รีวิว Grado GW100  หูฟัง Wireless ไร้สายตัวแรกจากตำนานกว่า 60 ปี

Grado  ชื่อนี้ที่โผล่มาในความคิดคนทั่วไป  ก็มักมีภาพจำว่าแบรนดนี้นี่ต้องใช้บันไดไต่สวรรค์ คือภาพลักษณ์ดูคลาสสิคน่าจะต้องไต่ขึ้นไปแล้วทำใจยากกับราคา  ความจริงมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป โดยเฉพาะหูฟังบลูทูธไร้สายรุ่นแรกอย่าง GW100

แบรนด์ที่อยู่ในวงการมานานๆ ระดับขึ้นหิ้ง คนมักจะคิดไปก่อนว่าต้องเข้าหายาก เขาเลยผลิตรุ่นนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นหูฟังเริ่มต้นให้พ้นจากความไม่คุ้นเคยไปก่อน กวักมือแบบเข้ามาเลยมาทำความคุ้นเคยให้ได้ลองได้สัมผัสกับสุ้มเสียงเสียงเป็นครั้งแรก จนไปถึงกับการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และวิธีการฟังเพลงที่เปลี่ยนไปของผู้คน

จากประสบการณ์ที่ผ่านมากว่าหกทศวรรษ ในที่สุดความเจนจัดกับเทคโนโลยีก็พอมีพื้นที่ให้อยู่ร่วมกันได้กับหูฟังบลูทูธตัวแรกและตัวเดียว ที่เขายืนยันว่าทำมาเพื่อชาว Audiophiles โดยคงเสียงไว้แบบดั้งเดิมเพิ่มเติมคือความสะดวก

ทันทีที่เราแกะกล่องมา สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือมีกลิ่นอายของรุ่น Prestige Series อย่างพวก SR60e ,SR80e ,SR125e แต่แตกต่างกันเรื่องมีสายกับไม่มีสายเท่านั้นเองจริงๆ

ตอนที่เราแกกะกล่องมาครั้งแรก คือเราก็ตั้งคำถามหูฟังราคาเฉียดๆ เลขห้าหลักนี่ทำกล่องได้ minimalism กันแบบนี้เลยรึ ไม่มีรูปสินค้า ไม่มีการอวดอ้างอะไรทั้งนั้น มีแค่การบอกสเปคที่จำเป็นต้องรู้ที่เหลือคือไปดูเอาในคู่มือ แล้วที่แกะกล่องออกมาคือแมีแค่สาย USB และ แจ๊ค 3.5 อีก 1 เส้น

สเปคของหูฟัง

• Bluetooth Version: 4.2 with apt-X
• Battery Capacity : 320mAH
• Working Distance: 10m
• Battery Life: 15 hours
• Frequency Response: 20Hz~20KHz
• Mic Sensitivity: 42dB +/- 3dB

ถ้าสังเกตุดูดีๆ คือไม่ได้พูดอะไรไปให้มากความ คือเอาเท่าที่เราต้องรู้ ไม่มีที่จะตั้งคำถามว่าหูฟังจะมีอะไรแปลกใหม่มั้ย เทคโนโลยีนี้มันอ่านว่าอะไร มีเพื่ออะไร มีไปแล้วได้ใช้มั้ย

มาดูที่ปุ่มการทำงานบ้าง ถ้าตลาดของหูฟังยุคใหม่ต้องมีฟิลลิ่งของการสัมผัสของการทัชเพื่อเปลี่ยนเพลง ต้องมี AI ไว้โต้ตอบ ต้องการวัดค่าสารพัด แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีแม้แต่อย่างเดียวบนหูฟังรุ่นนี้…

ความ minimalism ของหูฟังทำให้คู่มือแทบไม่ได้มีความหมายในการใช้งาน คือ บอกแค่หน้าที่ของปุ่มการทำงานกับไฟสถานะ

ถ้าการสัมผัสแบบแตะรูดที่ข้างหูอาจดูยากไปสำหรับบางคน การใช้นิ้วไล้ไปบนปุ่มที่จับดูก็รู้ถึงความนูนต่ำที่ต่างกัยของ Volume Up ,Volume Down หรือว่า Power ก็จัดว่าง่ายดี จับทีสองทีมีรู้เรื่อง ส่วนไฟแสดงสถานะแบบตรงไปตรงมา

power  : กดสั้นเพื่อเล่น และหยุด
+ กดสั้น : เร่งเสียง กดยาว เพื่อ เปลี่ยนเพลง เพื่อข้ามเพลงไปข้างหน้า
– กดสั้น : ลดเสียง กดยาว เพื่อ เปลี่ยนเพลง เพื่อข้ามไปเพลงก่อนหน้า

