หลังจาก Single ที่ 8 อย่าง Rollin’ (Air Raid Vehicle) ที่ถูก Cover โดยสองสาวญี่ปุ่นที่มาต่อลมหายใจให้ดนตรีแนว Nu Metal อย่าง EMNW ได้ถูกปล่อยทั้ง streaming และ Youtube หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็ดูจะเปลี่ยนแปลงไปหมด .. จนนำมาซึ่งการทัวร์ที่ประเทศไทยครั้งแรกของพวกเธอ
EMNW คือใครกันบ้าง ?
EMNW ถูกจดจำในฐานวง Nu Metal ถือกำเนิดเมื่อปี 2024 ที่ค่อยๆ สร้างชื่อกันขึ้นมาจากการใน Live House ที่โตเกียว และค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพิ่มเติมจากการเล่นบนเวทีสำหรับ Rookie ในงานเทศกาลดนตรีที่ญี่ปุ่น ซึ่งสองสมาชิกคือ
EMMA : สาวผมยาวในภาพ Kawaii ที่ขึ้นเวทีมาพร้อมกับทรงผม Twin Tales และท่า Hi-Kick ที่แทบจะได้เห็นในทุกโชว์ .. แต่อีกภาพนึงคือเธอเล่นเปียโนได้ดีพอๆ กับการร้องเพลงแนว Jazz
Menu : สาวแก้มป่องที่มากับน้ำเสียงทรงพลัง เท่ ห้าว ดูดุดัน ที่เป็นเหมือนเสียงที่อยู่เพื่อดันแผงหลังในเพลงของของวงให้รุกเร้าไปข้างหน้า .. แต่อีกภาพนึงเธอคือนักร้องที่เล่นกีตาร์ได้ดี และมีเทคนิคในการร้องเพลงที่น่าสนใจมากๆ
Day 1
การทัวร์มาเมืองไทยครั้งแรกของ EMNW ก็ไม่ใช่เรื่องคาดการณ์ที่เดาได้ยากมากนัก เพราะในกลุ่ม Community ของนักฟังเพลงญี่ปุ่นในไทยก็มีการแชร์เพลงของพวกเธอมาก่อนหน้า และมีคนตาดีเห็นตารางทัวร์ในไทย ที่ขังหวะน่าจะพอดีกับงาน Maho Rasoom ที่เป็นการจัดงานดนตรีแบบไม่เผยชทื่อศิลปินของ Mahora Sop ที่จัดโดย Fungjai .. และสิ่งที่ยืนยันว่าจะได้เจอกันในค่ำคืนนั้นก็คือ Merch และ CD ในงานนี่แหล่ะ
และเมื่อ EMNW ขึ้นมาเป็นวงดนตรีวงที่สี่ของค่ำคืนนั้น ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนแปลงไปหมด จากที่ทุกคนที่ดูวงก่อนหน้าก็ยืนโยกกันในระดับเบาๆ พอให้สนุก แล้วก็เปลี่ยนมาโยกหัวสอดรับกับดนตรีที่พาเราย้อนกลับไปในยุค 2000’s ต้นๆ เมื่อวันที่ Nu Metal เคยเรืองรองครองชาร์ทเพลง หลายคนที่เพิ่งได้เห็นพวกเธอครั้งแรกในวันนั้นต่างโดนตกเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าจะมาเล่นกันแต่ 8 เพลงเท่าจำนวนเพลงที่ออกมาเป็น EP ก็ตาม .. ภาพของความพยายามวันนั้นก็ตอบแทนด้วยการเห็นคนที่เพิ่งได้มาดูโชว์ครั้งแรก เดินไปซื้อ CD แล้วมารอต่อคิวถ่ายภาพกับศิลปินอย่างไม่มีพัก และในวันนั้นเองหลายคนก็รู้จักพวกเธอมากขึ้น รวมถึงพื้นที่บน Facebook Page หลายแห่งก็กล่าวถึงพวกเธออย่างชื่นชม
Day 2
EMNW มาให้สัมภาษณ์กับแรกที่ PopCycle ที่ห้อง H&M Pod ห้าง Siam Paragon การสัมภาษณ์ของเรากับ EMNW ที่ไทยนี่ดูจะไปอย่างเบาๆ ไม่เข้มข้นเท่าที่ญี่ปุ่นเท่าไหร่ การที่เราเริ่มสนทนาว่าพวกเธอมาไทยแล้วชอบกินอะไรกันบ้าง ก็ดูมีท่าทีที่คุยกันแบบสบายๆ ได้เห็นมุมที่สนุกสนานกันตั้งแต่แรกเริ่ม .. ในส่วนของคำถามเรื่องดนตรีนั้น เราเลือกที่จะถามในมุมความสามารถทางดนตรีของทั้งคู่ เพราะเราคิดว่าทั้งสองคนมีศักยภาพด้านอื่นๆ มากกว่าที่เราเห็นบนเวทีที่ยังไม่ได้นำเสนอ และคำถามที่เราอยากรู้เราว่าที่ถามไปวส่า จุดมุ่งหมายต่อไปของแต่ละคนมองไปที่จุดไหน ..ผมบอกเลยว่าคำตอบของ Menu-Chan ยังเป็นสิ่งที่ผมฟังแล้วประทับใจอยู่จนถึงตอนนี้ เป็นการให้สัมภาษณ์ที่อยากให้ได้ดูจริงๆครับ
