แม้จะเคยสะดุดขาตัวเองจนหน้าชาแต่ว่า Note Series ยังมีภาคต่อกันมาด้วยการปรับใหม่
จนได้มาถึง Samsung Galaxy Note 9 ที่เอาปากกาคู่บุญคือ S-Pen มาเป็นหัวหอก เพื่อบอกถึงวิธีใช้แบบใหม่ๆ
กับวันนี้ที่ปากกาที่ไม่ได้เอามาแค่เขียนอย่างเดียว
Mode AI ที่ใส่มาใหม่กับประสบการณ์การใช้จริง
กล้องคู่ความละเอียดเท่าไหร่ มี Live Focus มั้ย โฟกัสไวแค่ไหน นี่เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องไปรู้ให้มันมากหรอก
แต่ถ้าอยากรู้ก็จะบอกให้คือ กล้องคู่หลังเป็น 12 + 12 ล้านพิกเซล มีระบบ Dual Aperture คุ้นกันใช่มั้ยคือมันมีกันมาตั้งแต่ S9 นั่นล่ะ
ส่วนพวก Live Focus ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ เพราะอยากเห้้เธอให้ชัดเจน นี่ก็มีเหมือนเดิม
หรือสายศิลป์อยากถ่ายไฟดวงๆแบบ Art Bokeh ก้ยังมีให้เหมือเดิม เพิ่มเติมคือ “Flaw Detection”
Flaw Detection นั้นจะคอยบอกเราว่า ภาพที่ถ่ายมามีปัญหาอยู่นะ เช่น ย้อนแสงถ่ายมาแล้วหน้ามืด
โฟกัสเล็งมาแล้ววืดไปมั้ย เลนส์ไปทำอะไรมาแนบหน้ามาหรือไงทำไมไม่ใสแล้วขุ่นได้ขนาดนั้น
จากที่เราพยักหน้าฟังทีมงานมา อ๋อ..เลนส์มัวมันเตือนใช่มั้ยครับ ก็เอานิ้วปาดไปที่กระพุ้งแก้ม
แก้มผมนี่ล่ะไม่ใช่นางแบบ แล้วปาดไปที่เลนส์ โอ้โฮ..ภาพมันเบลอ หรือเธอไม่จัดเจน ระบบไม่ได้ช่วยอะไรตูเล้ย
เอาใหม่ๆ ฏลับไปเช็๕เลนสืก่อน ลองกลับมาถ่าย Group Selfie แล้วทำตากะพริบ ลองหลับตา
เออ .. คำสั่งกล้องมันทำงานแล้ว!! เราเลยลองล่อลวงกล้องอีกรอบ ด้วยให้น้องนางแบบยมใสๆ เวลาถ่ายมือไม้จะได้สั่น
เออ .. คำสั่งกล้องมันทำงานแล้ว!! อย่างน้อยพูดมาก็ไม่ใช่ราคาคุยล่ะนะ
ปากกา S – Pen กับลูกเล่นมากกว่าที่เคย
สิ่งหนึ่งที่นักวิจารณ์ต่างประเ
ในความเห็นของเรา เราคงไม่คิดว่าจะเห็นการเดินถือปากบนเวทีสีเหลืองที่เวทีแคทวอร์ค
หรือว่าผ่านปกหนังสือของ Vouge เพราะ Note Series คือ Function และความ Premium แต่ S – Series คือ Fashion และ Emoะion
สิ่งที่น่าสนใจในการเขียนนนั้นอ
เท่าที่นับดูตอนนี้คือสิ่งที่มนุษย์สามารถจิตนาการได้ในการใช้กับชีวิตประจำวัน อย่างการสร้างบันทึก การเลือกอัจฉริยะ
การเขียนบนหน้าจอ การทำ Live Massage หรือว่าการแปลภาษา น้ำหนักของการพัฒนาก็เลยมาตกอยู่ที่บางระจันวัน S-Pen
ทำไมเราเรียกแบบนั้น ลองฮัมเพลง “บางระจันวันเพ็ญ” กันที่ท่อนนี้นะ
“เอาปืนใหญ่ ยิงใส่ กันตูมตาม
ปืนไทยแตกเหลือแต่ด้าม
เพราะเพิ่งหล่อเมื่อวานซืน
ก็กรุงศรี มิให้เขา หยิบยืมปืน
จึงมิอาจหยัดยืน รักษาค่ายบางระจัน”
นึกภาพการแข็งขันนะ ทางค่ายจีนใส่ AI กนัยัง คือ R&D ฝั่งซัมซุงเขาก็มีร่วมพันชีวิต
แต่มันยังไม่ใช่จุดขายหลักใหญ่ที่จะไปแข่งกับชาวบ้านตอนนี้
จะมาแข่งเลขา AI เจ้า bixby นี่ก็มีทำมึนๆ ใส่บนเวทีมารอบนึง
จึงเหลือแต่ด้ามปากกาที่เชิดหน้าชูตาที่สุดแล้ว!!!