การกดคำสั่งคำสั่งเขาทำมาแค่นั้นจริงๆ .. แล้วยิ่งตอนเชื่อมต่อกับโทรศัพท์นะ
Power On / Connected นี่คือเสียงที่บ่งบอกถึงเทคโนโลยีแค่สองคำ ที่ทำให้เรารู้ว่าอยู่ในโลกของหูฟังสมัยใหม่ อ่อ..รวมที่หูฟังรุ่นนี้มีไมค์ในตัวด้วย แต่จะว่าไปนี่ก็เป็นหนึ่งในหูฟังที่เราคิดว่า pair กับโทรศัพท์ง่ายที่สุด คือเปิด power กดค้างให้เปลี่ยนพร้อมรับการเชื่อมต่อ Bluetooth จากนั้นจับโทรศัพท์มา Paring ด้วยกันก็จบ

อีกอย่างแรกที่เราสัมผัสได้ คือ น้ำหนักมันเบามาก คือหูฟังลักษณะนี้สำหรับรุ่นใหม่หลายยี่ห้อ คือการคล้องคอไปไหนมาไหนสักพักแล้วรู้เลยว่าน้ำหนักมันทำร้าย ห้อยไปแล้วไม่ค่อยสบายตัว แต่กับหูฟังรุ่นนี้เราลองคล้องคอเดินทั้งวัน หยิบมาใช้สลับๆ มาฟังเวลาไปไหนบ้าง ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่ม คือถ้าไม่ถึงที่พักบางทีเราเองก็ลืมไปแล้วว่าคล้องด้วยสิ่งนี้อยู่ที่คอ

ตัวฟองน้ำรองหูมันดึงออกมาง่ายมากบิดออกจากฐานแค่นั้นจบ ที่เรายกเรื่องนี้มาเพราะว่านั่นคือปัญหาอีกเรื่องนึงของคนใช้หูฟังรุ่นใหม่ ที่ใช้ไปสักปีนิดเริ่มมีอากาการร่วนยุ่ย แล้วการจะหามาเปลี่ยนนี่ไม่ใช่ของง่ายทำได้เองต้องเข้าศูนย์เท่านั้น คือหูฟังสภาพยังดีแต่ฟองน้ำรองหูนี่ลากลับบ้านเก่าเน่าเอาเรื่องมันก็เสียดายเงิน ส่วนที่รองศรีษะด้านบนจะบางๆ ไม่หนา แกนเหล็กดึงขึ้นลงแบบตรงไปตรงมา อาจจะจะต้องระวังสายด้านข้างในบางจังหวะ

เราทดสอบการเล่นเกมอย่าง King Of Fighter All star บน iPhone คืออาการดีเลย์นี่ไม่มีให้เห็นแน่นอน ส่วนสุ้มเสียงนั้นคือตามสไตล์ของหูฟัง คือ กว้าง อุ่น พุ่งเหมือนฟังลำโพงบ้าน จะไม่ได้ออกมาโบ้มบ้ามโครมครามแบบหูฟังสายเกม
แล้วด้วยความที่ระหว่างเล่นจะมีเสียงทุ่มเสียงเตะ เสียงต่อย ด้านหลังปูบางวางด้วยเพลงร็อค เสียงดิสทรอชั่นที่สับมาจากท่อนริฟท์ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่หน้าตู้แอมป์ซ้อม คืออรรถรสมันต่างไปจากหูฟังเกมมิ่ง หรือลองกับ Netflix คือไม่มีปัญหาเรื่องการเหลื่อม การมาช้าของเสียงที่ไม่ตรงกับภาพ

ทดสอบการฟังเพลงด้วย Grado GW100

Never Give Up – Akira Kuro

เราทดลองกับเพลงของวงไอดอลสายร็อค ที่เสียงริฟท์ของกีตาร์กอดคอกันมากับกระเดื่อง สแนร์ และมากับเสียง synth เสียงได้ยินมาแนวชี้เป้านิดนึงเกี่ยวกับมิกซ์ว่ามาค่อนหนาบางแค่ไหน คือฟังสนุก กลางชัด เสียงกลองซัดเต็ม เสียงริฟท์กีตาร์ให้รายละเอียดกระชับกระฉับกระเฉงอยู่

