ในขณะที่สังคมกำลังให้ความสนใจต่อปัญหาการปลอมแปลงบุคคลสาธารณะด้วยเทคโนโลยีดีปเฟก (Deepfake), ศิลปินที่สร้างจากปัญญาประดิษฐ์ (AI), นักแสดงเสมือนจริง และภาพถ่ายดาวเทียมปลอม เราอาจละเลยถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของเยาวชน ปัจจุบัน มีกระแสที่กลุ่มเยาวชนใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างภาพบุคคลลักษณะคล้ายผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในสภาพมอมแมม ปรากฏตัวภายในบ้านของตนเอง และส่งภาพดังกล่าวให้แก่ผู้ปกครอง ซึ่งนำไปสู่ความไม่พอใจและในบางกรณีมีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ การสร้างสถานการณ์ล้อเล่นนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนแอปพลิเคชัน TikTok และนอกเหนือจากการสร้างความวิตกกังวลอย่างรุนแรงให้แก่ผู้ปกครองแล้ว ยังได้กลายเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงานของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอีกด้วย
หลักการของการสร้างสถานการณ์นี้ไม่ซับซ้อนนัก กล่าวคือ เยาวชนจะใช้เครื่องมือ AI ของแอปพลิเคชันสแนปแชต (Snapchat) สร้างภาพชายในลักษณะสกปรกมอมแมมภายในบริเวณบ้าน พร้อมทั้งส่งข้อความถึงผู้ปกครองโดยอ้างว่าได้อนุญาตให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาเพื่อใช้ห้องน้ำ, พักผ่อน หรือขอน้ำดื่ม ในหลายกรณียังมีการอ้างว่าบุคคลในภาพรู้จักกับผู้ปกครองจากสถานที่ทำงานหรือสถาบันการศึกษาในอดีต ซึ่งโดยปกติแล้ว ผู้ปกครองจะเกิดความตื่นตระหนกและสั่งการให้ขับไล่บุคคลนั้นออกจากบ้านทันที จากนั้นเยาวชนจะบันทึกภาพวิดีโอปฏิกิริยาของผู้ปกครองและนำไปเผยแพร่บน TikTok ซึ่งบางคลิปวิดีโอมียอดเข้าชมสูงถึงหลายล้านครั้ง
สถานการณ์ดังกล่าวได้ยกระดับจากปัญหาไปสู่สภาวะที่อาจเป็นอันตราย เมื่อการล้อเล่นดำเนินไปเป็นเวลานานจนผู้ปกครองตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ การแจ้งเหตุบุกรุกเคหสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเด็กอยู่ในเหตุการณ์ จะได้รับการพิจารณาให้เป็นกรณีที่มีความสำคัญเร่งด่วนสูงสุด ดังนั้น การกระทำในลักษณะนี้จึงเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรอันมีค่าของเจ้าหน้าที่และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้ก่อเหตุเองได้ ผู้บัญชาการ แอนดี้ แมคคินนีย์ จากหน่วยลาดตระเวนตำรวจราวด์ร็อก (Round Rock Police) ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวเอ็นบีซี (NBC) ว่า สถานการณ์เช่นนี้ “อาจนำไปสู่การเข้าปฏิบัติการของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SWAT)”
สถานีตำรวจเมืองเซเลม รัฐแมสซาชูเซตส์ ได้ออกแถลงการณ์สรุปประเด็นนี้ไว้อย่างชัดเจนว่า **”การสร้างสถานการณ์ล้อเล่นในลักษณะนี้เป็นการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้ไร้ที่อยู่อาศัย, ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ผู้รับสาร และเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรของตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับแจ้งเหตุจะไม่ทราบว่าเป็นเรื่องล้อเล่น และจะปฏิบัติต่อการแจ้งเหตุเสมือนเป็นคดีบุกรุกที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่อันตรายได้”** ดังนั้น แม้การล้อเล่นอาจสร้างความบันเทิงได้ แต่พฤติกรรมในลักษณะนี้ควรยุติลง