Day 3
เป็นการเล่นงานใหญ่ครั้งที่ 2 ในกรุงเทพฯ ของพวกเธอ ซึ่งเล่นกันที่ BluePrint Live House คราวนี้ใช้คำว่า อีกนิดนึงก็ One Band Show แล้ว ฉะนั้น..เพลงที่ถูกเล่นจึงประเคนกันมาเต็มๆ นอกจากเพลงที่เป็น Single ทั้งหมด ก็มีเพิ่มมาอีก 2 เพลงคือฟังกันให้จุกๆ ไปข้างนึง แน่นอนกว่าการเล่นใน Live House น่าจะเป็นสิ่งที่พวกเธอผ่านกันมาหมดแล้ว แต่การเล่นต่อจากวงที่มีชื่อเสียงอย่างมากในไทยในแนวดนตรีที่ใกล้เคียงกัน มันต้องมีแรงกดดันกันอยู่บ้าง ทั้งฐานแฟนเพลง หรือว่าเสียงตอบรับจากผู้ชม
แต่เมื่อเราหันไปข้างหลังทางฝั่งคนดูก็พบว่า ผู้ชมยังมากันค่อนข้างจะหนาตา พลางคิดว่าศิลปินน่าจะพอมีกำลังใจเล่นในคืนนี้แน่ๆ แล้ว ระหว่างที่เตรียมเวทีผมเห็นทีมงานฝั่งญี่ปุ่นที่คอยดูความละเอียดแบบถี่ถ้วนมาก ผมก็รู้สึกชื่นชมอยู่ในใจว่าพวกเขาใส่ใจแม้แต่เรื่องเล็กน้อยสำหรับศิลปินจริงๆ
และเมื่อ Emma และ Menu ขึ้นมาบนเวที ทุกอย่างที่เคยเห็นจากโชว์แรกที่ผมเคยดูก็ยังคงเป็นเช่นเดิม คือทั้งสองคนมาด้วยพลังที่พร้อมจะปลุกเร้าคนดูอย่างเช่นเคย แตกต่างกันออกไปคือ คนที่ตั้งใจมาดูพวกเธอแน่ๆ จากที่เราสังเกตุด้วยสายตา
สคริปบนเวทียังคงเหมือนเดิม แต่เพิ่มเดิม คือมีคนโดนตกกันมากขึ้นในทุกครั้งที่ EMMA ถามคนดูเป็นเป็นภาษาไทยว่า “น่ารักมั้ยคะ” “สนุกมั้ยคะ ” ขณะที่เราหันไปที่ Menu ที่พึมพัมกับคนดูแถวหน้าด้วยคำว่า “Emma Sensei” ก็เป็นการแซวกันเองที่น่ารักๆ ล่ะ
หลังจากเล่นเพลงเกือบครบทุก EP รวมถึงเพลงที่เพิ่มมาเพื่อให้เต็มโชว์ พวกเธอก็หายไปหลังเวที แต่คนดูที่ยังพลังเหลือไม่มีทีท่าว่าจะถอยหนี ก็มีการตะโกนข้นมาอย่างพร้อมเพรียงว่าาของ Encore ซ้ำกันอยู่พักนึง จนกระทั้งนักดนตรี และพวกเธอสองคมก็ขึ้นมาปิดท้ายด้วยเพลงเด่นอย่าง “More Fire” “Here We Go EMNW” ถือเป็นการปิดโชว์ในกรุงเทพฯ อย่างน่าประทับใจ
แต่สิ่งที่เราแอบสังเกตุว่าคนดูประทับใจมากหลังโชว์คือ พวกเธอมีเวลามาแจกลายเซ็นต์ ถ่ายรูป กับแฟนเพลงที่ยังคงนั่งรออีกกลุ่มใหญ่ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย ซึ่งนั่นคือสิ่งที่แฟนเพลงชาวไทยพูดถึงจำนวนมาก
หลังจากที่เราเจอพวกเธอมามาสามครั้งติดๆ สิ่งที่เราคิดอยู่คือการมาทัวร์ที่ประเทศไทยนี่ก็ถืิว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะนอกจากที่กรุงเทพฯ แล้ว พวกเธอยังมีโอกาสไปทัวร์ในภูมิภาคอื่นๆ ด้วย ซึ่งปกติศิลปินญี่ปุ่นไม่ได้มีวงไหนทำกันแบบนี้ ซึ่งก็น่าจะทำให้พวกเธอเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้นพอสมควร
ถ้ามองไปไกลกว่านั้น การมีพื้นที่ยืนในวงฃการดนตรี Metal ที่ญี่ปุ่นสำหรับการเป็นวงดนตรี “ผู้หญิง” นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นัก เราคิดว่าพวกเธอต่างก็รู้เรื่องนี้ดี แต่สิ่งหนึ่งที่เราค่อนข้างแน่ใจ และนักฟังเพลงในไทยมองเห็นภาพเดียวกับเราคือ ครั้งหน้าถ้า EMNW จะกลับมาโชว์อีกที่เมืองไทย พวกเธอมีโอกาสที่จะมีชื่อเสียง และน่าจะเป็นวงที่ “โด่งดัง” กว่าการมาครั้งแรก เราก็หวังว่าภาพนั้นจะเป็นจริงอยู่เหมือนกันครับ
ติดตามพวกเธอที่ได้ที่นี่ครับ EMNW（えむにゅー） lit.link
