบวมอยู่นิดๆ นะ อันนี้อยู่ที่การจัดวาง

AO – SPYAIR
ลองกับ J-Rock ที่มีความโมเดิร์นหน่อย ความพุ่งงทะยานของเสียงดิสทรอชั่นนของกีตาร์ และย่านกลางของร้องออกมาเด่น กลองถ้าไม่เน้นว่าที่ต้องหนุบหนับ จับกระเดื่องออกมาเป็นลูก ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีในราคาค่าตัวอยู่นะ คือฟังร็อคเท่ๆ ได้ไม่น่าเกลียดล่ะ

ซื้อดีมั้ย Huawei Freebuds SE 3

Huawei FreeBuds SE 3

ข้อดี :

  •  ใช้งานกับอุปกรณ์ iOS อย่าง iPhone ได้อย่างราบรื่น
  •  การออกแบบที่ดูดีดูมีราคากว่าคู่แข่งในช่วงราคาเดียวกัน
  • ชั่วโมงการใช้งานที่นานขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย  แต่ก็นานกว่ารายอื่น
  • แอปพลิเคชั่นที่ใช้ทำงานร่วมกัน ทำงานได้จริง

ข้อด้อย :

  • หลุดออกจากหูค่อนข้างง่ายสำหรับรูปทรงหูในบางแบบ
  • วัสดุของหูที่ดูเป็นพลาสติค รมถึงกล่องที่ค่อนข้างบาง
  • ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก

ขอบคุณ : Huawei Thailand ที่เอื้อเฟื้อหูฟังในการทดสอบ

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

Back to top button