Review!

ลุยคลื่นจริง! รีวิว Huawei Watch Fit 4 สมาร์ทวอทช์ราคาดีสำหรับคนรักกีฬาทางน้ำ

เพราะ Smart Watch ทำได้มากกว่าแค่ใส่วิ่ง! เมื่อตอนเปิดตัว  Huawei  Watch Fit 4 มีภาพโฆษณาในวิดีโอแนะนำว่าเขาเอาไปเล่น Sup Surf !!!
ซึ่งนั่นก็กระตุกความสนใจของเราขึ้นมาทันที  ฉะนั้นเราไปลองของจริงกันเลยดีว่า ว่ามาใส่เล่นโต้คลื่นในทะเลไทยจะไปรอดหรือไม่

จุดเด่นแรกที่ทำให้ HUAWEI WATCH FIT 4 ดูน่าสนใจคือดีไซน์ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangular Face)
โดยตัวเรือนได้รับการปรับปรุงให้มีความบางและเบายิ่งขึ้น หนาเพียง 9.5 มม. และน้ำหนักเพียง 27 กรัม (ไม่รวมสาย) ทำให้สวมใส่สบายเหมือนไม่ได้ใส่ หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.82 นิ้ว ความละเอียด 480 x 408 พิกเซล  การแสดงผลที่คมชัดและสีสันสดใสอย่างน่าทึ่งแม้แต่การอยู่กลางแดด  โดยความสว่างสูงสุดที่สูงถึง 2,000 นิตส์ (ส่วนรุ่น Pro สูงสุด 3,000 นิตส์) จากการทดสอบของเรา นั่นือสิ่งที่เราประทับใจเพราะนช่วงราคาเดียวกัน นี่คือจุดนึงที่แข่งขัน เพราะเมืองไทยมีแดดจ้ 

วัสดุตัวเรือนที่ใช้เป็น อะลูมิเนียมอัลลอยด์ ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู แต่แฝงไว้ซึ่งแข็งแรงทนทาน สายยางที่มากับนาฬิกานั้นเป็นฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ คือการใส่ในน้ำนั่นเกาะ และไม่ต้องสูญเสียพลังงานไปกับน้ำหนัก  การเกาะติดของสายนาฬิกาใช้เป็นแม่เหล็กที่มีความยึดเกาะสูง

มาดูเบื้องหลังนาฬิกากันก่อน หลักการทำงานเบื้องต้นเรียกว่า Photoplethysmography (PPG) โดยเซ็นเซอร์จะยิงแสง (มักจะเป็นแสงสีเขียว) ไปยังผิวหนัง (เช่น ข้อมือ) และวัดปริมาณแสงที่สะท้อนกลับ เลือดที่ไหลผ่านเส้นเลือดจะมีการดูดซับแสงสีเขียวได้ดี  เมื่อหัวใจบีบตัว เลือดจะไหลผ่านเส้นเลือดมากขึ้น ทำให้มีการดูดซับแสงมากขึ้น และแสงสะท้อนกลับมาน้อยลง   แลุะเมื่อหัวใจคลายตัว เลือดจะไหลผ่านเส้นเลือดน้อยลง ทำให้มีการดูดซับแสงน้อยลง และแสงสะท้อนกลับมามากขึ้น เซ็นเซอร์จะตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของปริมาณแสงที่สะท้อนกลับมานี้ เพื่อคำนวณอัตราการเต้นของหัวใจ   ส่วนการคำนวณการเผาผลาญแคลอรี่ ใช้ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจในการประมาณการพลังงานที่ใช้ไป

แม้จะเป็นสมาร์ทวอทช์ในซีรีส์ที่เน้นราคาที่เข้าถึงได้ แต่ HUAWEI WATCH FIT 4 ก็ยังคงให้ฟีเจอร์การเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ, การรับสายและโทรออกผ่านบลูทูธ, และการตอบกลับข้อความด่วน   การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนรองรับโทรศัพท์ที่ใช้ Android 8.0/iOS 13.0 หรือใหม่กว่านั้น ซึ่งผู้ใช้ต้องติดตั้งแอป Huawei Health นะครับ

ในด้านของแบตเตอรี่ HUAWEI WATCH FIT 4 ยังคงเป็นจุดแข็งที่ทำให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งหลายแบรนด์ โดยสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 10 วัน ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (สำหรับการใช้งานทั่วไป) และหากเปิดใช้งานหน้าจอ Always-On Display จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 4-5 วัน ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดเร็ว

TIPS : Huawei Watch Fit 4 กับฟังก์ชันการถ่ายภาพหน้าจอ (screenshot)

การบันทึกบันทึกภาพหน้าจอจาก Huawei Watch Fit 4 ใช้การกดปุ่ม “ขึ้น” และ “ลง” พร้อมกัน ภาพหน้าจอจะถูกบันทึกไปยังแกลเลอรี (Gallery) ในโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ  ตราบใดที่นาฬิกาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่านแอป Huawei Health ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าไปดูและจัดการรูปภาพเหล่านั้นได้จากแอป Gallery ในโทรศัพท์

