เป็นการเปิดตัวแบบสายฟ้าแล่บ
หลังจากที่มีข่าวกระเซ็นกระสายออกมา เกี่ยวกับจับมือเป้นพันธมิตรของ
สองยักษ์ใหญ่ในวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง Nokia แลั Microsoft
ที่มีการแถลงข่าวเปิดตัวความร่วมมือในครั้งนี้
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ในช่วงบ่ายแก่ๆ ของเวลาประเทศไทย
Nokia เองมีประสบการณ์เรื่องการทำเครื่อง แต่เพลี่ยงพล้ำเรื่องของการพัฒนา OS
คือยังคงพยายามปลุกปั้น Symbian ทั้งที่พันธมิตรหนีตายหมด
หรือว่าพยายามไปที่ระบบใหม่อย่าง Meego จนแล้วจนรอดก็ยังไม่คลอดออกมา
คือถ้าตามอ่าน Blog ของ Nokia มาก่อนหน้านี้
คือ Nokia แกพยายามเปิดไพ่สู้ เรื่องสงคราม OS หมดหน้าตักมาพักนึงแล้ว
ก่อนที่จะยอมรับออกมากลายๆว่า
ไม่สามารถต้านทานกระแส OS ใหม่ๆ อย่สง IOS และ Android ได้อีกแล้ว
ตัว Microsoft ก็เช่นเดียวกัน หลังจากเพลี่ยงพล้ำกับ Window Phone 6.5
ก็พยายามมาตีตื้นกับ Window Phone 7
ซึ่งผลงานก็ควรค่าแก่การที่ Microsoft ใช้เวลาเพื่อกลับมาแก้มือ..เพราะใครเล่น ใครก็ชอบครับ
แต่อาจจะยังไม่เกิดในวงกว้างในระยะเวลาอันรวดเร็ว
เพราะเครื่องโทรศํพท์ที่ใช้ยังไม่มีตัวเลือกมากนัก
รวมถึงต้องใช้เวลาสร้าง Eco System ขึ้นมาอีก จึงไม่ใช่เรื่องที่ Microsoft
จะไล่ตามคู่แข่งอย่าง iOS หรือว่า Android ได้ทันในระยะเวลาใกล้ๆ แน่
ในการเป็นพันธมิตรใหม่ ของ Nokia และ Microsoft ในครั้งนี้
จึงมีการชูจุดแข็งที่ต่างคนต่างมาเข้ามาไว้ร่วมกัน
จุดแข็งที่ Microsoft มีก็อย่าง อย่าง Bing, Office ,Mail และ Xbox Live
จะถูกชูเป็นหัวหอกในฐานะเครื่องมือทำตลาด
และเหมือนประกาศสู้ศึกกับ Android ของ Google อยู่กลายๆ..ทำไมผมถึงคิดแบบนั้น
สิ่งที่ทำให้ Nokia แต่งต่างกับผู้ผลิตโทรศัพท์ Window Phone 7
แบบ OEM รายอื่นคือ ความสามารถในเรื่องของการพัฒนาฮาร์ดแวร์
การสนับสนุนเรื่องภาษาต่างๆ ความสามรถพัฒนาด้านซอฟท์แวร์
และความเชี่ยวชาญที่จะนำพา Window Phone
เข้าไปทำตลาดที่กว้างขึ้น หลากหลายระดับมากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งในแง่ของกลุ่มลูกค้า และภูมิภาคที่วางจำหน่าย
และอีกอย่างหนึ่ง คือNokia มีความสามาถในเรื่องของการทำ Localize
ซึ่ง Google แข็งแรงในเรื่องนี้มาก
แล้วที่น่าสนใจอีกอย่างคือ การเอา Service อย่าง Nokia Maps
เข้าไปเป็นส่วนนึงของ Microsoft’s mapping services
โดยเข้าไปรวมกับ Bing
เดี่ยวนี้ข้อมูลบนแผนที่มือถือนี่ทำเงินได้ และสามารถพัฒนาต่อยอดได้ไปอีกมากมาย
และที่ผ่านมา Nokia ก็พัฒนา Ovi Map ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งแผนที่ฟรีนั้น Google Maps ก็ยังเป็นผู้ครองตลอดอยู่
ส่วนนี้จึงการเป็นการจับมือสู้อีกเรื่องนึงแบบเต็มๆ
ในเรื่องขอวงระบบ Search บนโทรศํพท์ แน่อนครับว่า
มันจะมีเป็นการใช้ Bing เข้าไปในนั้น
เพราะ Microsoft ก็หวังรายได้จาก Microsoft adCenter ของตัวเอง
ทำไม..การประกาศครั้งนี้ ถึงงัดเอาสารพัด Bing+ad Center เข้าสู้
เพราะขืนปล่อยไป Micorsoft คงทำรายได้หล่นหายมากมาย
เพราะตัวเลขงบประมาณที่ใช้ในการโฆษณา
ผ่านช่องทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ นับวันจะมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งGoogle นำเรื่องนี้ในตลาดไปมากกว่าพอควร
ในฐานะที่ปล่อย Android จนติดลมบนไปแล้ว
ใครที่ใช้ Adwords คงจะเห็นเรื่องการลงโฆษณาบนโทรศัพท์มาพักนึงแล้ว
