Huawei Matebook 14s คือแล็ปท็อประดับบนที่หัวเว่ยดูตั้งใจที่จะบอกกับตลาดว่า นี่คือพวกเขาจะเอาดีกับการลงตลาดคอมพิวเตอร์แบบพกพาในระดับ “ตลาดบน” หลังจากที่ปล่อยรุ่นตลาด สำหรับเริ่มต้น และตลาดกลางมาชิมลางชนกับผู้มาก่อนแล้ว ซึ่งเขาก็คาดหวัง และจริงจังกับตลาดนี้มาพักใหญ่แล้ว
แกะกล่องลองเครื่อง Huawei Matebook 14s
แป้นพิมพ์คือสิ่งที่เรากดพิมพ์ไปนั่งยิ้มพริ้มมาก คือมันเด้งแบบนุ่มนวลชวนให้กดต่อ ในรุ่นที่วางขายจริงมีจะมีอักษรไทยให้นะครับ อันนี้เป็นเครื่องทดสอบมีไฟที่แป้นด้านหลังพอจางๆ ไม่ได้ถึงกับสว่างมาก ก็คือมองได้ในที่แสงสลัว ส่วน track pad อันนี้ใส่มาอย่างกว้างปาดลาดสบายใจ ส่วนปุ่มวงกลมใกล้ๆ นั่นคือตัวแสกนลายนิ้วมือเผื่อปลดล็อคเครื่องด้วยชีวภาพ คือด้วยขนาดตัวเครื่องมาเท่านี้ เราคงไม่เห็นแผงลำโพงที่ด้านบนนะครับ ในเครื่องนี้มากับ Windows 11 เป็นที่เรียบร้อยไม่ต้องไปอัพเดทเอง
ในโฆษณาบอกเราว่า “นี่คือ MateBook รุ่นแรกที่มาพร้อม HUAWEI SOUND อัลกอริทึมที่ได้รับการออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางผ่านลำโพงติดตั้งภายในทั้ง 4 ตัว ให้ทั้งเสียงแหลมที่คมชัดและเสียงเบสทรงพลัง”
คือตำแหน่งลำโพงนี่เลือกที่วางได้ดี คืออยู่ใกล้ๆ ผู้ใช้ เลยคีย์บอร์ดลงมาหน่อย แต่ถ้าถามว่าซอฟท์แวร์ปรับแต่งให้มาดีขนาดนั้นมั้ย ก้ตอบเลยว่า “ยัง” ลำโพงสี่ตัวให้ผลเป็นยังไง เราทดสอบกับการเล่นเกมอย่าง Marvel VS Capcom คือเสียงระหว่างการต่อสู้นี่แยก
ซ้ายขวาตอนอัดกันสนุกมากมิตินี่คือได้ เสียงค่อนข้างชัด แต่ที่หายไปคือความตุ๊บตั๊บในย่านต่ำ
พอร์ทที่ีให้มานั้นในความบางเท่านี้ จะมี USB-C x 2 ซึ่งรองรับข้อมูล การชาร์จ และ DisplayPort มี USB3.2 Gen1 x 1 มี HDMI x 1 มี 3.5 มม. เฮดเซ็ทและไมโครโฟน 2-อิน-1 แจ็ค x 1 .. ก็ให้มาครบล่ะ ที่่ดีคือไม่ต้องไปลำบากเสียเงินซื้อหัวต่อเยอะแยะให้เกะกะ ซื้อมาเครื่องนึงพกไปหาลูกค้า พกพาไปทำงานนอกบ้านสบายมาก แล้ว Adaptor ที่ให้มานั้นเป็น Type C ขนาดเท่ากำปั้นผู้ชายยิ่งพกง่ายเข้าไปอีก จะเอาไปชาร์จอุปกรณ์อื่นที่ Type C นี่ให้กำลังไฟแบบเหลือๆ จากที่เราลองแบกใส่ไปนู้นนี่ตอนไปต่างจังหวัด บอกเลยว่าน้ำหนักเบาสบายหลังขึ้นเยอะ เพราะหนักแค่ 1.43 กิโล