สิ่งที่ซ่อนอยู่ไนนั้นคือการเ
แต่ก็สามารถใช้งานได้หลังจากการ
แล้วยืนพูดสัมนาขายฝันลากไป 40-50 นาที ก็จัดว่าพอเพียงแก่เวลา
พูดถึง Screen off Memo ของ Note 9 ซักนิด ถ้าชีวิตจริงเรามีปากกาด้าม 4 สีวางขาย
แต่นี่ถ้าเราเอาปากกาสีอื่นที่ไม่ใช่ของเครื่อง มันจะแยกสีตอนที่เขียนตามสีปากกาด้วย
ปากกด้ามเหลือหมึกก็เหลืองตาม ถ้าใช้สื่ออื่นก็ไปตามนั้น ยกเว้นสีดำเขียนยังไงกHต้องมาเป็นสีขาว
นึกถึงโฆษณาตามช่องการ์ตูนที่มักมีบทพูดว่า อย่าลืมสะสมให้ครบทุกแบบนะคร้าบน้องงงงง
สิ่งหนึ่งที่คนรู้แล้วคือด้ามปากกาเอามาเป็น Shutter ระยะไกลสำหรับถ่ายรูปได้ ถ้าจะเอาไปเปรียบกับ Bluetooth Shutter ที่วางขายเกร่อในตลาดก็ใกล้เคียงในแง่การใช้
แต่สิ่งที่ซัมซุงมองต่อจากจากนั้นคือ การเปิดช่องว่างต่อ Developer ต่างหากซึ่งเขาก็ขึ้นสไลด์ตัวโต๊โตที่งาน keynote
ถ้าการเปิดนั้นมากพอที่จะทำ
คำสั่งการใช้ปากกา S – Pen ของโน้ต 9
หมวด | กดครั้งเดียว | กดสองครั้ง |
กล้องถ่ายรูป | ถ่ายภาพ | สลับกล้องหน้า-หลัง |
แกลเลอรี่ | รูปถัดไป | รูปก่อนหน้า |
บันทึกเสียง | บันทึก / หยุด | บันทึก / หยุด |
เพลง และวิดีโอ | เล่น / หยุด | เล่น / หยุด |
สไลด์โชว์ | สไลด์ถัดไป | สไลด์ก่อนหน้า |
อุปกรณ์เสริมของโน้ต 9
ในเรื่องของเคสนั้นอาจจะไม่เน้นเท่าไหร่ ก็ตามอย่างที่เคยเป็นคือเน้นความ Elegance หรูหรามีราคาเหมือนปกติทั่วไป
แต่ใรนเมื่อจุดขายของเทคโนโลยีตอนนี้คือ Wireless Charging ซึ่งจริงๆ ก็มีอยู่นานแล้ว
แต่พ่วงเข้ามาเพิ่มเติมในของเดิมคือการชาร์จไฟไว เพราะแบตเตอรี่ 4000 mAh นั้นถ้ารอกันตามปกติธรรมดา
กว่าจะชาร์จเต็มลูกหลานคงคลอดคลานเต็มบ้าน แท่น Fast Charge แท่นชาร์จแบบ Duo จึงเป็นเรื่องน่าสนใจ
เพราะยังไงซะเขาคงประเมินว่าคนที่มีฐานะทางการเงินซื้อเครื่องในระดับนี้