TRIPLEREACH feat. 呂布カルマ, 輪入道 & 裂固 – 2DAIME Monster

เราเลือกเพลง Hip-Hop ที่ก้ำกึ่งถึงระหว่างความ Old School กับสุ้มเสียง Hip-Hop ยุคใหม่ จากรายการแข่ง Battle ของ Rapper จากญี่ปุ่นอย่าง FreeStyle Dungeon 2   คือมิติความโอบล้อมที่ฟังคือสัมผัสได้ถึงความวุ้งวิ้งที่วิ่งอยู่ข้างหู
เสียงแร๊ปออกมาชัดถ้อยในการฟังความ เสียงหวดกลอง เสียงสแนร์ลงไปค่อนข้างลึก คือ เป็นหูฟังที่แกะกล่องมาไปต่อได้เลย แทบไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมัน ไม่ต้องไปจูนอะไรทั้งนั้น คือให้เสียงแบบลำโพงบ้าน ไม่จัดจ้าน แต่ดึงความเป็นเพลงออกมามากกว่าฟังแล้วรู้สึกคึก

ถาม – Nick Studio 254

เราลองเลือกเพลงพ๊อพแบบไทย ยอดวิวอาจจะไม่ได้เยอะเท่าไหร่ แต่เราคิดว่าเขาทำเพลงและมิกซ์ออกมาได้ดี
ตัวหูฟังดึงเสียงกีตาร์โปร่ง มีเสียงเปียโนออกมาได้แบบใสๆ ลอยๆ หูฟังนี่ดึงตัวเสียงตัวดนตรีเช่นเคย ที่พระเอกเลยการให้น้ำหนักของกระเดื่อง  หรือเสียงเครื่องทองเหลืองที่อยู่ข้างหลังออกมาค่อนข้างชัด  คือ ฟังได้ในระดับผ่อนคลาย ถ้าไม่ได้เน้นร้องลอยจนออกหน้า  เน้นฟีลลิ่งความที่จะเพลงฟังสด

Dice – BandMaid

หลังจากนวดกันด้วยเพลงเบา เราลองกระชากมาดึงโหมดดุุดันอีกครั้งของเมดสาววัยใสจากญี่ปุ่น
หูฟังก็ยังดึงความดุดันออกมาได้ประมาณนึง  คือถ้าดัน EQ อีกหน่อยอยากให้เดือดกว่านี้
คือ แบรนด์นี้อาจจะไมได้เกิดมาเพื่อความดุดัน แต่ไม่ได้หมายความมันทำไม่ได้ เสียงสับริฟท์กอดคอกับกลองกระเดื่องยังยิงกระทุ้งพุ่งมายังตับไต ถึงไม่สะเทือนมากแต่ก็มีความขยับเขยื้อน

ซื้อดีไหมหูฟัง Grado GW100

เขาให้เหตุผลแบบนี้ครับว่าา Grado Labs ออกหูฟังตัวแรกปี 1953 พวกเขาใช้เวลาทำงานเพื่อให้ได้เสียงที่ถูกต้อง สิ่งที่เคยเป็นข้อดีไม่มีอะไรหายไปยกเว้นสาย ไม่มีอะไรนอกจากไดรเวอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ ลำโพงเหล่านี้เป็นลำโพงตัวเดียวกับที่สร้างขึ้นมาสำหรับหูฟังแบบมีสาย

ออกตัวมาแบบนี้นี่คือชัดเจน ฉันถนัดแบบนี้ นี่คือสิ่งที่ฉันเป็นมาตลอด 65 ปี  รับฉันได้ไหมล่ะ

สำหรับเรานี่เป็นหูฟังแบบ Over All คือถ้าบางครั้งเราอยากนั่งฉ่ำๆ ทำอะไรเงียบๆ ไม่ได้อยากได้เทคโนโลยีมากมาย อยากได้แค่หูฟังที่ฟังดีในการใช้งานในเรื่องทั่วไป ไม่ต้องไปเสียเวลาอะไรในการเรียนรู้

ถ้าที่บ้านมีที่แขวนหูฟัง เราอาจจะมีหูฟังหน้าตาหวือหวามากับเทคโนโลยีล้ำๆ วางกองมากมาย แต่ถ้าในใจเราอยากอาจจะเรียกร้องอยากได้หูฟังหน้าตาธรรมดาสำหรับคนทั่วไป แต่ว่ามากับสุ้มเสียงที่ดีอย่างที่คุ้นชิน เอาไว้ได้ยินเสียงตอนนั่งเอนหลังแล้วฟังเงียบๆ ขอแบบมีสตอรี่ติดตัวมาบ้างก็ดี นี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณา สำหรับแล้วเรารู้สึกภูมิใจมากเวลาหิ้วหูฟังตัวนี้ไปไหนมาไหน ชอบมากจนนึกอาลัยตอนที่ส่งคืน

ขอบคุณ : ร้าน Jaben ชั้น 3 ฟอร์จูน สำหรับเฟื้อหูฟังในการทดสอบครับ