realme X3 SuperZoom ชื่อนี้ที่ได้แรงบันดาลใจจากกล้องเทเลโฟโต้ และเลนส์ Periscope เพียงแค่ชื่อก็รู้ว่าเลนส์นั้นเด่นมาทางสายไหน คือดึงจากไกลให้เข้ามาใกล้ให้ตาเห็น ซึ่งถือว่ากล้องมีระยะซูมมากที่สุดเท่าที่แบรนด์นี้มีอยู่ ถ้าใช้ตาดูก็จะรู้ว่าหน้าจอเคลื่อนไหวไปแบบนิ่มๆ อันเป็นผลมาจาก Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz
นิยามความหมายของ realme X3 SuperZoom
Realme X3 SuperZoom ได้ชื่อมาจากกล้องเทเลโฟโต้เลนส์ Periscope ให้พลังซูม 5 เท่านอกเหนือจากกล้องหลักที่เก็บภาพมุมทั่วไป และกล้อ Ultra Wide ก็ยังมีเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เพิ่มเข้ามารวมจำกล้องเป็น 4 เลนส์
ใต้เลนส์นั้นเขียนว่า AI Quad Camera ฉะนั้นจุดขายหลักก็คือตามนั้น คือใช้ AI ในการช่วยประมวลผล เราเลยอาจจะไมไ่ด้เห็นโหมดที่เป็นครีเทอทีฟเท่าไหร่ เลนส์พิเศษที่ช่วยในเรื่องของการพลังซูมสูงถึง 10 เท่า ซึ่งเราก็คิดว่านั่นเพียงพอแล้วล่ะสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ยังต้องการภาพระยะไกลที่คงไว้ซึ่งรายละเอียดที่เอาไปใช้งานต่อได้
- กล้อง Periscope ความละเอียด 8 พิกเซล , f/1.8 , OIS, 5x optical zoom
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล , f/1.8
- กล้อง Ultlra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ,f/2.3 พร้อมมุมมอง 119 องศา
- กล้อง macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ,f/2.4
ISO อยู่ในช่วง 100-3200 , White Balance, Manual Focus และชดเชยแสง (-2EV ถึง + 2EV โดยเพิ่มครั้งละ 1)
ISO อยู่ในช่วง 100-3200 , White Balance, Manual Focus และชดเชยแสง (-2EV ถึง + 2EV โดยเพิ่มครั้งละ 1)
ส่วนความสามารถในการถ่ายระยะใกล้นั้น แอพจะทำงานในโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ เมื่อมีความพยายามโฟกัสใกล้วัตถุระยะใกล้ จะมีคำเตือนว่าให้อยู่ห่างจากวัตถุประมาณ 30 เซ็นติเมตขึ้นไป
จุดขายของเรื่องกล้องอีกอย่าง คือ ความสามารถในการถ่ายรูปที่ 64 ล้านพิกเซล สำหรับภาพที่ต้องการรายละเอี
กล้องหน้าใน beauty mode มีการละลายฉากหลังด้วย effect พอกรุบกริบ เหมือนใส่ filter blur ให้มากกว่าสำหรับเวลากลางวัน โดยกล้องหน้ามีสองระยะโฟกัส คือระยะปกติ กับ wide สำหรับเก็บฉากหลังหลังเผื่อถอนยล้องออกไป แต่เราคิดว่าเอาแค่กล้องเดิมๆ มันก็เกลี่ยหน้าเนียนพอแล้วล่ะ เว้นแต่ว่าอยากจะจัด shape ของอวัยะบนหน้าเพิ่มเติมนิดหน่
แกะกล่องลองเครื่อง