เอาง่ายๆ มีการประมาณการว่า Google มีรายได้จากผู้ใช้ Android เฉลี่ยหัวละ $8-$9
แล้วตอนนี้ มี Android กี่เครื่องบนโลกครับ ก็ลองคำนวณดู
ส่วนเรื่องการตัดเงิน Market Place ของ Microsoft เอง
ก็เหมือนตลาดขายแอพทั่วไปคือ รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต
ซึ่งไม่ใช่ทุกคนบนโลกที่จะใช้บัตรเครดิต หรือว่ามีสิทธิ์ที่จะทำบัตร
แต่คนเขาก็มีเงิน มีกำลังทรัพย์ที่จะจ่าย
การที่มี Nokia เข้ามาตรงนี้น่าจะเป็นสิ่งที่อุดช่องว่างลงไปได้อีก
เพราะระบบการตัดเงินของ Nokia นั้น ทำผ่าน Operator ของผู้ใช้
ซึ่ง Nokia เองวางรากฐานตรนี้ไว้มาพอสมควรแล้วในหลายๆ ประเทศ
อย่างน้อย เรื่อง Billing ในการซื้อแอพนี้ เหมือน Microsoft พยายามทำให้ตัวเอง
มีแต้มต่อมากกว่า Android ที่เปิดตัวมาตั้งนาน แต่การซื้อแอพลิเคชั่นก็ยังทำได้ไม่ทั่วถึง
ถ้าจะมองว่า Android ยังมีแอพลิเคชั่นมาหว่า 2 เจ้านี้รวมกัน
มองแบบนั้นก็ไม่ผิดครับ แต่การมีแอพเยอะจะไม่ใช่จุดแข็งของ Android ต่อไปในระยะยาว
เพราะตอนนี้ Android เอง ก็เจอสภาวะของการที่มี Application ขยะล้นอยู่
และแอพมากมายที่ไม่สร้างรายได้ให้ผู้พัฒนา
ขณะที่ Microsoft มีนโยบายในการคัดกรองแอพชัดเจนมากกว่า
เช่น เกมโคลนไม่มีทางได้ผุดได้เกิด อย่างน้อยผู้ใช้ก็โล่งใจไปได้ระดับนึง
แต่แน่นอนครับ เมื่อสิ่งเข้ามาใหม่เข้ามา ก็ต้องมีสิ่งที่หายไป นั่นคือ
Symbian และ Meego
ถึง คุณ Elop จะบอกว่าไม่ทิ้ง แต่ก็ถูกลดงบประมาณในการิจัยไปเรียบร้อย
แต่ผู้ใช้ Symbian ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะยังไงเครื่องที่ใช้ Symbian
ก็ยังถูกวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่องไปในปีนี้แน่นอน
และจะมีอุปกรณ์ที่ใช้ Meego ออกมาวางตลาด
ส่วนในเรื่องที่เราจะเห็น Nokia จะทำโทรศัพท์ Window Phone7
ในราคาที่คบหาได้หรือไม่นั้น ไม่มีคำตอบชี้ชัดลงมาจากปากของผู้บริหารครับ
ยังคงเป็นเรื่องของอนาคตอยู่
แต่ลองนึกกันเล่นๆนะครับ…ถ้า Nokia ออกเครื่องโทรศัพท์แบบ N-Gage
แต่ Port Game จาก X-Box มาล่ะครับ
Play Station Phone ที่ใช้ Android อาจจะเจอก้างชิ้นใหญ่ขึ้นมา
นาทีนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาคิดแค่ว่า ใช้ OS ไหนแล้วเครื่องจะขายดี
แต่สำหรับสองยักษ์อย่าง Nokia และ Microsoft
เขาต้องมองถึงเรื่องของ Eco System แล้วครับ
ตอนนี้ที่เหลือคือว่า พอ Nokia+Microsoft ลงมือทำงานด้วยกันแล้ว
เครื่องจริงออกมาจะดีสมความตั้งใจหรือไม่
service ทั้งหลาย มันจะดีอย่างที่ขายฝันกันปล่าว
หรือจะกลายเป็นแค่ คนอกหักสองคนที่คบหากันนั่นคือเรื่องที่ต้องดูต่อไป
มาดู Eco Sytem ในความร่วมมือของ Nokia และMicrosoft แบบเข้าใจง่ายครับ
และหลังจากมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
VDO สัมภาษณ์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้ ก็มีตามมาออกมาหลายชุดครับ
สามารถรับชมได้ตามลำดับด้านล่างนี้
ส่วนใครที่อยากคุยกับ ceo nokia ผ่าน twitter เชิญ follow ที่ @selop
Stephen Elop จาก Nokia และ Steve Ballmer จาก Microsoft กำลังตอบข้อซักถาม
Nokia และMicrosoft ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
การแถลงการณ์เกี่ยวกับการเป้นพันธมิตรทางธุรกิจของ Nokia และ Microsoft
สำหรับใครที่ต้องการ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
สามารถติดตามได้ที่ http://conversations.nokia.com