เรื่องการเชื่อมต่อไร้สาย ตามาสเปคให้มาคือ WLAN IEEE 802.11a/b/g/n/ac/ax, 160 MHz ที่ 2.4 GHz และ 5 GHz 2 x 2 MIMO WPA / WPA2 / WPA3 Bluetooth 5.1 / Wi-Fi 6 คือถ้าซื้อแล็ปท็อปปี 2021 ยังไงก้ต้องรองรับมาตร ax และ Wi-Fi 6 คือเรื่องนี้ไม่ผิดหวังอะไรใช้งานได้เนียนๆ .. ถ้าทำให้ผิดหวังไดก็แย่แล้วล่ะ เพราะมาจากแบรนด์ที่ทำ router ส่งขาย isp สำฟรับผู้ใช้อินเตอร์เน็ตตามบ้านทั่วไทยเนี่ย
ความหน้าตาดีนั้นมีกระทั่งตรงบานพับ จากที่เราจับถือว่าแข็งแรงไม่มีกร๊อบแกร๊บ ทำมาสมราคาสี่หมื่นนิดๆ ในราคาขนาดนี้แน่นอนว่า ควรมากับหน้าจอที่สัมผัสได้ ซึ่งแล็ปท๊อประดับสามหมื่นกว่าขึ้นไปควรจมีให้ล่ะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเท่าไหร่
แต่ใช้จริงนี่ติดนิ้วดี สัมผัสดีกดแล้วตอบสนองทันที เบื้องหลังรองรับได้ 10 จุดแต่เอาจริงๆ เราก็จิ้มทีละนิ้วสองนิ้วอยู่ดี เราเลยลองกางจออกมาว่าสุดได้แค่ไหนก็อย่างได้ที่เห็น ถ้าตั้งจะเอาแบบแบนราบ หรือพลิกจอกลับด้านรุ่นนี้คงให้ไม่ได้ เพราะจุดขายเขาไม่ได้มาตรงนั้น คือเอาไว้แบ่งหน้าจอ หรือว่าใช้ต่อกับมือถือให้สะดวกๆ มากกว่า หรือว่าเอาไว้ใช้กับ Windows 11 แบบสะดวกๆ เช่น การปาดลาก
สเปคบางๆ กับของแรงบางอย่างที่ซุกไว้
สเปคเครื่องของตัวท๊อปคือ
- Intel® Core™ i7-11370H Processor
- 16 GB LPDDR4x Dual Channel
- Intel® Iris® Xᵉ Graphics
- 1 TB NVMe PCIe SSD
- Battery 60 Wh
สเปคเครื่องของตัวเริ่มต้นคือ
- Intel® Core™ i5-11300H Processor
- 8 GB LPDDR4x Dual Channel
- Integrated Graphics:
- Intel® Iris® Xᵉ Graphics
- 512 GB NVMe PCIe SSD
- Battery 60 Wh
ซึ่งถ้ามองผ่านๆ ตัวเริ่มต้นก็พอแล้วล่ะครับ สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น งานเอกสาร แต่งรูปบ้าง ตัดคลิปบ้าง
เรามาลองดูผล Benchmark เมื่อเทียบกับฮาร์ดแวร์ของยี่ห้ออื่นในตลาดบ้าง เอาตริงๆ ชิ้นส่วนหลักที่ให้มาคือไม่ขี้เหร่นะ Intel Core I5-11300H คือใช้งานเอกสาร ท่องเว็บ เล่นเกม ตัดต่อที่ไม่หนักหนาสาหัสมาก ไม่ได้ซ้อน Layer เรียงเป็นตับนี่พอไหว
ส่วน Graphic Card Intel Iris Xe อันนี้เอาจริงๆคือ เล่นเกม 3D เก่าๆ กลางๆ จาก Steam หน่อยไม่มีปัญหา แต่ถ้าวัดกับเกมสมัยนี้ที่กินสเปคประสิทธิภาพอาจจะไม่ได้ทรงพลังเท่าไหร่ และแน่นอนว่าเอาไปใช้งาน VR ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าพูดอย่างยุติธรรมหน่อยมันก็ไม่ใช่ใช่จุดขายของเขานี่
แต่ที่หมกความแรงไว้คือตรงนี้ SSD จาก Samsung ที่เครื่องใส่มาแรงทะลวงได้ใจเรามาก ถือว่าที่เขาพูดในโฆษณานี่ไม่เกินจริงแต่อย่างใด .. แล้วเรื่องความร้อนล่ะ คือเขาโฆษณาว่า