refresh rate ของหน้าจออยู่ที่ 120Hz อันนี้คือสิ่งที่เราประทับใจมากทุกความเคลื่อนไหวอย่างดูลื่นไหลสลายตาไปซะทั้งหมด แต่จะติดอยู่นิดเดียวตรงที่เป็นจอ IPS LCD นี่ล่ะ ตอนที่เรายกไปถ่ายเครื่องตอนที่แดดกำลังส่องตรงลงมายังพื้นโลกก็มองอะไรค่อนข้างจะได้ความชัดน้อยไปหน่อย แต่ถ้ามองในร่มความสว่าง และรายละเอียดอยู่ในระดับทั่วๆ ไป
ส่วนหน้าจอมากับขนาด 6.6 inches ใช้พื้นที่ไป 84.7% ของตัวเครื่อง ยังไม่ถึงกับเกือบชิดติดขอบ แต่มือยังกำได้รอบแบบสบายๆ ถือว่าเป็นโทรศัพท์ที่จับถนัดมือดีอยู่สำหรับการถือทั่วไป หรือใช้ตอนเล่นเกม แต่อาจจะระวังการลื่นบ้างถ้าไม่ใส่เคส ซึ่งในกล่องก็ไม่ได้มีเคสมาให้นะครับ
จอแสดงผลนั้นรองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz โดยสามารถตั้งค่าสลับได้เองทั้งแบบ 120Hz, 60Hz และอัตโนมัติ
แบตเตอรี่ที่มาความจุ 4000 mAh และรองรับ Fast Charge นั่นคือออฟชั่นที่หลายคนน่าจะชอบแบต แต่ที่สิ่งที่หายไปนั้นคือ ไม่มีช่องเสียบหูฟัง หรือไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD เองได้ แต่ก็ทดแทนพื้นที่ภายในที่สูงถึง 256 GB ลำโพงนั้นมาเป็นลำโพงเดี่ยว คือเสียงดังฟังชัดถนัดดี
แต่ถ้าคาดหวังถึงความอลังการของเสียงอาจจะยังไม่ใช่คำตอบนัก เราทดลองเปิดเพลงจาก เกม ROV ก็ดังได้เร้าใจดี แต่ยังไม่ได้รู้สึกฮึกเหิมขนาดนั้น แต่ในแง่การเล่นไฟล์เพลงนั้นรองรับ 24-bit/192kHz ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับนักฟังที่ใส่ในใจการฟัง และมีไฟล์เพลงความละเอียดสูงในมือ แต่อย่างที่รู้กันคือ โทรศํพท์ยุคนี้ตัดแล้วซึ่งหูฟัง 3.5 รุ่นนี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน
การสแกนลายนิ้วมือยังคงใช้
หน้าจอให้มาใหญ่ขนาดนั้นก็ใช้พื้นที่ให้มีประโยชน์หน่อยเถอะ คือ Realme UI นำเสนอคุณสมบัติ Smart Sidebar ที่ขอบของหน้าจอ คุณสามารถปรับแต่งสร้างทางลัดสำหรับแอพที่ที่ใช้ประจำ แล้วเรียกขึ้นมาได้ด้วยการปาดด้านข้างของหน้าจอ
ซื้อดีมั้ย Realme X3 Super Zoom
ซูม Optical 10x ถึอว่าเพียงพอมั้ย คือถ้าเราเดินถนนเราก็คงอยากได้จากด้านล่างไปยอดตึกก็พอแล้วมั้ง เราถึงคิดว่านั่นก็พอสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้วล่ะ ระบบยืนยันตัวตนทางชีวภาพด้วยการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างทำหน้าที่ของตัวมันเองได้อย่างดี คือตำแหน่งมันวางนิ้วนี่พอดีเป๊ะกับตอนจับเครื่อง แต่หลายคนอาจจะคาดหวังอยู่นิดๆ ว่าอาจจะดูล้ำกว่าถ้าได้ระบบการแสนลายนิ้วมือที่ใต้เครื่อง
ในแง่การอัพเดทซอฟท์แว์ก็มีการรับปากเป็
ถ้าคุณสนใจสามรถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ realme official store ครับ