มีโอกาสที่จะซื้อ Galaxy Watch มาพาดที่ข้อมือ โดยไม่ต้องยืมนาฬิกาของใครมาสวมใส่
ซื้อดีมั้ย Samsung Galaxy Note 9
คือจะมองในมิติไหนดีล่ะ จากที่เราลองสัมผัสเพียงครู่คือถ้าคุณถือ Galaxy S9+ อยู่แล้ว
นี่คือการอัพเกรดใหม่ที่มีปากกามาให้ใช้ ส่วนเรื่องประสบการณ์อื่นแบบมนุษย์ทั่วไปใช้กันมันไม่หนีกันเท่าไหร่อยู่แล้ว
ส่วนเรื่องสารพัดไฟ และเซ็นเซอร์สแกนม่านตาที่ใส่มาหรือ Iris Scanner คืออะไรที่เป็น Bio ยังมีครบคบได้ต่อ
ส่วนจอเขยิบมานิดนึง จับๆไปไม่ค่อยรู้สึกหรอก
ถ้าพูดไปในแง่แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นมาอยู่ที่ไซส์ 4000 mAh นี่ก็ให้มาตามขนาดตัว
เพราะชิ้นส่วนอื่นก็ประมาณเดียวกัน จะแยกให้มันต่างเพื่อเปลืองสต๊อคทำไม
ถ้าใช้โน้ต 8 มานี่คือการอัพไซส์ใหม่ใส่อึ่มในแง่แบต และ CPU ซึ่งเขยิบมาที่ Exynos 9810 Octa-core 2.9GHz
รวมถึงหน่วยความจำเริ่มต้นที่ 128 GB แต่สำหรับแฟนนานุแฟนคงหวดกันไปตั้งแต่มันมีโปรเครื่องรุ่น 512 GB ในราคา 128 GB ไปหมดแล้วล่ะมั้ง
แต่อย่างปุ่ม Bixby ที่หลายคนขัดใจบอกเลยให้ว่ามันก็ยังมี จะไปบ่นผู้พัฒนาก็ไม่ได้เพราะถนนของการแข่งขันมันไปทางนั้น
ครั้นจะให้ Amazon พัฒนา Alexa จะให้ Google พัฒนา Assistant จะให้ Apple พัฒนา Siri แล้วนี่ยืนงงเป็นเป้านิ่งเฉยๆ คงไม่ใช่
เหมือนกันกับเรื่อง AI ในกล้องที่คาดว่าน่าจะโดนรับน้องฝากแผลจากฝั่งแบรนด์จีนแน่นอน เพราะนี่มีมา 20 แต่ฝั่งนั้นซัดมาจะ 200
แต่นี่คือเกมที่ซัมซุงยังไงก็ต้องทำเพราะตลาดมันไปแบบนั้น ไม่ใช่แค่การขายเครื่องไงแต่ Device สมัยนี้คือการรู้ใจผู้ใช้ทุกอย่างมากว่าการที่ผู้ใช้รู้ตัวเองด้วยซ้ำ
แล้ว AI จะฉลาดได้คือต้องมีการเรียนรู้เยอะๆ ถ้ามันจะเอ๋อๆ รวนๆ ก็ต้องหยวนไปก่อน ถ้ารักจะใช้น่ะนะ
ขอบคุณ : Samsung Thailand ที่เอื้อเฟื้อโอกาสครับ