ฟังก์ชันการออกกำลังกาย: ทดสอบนาฬิกากับกีฬาทางน้ำ

ทำไมนาฬิกา Smart Watch ต้องคิดแค่การใส่วิ่ง นั่นคือโจทย็ที่เราคิดไว้แต่แรกหลังจากได้นาฬิการเรือนนี้มา
ด้วยโหมดการออกกำลังกายที่รองรับมากกว่า 100 โหมด ครอบคลุมทั้งกิจกรรมในร่มและกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, รวมถึงกีฬาทางน้ำโดยทั่วไป 

ประเภทของกีฬาทางน้ำที่มีอยู่นาฬิกาที่รองรับนั้น อาทิ SailingRowing, Canoe ,  Jet Ski , SUP แต่ในที่นี้เราจะมาทดสอบการจาก Surf ครับ 

แถบบนคือการบอกลักษณะการเต้นของหัวใจว่ากำลังอยู่ในโซนไหน ซึ่งก็แบ่งตามหลัก อย่าง  Fat Burning ,Aerobbic , Anaerobic , Redline  ซึ่งตรงนี้สำคัญมากนะครับ อย่างการแตะสีเหลืองตรงนี้ ถ้ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ เป็นการเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อ เร่งการเผาผลาญการเผาผลาญ ซึ่งหัวใจเราจะเต้นอยุ่ที่ 152 -171 BPM ซึ่งการที่อัตราการเต้นของหัวใจแตะอยู่ที่ตรงนี้ โดยที่ยังไม่ข้ามเกินไปจากนั้น คือว่าอยู่ในระดับที่กำลังพอดี  เพราะถ้าข้ามไปกว่านั้นนานเกินนี้ไป อาจจะอันตรายได้ ซึ่งการที่เราทำกิจกรรมในน้ำ การหันมาดูตรงนี้จึงเป็นเรื่องจำเป็น

หลังจากบันทึกการออกกำลังเสร็จ ตัวนาฬิกาจจะมีการบันทึการออกกำลังกาย ตรวจวัดจำนวนแคลอรีที่ใช้ไป และถ้าอัตราหัวใจของเราเต้นสูงนาฒิกาจะให้เราค่อยๆ Cool Down ลงมาก่อนครับ

TIP : ตั้งค่าล็อคหน้าจอเมื่อลงน้ำ

นาฬิกา Smart Watch เมื่อลงน้ำ หลายครั้งจะมีการเลื่อนหน้าจอ หรือเปลี่ยนเมนูไปเอง เพราะุว่ามีการสัมผัสกับคลื่นที่หน้าปัทม์ วิธีแก้ไขคือ กดที่ “Auto Lock Screen” และ “Auto Lock Crown” เพื่อป้องกันการหมุนจากเม็ดมะยมครับ

ฟังค์ชั่นนี้อาจจะดูหาคนใช้ยากหน่อย แต่เราอยากจะเล่าให้ฟัง เพราะเราเองก็ไมคิด่าจะมีใส่มาในให้นาฬิการราคาเท่านี้ นั่นคือ Air pressure (ความกดอากาศ) 
ในนาฬิกาจะมีในส่วนของ  Barometer ที่สามารถช่วยในการคาดการณ์การเกิดพายุหรือฝนตกได้ในระดับหนึ่ง

ประโยชน์ของฟังก์ชันนี้ คือ สำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ช่วยประเมินสภาพอากาศได้ในระดับหนึ่ง
เพราะความกดอากาศที่เปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (เช่น ความกดอากาศต่ำมักจะเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่มีเมฆมากหรือฝนตก)

 

โดยสรุปแล้ว ฟังก์ชันนี้ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์และแนวโน้มตลอด 24 ชั่วโมงของระดับความสูงและความกดอากาศ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการติดตามข้อมูลเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การเตือนพายุ
การสังเกตุการเปลี่ยนแปลงความดันบารอมิเตอร์เพื่อคาดการณ์ แต่ก็ไม่สามารถแทนที่การพยากรณ์อากาศได้ ใช้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น สามารถปรับความไวในการแจ้งเตือนได้โดยการปรับเปลี่ยนความถี่ในการเตือนตามฤดูกาลและตําแหน่งทางภูมิศาสตร์

สรุป: ใครที่เหมาะกับ HUAWEI WATCH FIT 4?

HUAWEI WATCH FIT 4 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่ให้ความสำคัญทั้งในด้านดีไซน์ , ฟังก์ชันสุขภาพ และการออกกำลังกาย ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและคุณสมบัติ รวมถึงเซนเซอร์ที่ใส่มาแบบแน่นๆ ก็ถือว่าที่คุ้มค่าสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการสมาร์ทวอทช์เรือนแรก: ด้วยออกแบบมาดี และความใช้งานง่าย

  • ผู้ที่ต้องการติดตามข้อมูลเรื่องรักสุขภาพอย่างจริงจัง: ด้วยเซ็นเซอร์ที่แม่นยำและฟีเจอร์การติดตามสุขภาพที่มีให้เลือกมากมาย

  • นักกีฬา และผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ: ด้วยโหมดการออกกำลังกายที่มีให้เลือกมากมาย และระบบ GPS ที่แม่นยำ

  • ผู้ที่มองหาสมาร์ทวอทช์ที่มีแบตเตอรี่อึดทน: ตอบโจทย์การใช้งานในทุกิจกรรมทั่วไปแบบไม่ต้องกังวล

 

ขอบคุณ : HUAWEI ประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อสินค้าในการทดสอบ

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

Back to top button