“มาพร้อมใบพัดลมรูปตัว S บางแบบครีบฉลามคู่ ดึงอากาศเข้าสู่ตัวเครื่องดีขึ้น 25%
ผ่านช่องบานพับที่ได้รับการออกแบบอย่างดี และการวางตำแหน่งช่องความร้อนทองแดงที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกอย่างจะเย็นด้วยการระบายความร้อนที่ไม่ติดขัดแม้ในเวลาที่ใช้พลังงานสูงสุด”
จากที่เราลองใช้งานแบบคนปกติ คือไม่รู้สึกว่ามันร้อนนะครับ แต่จากที่เราลองทดสอบโดนการเปิดเกม 3D ทิ้งไว้ข้ามคืน 8-10 ชั่วโมง อืม .. มีอาการอุ่นมืออยู่นิดๆ นะ
Huawei Matebook 14s ซื้อมาประชุมออนไลน์ / Work From Home ไหวมั้ย
จอมากับขนาด 14.2 นิ้ว แบบ LTPS อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90% อัตราส่วนภาพ 3:2 ความละเอียด
2520 x 1680, 213 PPI อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90 Hz / 60 Hz
ถ้าเอาประสบการณ์ตรงในการใช้คือ .. ยืมแล้วไม่คืนได้มั้ยอ่ะจอชัดอัดมาเต็มมากอยากได้ไว้ใช้ยาวๆ ทุกอย่างดูเนียนสบายตาไปหมด สีไม่เพี้ยน ซึ่งจะว่าไป จอคอม จอมือถือ จอทีวีของแบรนด์นี้นี่ดุแคลนกันไม่ได้อ่ะจริงๆเอ้า
ก็อย่างที่บอกไปข้างบน ตามสเปคเขาบอกว่ามากับลำโพง 4 ตัว เอาข้อดีที่เราชอบก่อน ถ้าคุณเอาไปเล่นเกมที่ทำเรื่องเสียงมาดีๆ คุณจะมีความสุขมากในการเสียงแยกซ้ายขวาตามตำแหน่ง คือมันให้ความรู้สึกว่าฟังออกแบบชัดๆ แต่เรื่องที่เราเองอาจจะหวังไว้เยอะไปหน่อยคือลำโพงมันเบา ถ้าตอบแบบช่วยเขาขายของก็แนะนำว่าเอาหูฟัง Bluetooth ค่ายเขานั่นล่ะมาเชื่อมต่อจะได้อรรถรสที่ดีกว่ามาก ส่วนตำแหน่งไมโครโฟนที่เขาบอกว่ามี 4 ตัว อันนี้คื อสิ่งที่เราประทับใช้ ยิ่งเวล่อัดเสียง หรือว่าสั่งพิมพ์ด้วยเสียงนี่ออกมาดี มีความเป๊ะอย่างสุด
แล้วถ้าซื้อมาประชุมออนไลน์ล่ะ ข้อนี้หลายคนที่กะว่าซื้อมาเพื่อประชุมออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ เพราะหาแล็ปท็อปเครื่องขนาดนี้คงต้องเน้นพกพาอยู่แล้วล่ะเนอะ คือการดีไซน์รอบนี้เน้นบาง กล้องหน้าก็ไปอยู่ในตำแหน่งที่มันควรจะอยู่ซะทีคืออยู่ที่ด้านบน คือมองด้วยตานี่แทบหาไม่เจอแล้ว มันเนียนมาก โอเค..มันปลดล็อกด้วยใบหน้าได้ แต่ถ้าเราหวังมากกว่านั้นล่ะ
