Tech!

วิธีลบข้อความที่ส่งไปใน Facebook Messenger หลังเผลอไปเพราะมือลั่น

how-delete-message-sent-wrong-on-facebook-messenger

เราค่อนข้างแน่ใจว่ามีหลายครั้งที่เราไมได้ตั้งใจจะพิมพ์ออกไปอย่างที่คิดไว้ในตอนแรก
บางคำพูดรู้สึกแปลก บางคำพูดรู้สึกแย่ มันอาจจะดีกว่าถ้าเราสามารถดึงสิ่งที่พูดออกไปแล้วให้กลับมาใหม่ เหมือนว่ามันไมได้มีอะไรเคยเกิดขึ้น  ตอนนี้ Facebook Messengerให้เราลบข้อความที่ส่งไปได้แล้วครับ ถือว่าเป็นการยอมให้เรากลับไปแก้ไขอดีตในช่วงสั้น

ก็เพราะพี่น่ะรักเอ็งพี่ถึงได้เป็นแบบนี้ ที่ทำไปมันเผลอตัวเพราะด้วยอารมณ์ตัวเอง

การ Facebook Messenger  เปิดโอกาสให้คุณได้ดึงสติแล้วนึกย้อนกลับมาอีกครั้ง เพื่อแก้ไขความน่าอึดอัดใจที่น่าจะเกิดจากอาการมือลั่นในครั้งนี้ นั้นแตกต่างจากของเดิมที่คุณสามารถลบมันออกไป เพื่อแก้ไขได้จากมุมมองของตัวเองเท่านั้น แต่คู่สทนายังสามารถอ่านข้อความนั้นได้อยู่ดี

วิธีดึงข้อความกลับมาใน Facebook Messenger

1. รีบตั้งสติฉุกคิดก่อนว่าจะลบข้อความไหน เพราะมีเวลาให้ลบได้ก่อนใครมาอ่านเจอในเวลา 10 นาที
2. กดค้างตรงข้อความที่ต้องการลบ
3. แตะที่ไอค่อนที่ด้านล่างของการสนทนา จะเห็นข้อความขึ้นมาให้เลือก 3 อย่าง ให้กดค้างที่ “Remove”
4. หลังจากกดค้าง “Remove” เสร็จ จะมีตัวเลือก 2 แบบคือ “Remove for Everyone” และ  “Remove for You”ให้กดเลือกไปที่ “Remove for Everyone”

5. ถ้ากดเลือก “Remove for Everyone” ระบบจะถามยืนยันอีกที ว่าให้ลบจริงๆ ใช่หรือไม่
ถ้าคิดว่ามีลั่นไปแบบจริงจัง อย่านั่งพิรี้พิไรให้กด “Remove” เพื่อดึงข้อความที่ส่งไปนั้นกลับมา
6. หลังจากที่ทำทั้งหทดเสร็จสิ้นแล้ว ข้อความที่คุณพิมพ์ก็จะหายไป แต่ก็ยังทิ้่งร่องรอยไว้อยู่ดี เพราะทุกคนที่อยู่ในการสนทนาจะเห็นว่าเราเคยพิมพ์อะไรแล้วลบไปต่อหน้า
ก็หาเหตุผล หรือข้อแก้ตัวไว้ดี ๆ ก็แล้วกัน โลกไม่ต้องการนักแช็ทโอนไว หรือพิมพ์ไปเพราะมือลั่นเยอะนักหรอก

ย้ำกันอีกครั้งว่า เงื่อนไขที่จะเข้าข่ายข้อความสามรถลบได้คือ ต้องไม่มีใครอ่านข้อความนั้นใน 10 นาที
และนี่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Facebook Messenger เต็ม ส่วน Facebook Lite หมดสิทธิ์ใช้

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

Back to top button