ผู้บริโภคชาวเอเชียกำลังมองหาอุปกรณ์มือถือและแอพพลิเคชั่นคุณภาพสูง
ที่สามารถช่วยพวกเขาทั้งเรื่องการทำงานและสร้างความเพลิดเพลินได้ด้วย
จากการสำรวจที่ไมโครซอฟท์ได้จัดทำขึ้น พบว่าผู้บริโภคกว่า 1,300 คน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมถึงประเทศไทย
พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 35 ต้องการแท็บเล็ต และอีกร้อยละ 25 กำลังมองหาโน๊ตบุ๊กและอัลตร้าบุ๊ก
ผลสำรวจในครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคกำลังมองหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่สะดวกในการพกพาและเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพสำหรับทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ในปี 2557 มีการคาดการณ์ว่าจำนวนแท็บเล็ตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
บริษัทวิจัยชั้นนำอย่าง แคนาลิส (Canalys) ได้คาดการณ์ว่าแท็บเล็ตจะเติบโต และมีส่วนแบ่งถึงร้อยละ 50 ของตลาดพีซีทั่วโลก
(รวมถึง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน๊ตบุ๊ก และแท็บเล็ต) ด้วยจำนวนแท็บเล็ตเกือบ 285 ล้านเครื่องทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ไม่เพียงต้องการแท็บเล็ตเพื่อหาข้อมูลหรือเล่นเกมส์เท่านั้น
แต่พวกเขายังต้องการระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย และช่วยให้พวกเขาทำงานและผ่อนคลายได้ในคราวเดียวกัน
นอกจากนี้ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคกว่าร้อยละ 53 มีดีไวซ์หลายเครื่อง อาทิ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็บท็อป สมาร์ทโฟน เป็นต้น
ในโลกที่ดีไวซ์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันได้นั้น ผู้บริโภคมากกว่าร้อยละ 67
ต้องการที่จะได้รับประสบการณ์ที่คุ้นเคยและเชื่อมต่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างดีไวซ์ต่างๆ ของพวกเขา
นายรชฏ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจและการตลาดวินโดวส์ และ เซอร์เฟซ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “ผู้บริโภคต่างมองหาแท็บเล็ตที่ทำได้มากกว่าการอ่าน เล่นอินเตอร์เน็ต และเล่นเกมส์ ด้วยระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังสามารถเพลิดเพลินกับแอพต่างๆ เพื่อการผ่อนคลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แท็บเล็ตไฮบริด หรือสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ในวันที่ 8 เมษายน 2557 ที่จะถึงนี้ ทางไมโครซอฟท์จะยุติการอัพเดทระบบรักษาความปลอดภัย การซ่อมแซมระบบต่างๆ สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows XP ซึ่งมีอายุถึง 11 ปี ทำให้คอมพิวเตอร์ที่มีจำนวนมากถึง 1 ใน 4 เครื่อง หรือร้อยละ 25 จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้บริโภคจะเปลี่ยนมาใช้วินโดวส์ 8.1 ซึ่งทันสมัยและมีระบบรักษาความปลอดภัยสูง”
ผลสำรวจยังเผยให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่พึ่งพาแอพพลิเคชั่นคุณภาพสูงมากขึ้น
เพื่อช่วยในการทำงาน ผ่อนคลาย และเชื่อมต่อกับผู้คนและข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญต่อพวกเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอพสำหรับโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคกว่าร้อยละ 25 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยอมรับว่า แอพสำหรับโซเชียลมีเดีย
เป็นแอพแรกที่พวกเขาเล่นในช่วงตื่นนอน และกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า พวกเขาล็อกอินอย่างน้อย 1 ครั้งในเวลาทุกๆ 3 ชั่วโมง
และพวกเขามักจะใช้แอพในการแชทและฟังเพลงระหว่างการเดินทาง
นอกจากนี้ พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะซื้อแอพสำหรับเกมส์ หนังสือและแมกกาซีนที่ชอบ และแอพที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ (Utilities apps)
นายรชฏ ยังกล่าวอีกว่า “ปัจจุบันผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อแอพและคอนเท้นท์ที่มีคุณภาพสำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 นั้น
Windows Store และ Windows Phone Store มีแอพพลิเคชั่นคุณภาพมากกว่า 100,000 แอพให้เลือกสรร
ซึ่งรวมไปถึงแอพโซเชียลมีเดีย เกมส์ แอพเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่งข้อความ และเพลง
แอพเหล่านี้สามารถทำงานได้บนดีไวซ์ที่หลากหลาย ทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน Windows Store
นับเป็นประตูสู่แอพคุณภาพจำนวนมากที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง”
นอกจาก Facebook ที่ยังถูกบรรจุไว้ใน Windows Store และยังมีแอพที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น Flipboard for Windows, Instagram
และ Avengers Initiatives ในบรรดาแอพต่างๆ บางแอพก็ติดตั้งมาพร้อมกับดีไวซ์อยู่แล้วและบางแอพก็สามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดายผ่าน Windows Store
สำหรับผู้บริโภคในประเทศไทยที่ต้องการดีไวซ์บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 ที่อัดแน่นด้วยแอพพลิเคชันคุณภาพ
เพื่อการทำงานและความผ่อนคลายอย่างแท้จริง ได้แก่ Surface RT (ราคาเริ่มต้นที่ 11,500 บาท)
Asus T100TA (ราคาเริ่มต้นที่ 14,990 บาท) และ Acer Iconia W4 (ราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บาท)
ผู้บริโภคทั้งสิ้น 1,300 คนจากประเทศไทย ออสเตรเลีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย นิวซีแลนด์
ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และเวียดนาม ได้เข้าร่วมการทำแบบสำรวจผู้บริโภคของไมโครซอฟท์ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา
เพื่อความเข้าใจถึงพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในการใช้เทคโนโลยีของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้