อันนี้เราแอบถอนใจนิดคือกล้องหน้าให้ความละเอียดมาแค่ HD 720p ซึ่งเราคิดว่าน้อยไปหน่อยนะสำหรับตอนนี้ เราก็ลองยกกล้องหน้ามาถ่ายในบ้าน ไม่ม่ีจัดแสงไม่อะไรทั้งนั้น เอาให้อยู่ในสภาวะะที่เหมือนคนอยู่บ้านทั่วไป คือเกรนค่อนข้างเยอะครับ แต่ถ้าหักลบกลบกับไมค์นี่ที่เสียงชัดดีมากนี่ บางทีก็ต้องเลือกนะว่าจะเอาอะไรเด่น แต่ก็แก้ปัญหาได้ด้วยการใช้ Web Cam แบบ USB ที่คุณภาพดีกว่านี้ ซึ่งทุกวันนี้เราสามารถหาได้ในราคาไม่ถึง 1,000 บาท .. คุณภาพจากกล้องหน้าก็ได้มาประมาณนี้ล่ะครับ อันนี้อยู่ที่สภาพแสงด้วยนะครับ เพราะถ้าผมต้องคุยออนไลน์จริงจังผมก็จะอยู่ในห้องจัดแสงอีกแบบ
Eco System และซอฟท์แวร์ที่แถมมา
เรื่องซอฟท์แวร์ที่ให้มาคือก็ตามแผนเขานั่นล่ะ ที่จะพยายามสร้าง Eco System หรืออีกนัยนึงคือสร้างจักรวาลหัวเว่ยขึ้นมา ฉะนั้นอะไรที่เราเคยเห็นอย่าง HUAWEI Share ก็จะตามมาด้วย แต่ที่เพิ่มเติมคือ HUAWEI PC Manager พูดแบบสรุปง่ายๆคือ อะไรที่เขาทำกับสมาร์ทโฟน พอมาในแล็ปท๊อปก็แบบเดียวกันเป๊ะ คือแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรทั้งสิ้น รวมถึงเชื่อมหากันแบบไร้รอยต่อ เอาแค่เมาส์ที่เขาให้มาด้วย เปิดสวิทช์ข้างๆ ปุ๊บก็เชื่อมต่อได้แบบจับมือทำกดสองคลิ๊กเสร็จ .. คือแทบไม่ต้องใช้สมองในการสองเชื่อมต่อแล้ว ทำให้ทุกอย่างเองหมด ซึ่งมันก็ดีสำหรับคนที่ไม่มีเวลามานั่งเรียนรู้อะไรเยอะๆ
ซื้อดีมั้ย Huawei Matebook 14s
เอาตรงๆ ว่ามันมีความรู้สึกทั้งชอบมากจนขอผลัด PR เขานอนกอดดองเครื่องไว้นานๆ เพราะจอสวยปาดหน้าชาวบ้านชาวช่องเขา คือจอสวยขนาดนี้ในตลาดผมยกนิ้วมื้อมากาง 1 ใน 5 ที่จอสวยได้ขนาดนี้ต้องมีแบรนด์นี้ติดโผโผล่ไปซัดกับฝั่งไต้หวันได้เลยล่ะ
น้ำหนักกำลังดี แป้นพิมพ์นิ่มยิ้มชวนฝันมาก SSD แรงกระชากเบาะ
แต่มาเทโค้งด้วยเรื่องมัลติมีเดีย กับกล้องหน้านี่ล่ะ ซึ่งมันก็ไม่ผิดนะเพราะเขาก็วางตัวสินค้าในจุดยืนชัดเจน เอาเป็นว่าที่เขาโฆษณามานี่ก็คือทำได้เป๊ะเกือบทุกกบรรทัดนะ แต่ถ้าคาดหวังมากกว่านั้นอาจจะต้องไปจัดตัวอื่น ราคาที่ตั้งไว้คือ 40,990 บาท สำหรับรุ่น Core i5/11th และ 55,990 บาทสำหรับรุ่น Core i7/11th ครับ
ขอบคุณ : Huawei Thailand สำหรับเอื้อเฟื้อเครื่องในการทดสอบครับ
[button color=”primary” size=”small” link=”https://u.jd.co.th/tLdkxfG — ” icon=”” target=”true” nofollow=”false”]สั่งซื้อได้ที่นี่[/button]
คะแนนรวม Huawei Matebook 14s
การออกแบบ - 9.5
ประสิทธิภาพ - 9
ราคา - 8.5
9
95
เครื่องงานประกอบดี เลือกของดีมาใช้ น้ำหนักเครื่องดี จอชัด ปรับแต่งมาเพื่อใช้งานแบบพกพา จอสัมผัสดีมาก แต่หวังยากเรื่องมัลตีมีเดีย ราคาค่อนข้างสูงเมื่อจะขึ้นไปชนกับเครื่องที่เป็นแบรนด์ดังที่มาก่อน