Singtel จับมือ AIS และธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวเครือข่ายชำระเงินผ่านมือถือข้ามประเทศ ในชื่อ VIA เริ่มต้นที่สิงคโปร์-ไทย ด้วย Singtel Dash และ Rabbit LINE Pay ผ่านแอปฯ AIS GLOBAL Pay
ความน่าสนใจของรูปแบบบริการ
- ลูกค้าสิงคโปร์ที่ใช้กระเป๋าเงินอิเล็คทรอนิกส์ Singtel Dash และลูกค้าชาวไทยที่ใช้ Rabbit LINE Pay (ผ่านแอปฯ AIS GLOBAL Pay) สามารถชำระเงินผ่าน QR Code ที่มีสัญลักษณ์ VIA หรือ Thai QR Code ด้วยสกุลเงินของประเทศตัวเอง โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ช่วยให้ไม่ต้องกังวลกับอัตราแลกเปลี่ยน หรือถือเงินสดในระหว่างเดินทาง รวมถึงร้านค้าในประเทศไทยที่มีสัญลักษณ์ Thai QR Code รวมจำนวนมากกว่า 1.6 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ
- ในช่วงแรก VIA จะเชื่อมต่อกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน เพื่อสร้างเครือข่ายการชำระเงินให้ทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยหลังจากนี้จะมีการขยายไปยังพันธมิตรอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น Airtel ในอินเดีย, Globe ในฟิลิปปินส์, Telkomsel ในอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม จะมีการคำนึงถึงกฎระเบียบของแต่ละประเทศ
- ตัวเลขที่น่าสนใจคือปี 2560 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังตลาดของกลุ่ม Singtel ในภูมิภาคเอเชียกว่า 80 ล้านคน โดยในจำนวนนี้มากกว่า 1.5 ล้านคนต่อปีที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในสิงคโปร์และไทย และตัวเลขนี้ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- 20,000 ร้าน คือตัวเลขของจำนวนร้านค้าในสิงคโปร์ที่ร่วมให้บริการแล้วกับ VIA
- 500,000 ราย คือจำนวนของผู้ใช้ Singtel Dash ซึ่งเป็นบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถแปลงค่าเงิน ซื้อของ และส่งเงินไปทั้งในและนอกประเทศ บริการนี้พร้อมใช้งานได้แล้วในสิงคโปร์
- 1,600,000 คือจำนวนจุด QR Payment ที่ลูกค้าชาวสิงคโปร์ สามารถใช้งาน Singtel Dash เพื่อซื้อสินค้าต่างๆ ได้ที่ร้านค้าในไทยทั่วประเทศ
- 5,000,000 คือจำนวนผู้ใช้ Rabbit LINE Pay ในไทย จากผู้ใช้แอป Line จำนวน 42 ล้านราย
- โปรโมชั่นจาก Singtel Dash คือส่วนลด 10% สำหรับทุกการชำระเงินผ่านทาง Singtel Dash ในประเทศไทย และมอบอินเทอร์เน็ตโรมมิ่งจำนวน 1 GB มูลค่า 5 ดอลลาร์สิงคโปร์ในไทยสำหรับลูกค้าของ Singtel โดยเฉพาะ
- โปรโมชั่นจาก AIS GLOBAL Pay เมื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่สิงคโปร์ โดยจ่ายด้วย Rabbit LINE Pay (ขั้นต่ำ 100 บาท) จะได้รับเงินคืนทันทีจำนวน 100 บาท ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2561 โดยลูกค้าของ Rabbit LINE Pay จะได้รับสิทธิ์ 1 คน/ 1 สิทธิ์ตลอดโครงการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ viaconnects.com
ความเห็นในมุมของเรา :
ธุรกิจที่กำลังจะถูก disrupt อีกหนึ่งธุรกิจคือ “ ร้านแลกเงิน” เพราะธุรกิจนี้ ร้านเองก็อาศัยการทำเงินจากส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน โดยร้านต้องมีเงินสดสำรองในร้านเพียงพอต่อการแลกและผู้แลกต้องใช้เวลาในการเข้าคิวรอ แต่ในขณะเดียวกัน กระแสของ Cashless Society นั้นถูกผลักดันจากภาครัฐ และขับเคลื่อนด้วยเอกชนมากว่าที่หลายคนคิด
การใช้การเชื่อมกระเป๋าเงินอิเล็คโทรนิคแบบนี้ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า สามาถใช้จ่ายได้โดยคิดคำนวณเป็นอัตราแลกเปลี่ยนของตัวเองได้ทันที (ซึ่งบัตรเครดิตก็ทำได้แบบเดียวกัน) แต่กับเงินสดนั้นไม่สามารถทำได้
และไม่ต้องเสียเวลาในการแลกเพื่อพกพาเงินจำนวนมากติดตัวไว้
ในอีกมุมเราก็มองว่าก็เป็นเกมของผู้ให้บริการระดับภูมิภาค ที่ทำการสกัดผู้เล่นในตลาด E-Wallet ระดับยักษ์ใหญ่ที่มีแผนบุกตลาดเอเชียเช่นเดียวกัน เหมือนสโลกแกนที่เขาเขียนไว้ว่า “Travel Global Pay Local”