ถึงแม้ว่าจะมี Smart TV รุ่นใหม่ออกมาที่รองรับกับการใช้งานแอพลิเคชั่น Streaming แต่ก็ยังมีความต้องการในการใช้กล่อง Settop Box อยู่ดี ด้าน AIS Playbox 3 ที่มีการปรับปรุงแบบยกเครื่องให้กับลูกค้าของ AIS Fibre ก็ถูกเพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าที่ถามกันมาตลอด
มีอะไรเปลี่ยน AIS Playbox 3
รูปทรงอันนี้คือเปลี่ยนจากสีเหลี่ยมผืนผ้ามาเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส คล้ายๆ แบบกล่องรุ่นแรก
พอร์ทต่างๆ ที่ใส่ให้ไม่ได้ต่างจากเดิม แต่สิ่งที่ต่างจากกล่องรุ่นเดิม คือด้านหลังไม่มีพอร์ท micro USB สำหรับ OTG แล้ว ซึ่งก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ในการใช้งานจริง
ตัวกล่องรองรับ WiFi 2.4 Ghz และ 5Ghz แต่คำแนะนำของเราคือเสียบสาย Lan ไว้เถอะ เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีกว่า อย่างน้อยสัญญาณก็วิ่งแบบนิ่งๆ แน่นๆ ส่วนตัวที่ใช้งานอยู่แล้ววางห่างจาก Router หลักก็จะใช้ Repeater เสียบปลั๊กไส้แล้วเอาสาย Lan เสียแทบ ก็ได้ผลดีเหมือนกัน ส่วนในกล่องมีสาย Lan สั้นๆ มาให้เราอยู่แล้ว 1 เส้นเช่นเดิม มี อแดปเตอร์ 1 ตัว ถ่าน AAA สำหรับใส่รีโมท 2 ก้อน และสาย HDMI 1 เส้นที่ให้มา
ในส่วนของพอร์ทที่ให้มาจะมี USB 2 ช่อง microSD 1 ช่อง AV 1 ช่อง ,HDMI 1 ช่อง ,Lan 1 ช่อง และ S/PDIF 1 ช่อง
วิธีการการเชื่อมต่อรีโมทกับกล่อง Ais PlayBox 3
- กดที่ปุ่ม Menu และปุ่มตารางสี่เหลี่ยม ที่อยู่แถวเดียวกันด้านขวรมือ โดยกดค้างไว้ 3 วินทีเพื่อเริ่มการจับคู่
- ไฟแสดงสถานะบนรีโมทจะสว่างเป็นเวลา 3 วินาที จากนั้นไฟตะจะดับลงเพื่อระบุว่าการจับคู่สำเร็จ
- ถ้าไฟแสดงสถานะกระพริบนานเป็นเวลา 30 วินาที นั่นคือการแจ้งสถานะการจับคู่ล้มเหลว
หลังจากที่ลองจับรีโมทครั้งแรก เรารู้สึกว่าจับถนัดมือมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ปุ่มแข็งแรง และที่ดีคือมีคุณสมบัติที่เป็นทาง หรือ Short Cut เข้าแอปซะที ทำให้การเข้าถึงบริการอย่าง AIS Play ,YouTube ,Netflix ,Disney HotStar ง่ายขึ้นเยอะมาก
สามารถสั่งงานได้ด้วย Google Assistant ซึ่งที่รีโมทนั้นมีตัวรับไมโครโฟนในตัว เวลาใช้ก็ง่ายๆ ครับ
กดที่ปุ่ม Google Assistant แล้วพูดคำสั่งใกล้ๆ เช่น Hey .. Google เปิด Netflix (ชื่อภาพยนต์) ตัวกล่องก็จะเปิด Netflix พร้อมชื่อภาพยนต์ที่คุณจะรับชมครับ ซึ่งคุณสมบัติพวกนี้ถ้าใครใช้ Smart TV ก็น่าจะเคยๆ ได้สัมผัสกันมาบ้างในบางรุ่น
การเข้าถึงโปรแกรมรายการโทรทัศน์แบบล่วงหน้าสามารถกดได้ที่ผ่านรีโมท มีปุมลัดหรับสลับสำหรับการกดเข้าแอพพลิเคชั่นทำให้สามารถเข้าถึงเมนูได้อย่างรวดเร็ว
การที่อินเตอร์เฟสไม่ใส่อะไรมาให้รก ใช้ของเดิมแท้ๆ ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนในการใส่ลูกเล่นอื่นมากไปจนทำให้โหลดช้านั่นคือเรื่องที่ดีเรื่องที่เราชอบ ซึ่งเบื้องหลังนั้นคือระบบปฎิบัติการ Android TV 11
สำหรับใครที่ต้องการ Stream จากโทรศัพท์มือถือ หรือว่าแท็บเล็ต ไปยังจอโทรทัศน์ก็มี Chromecast built-in ซึ่งกล่องรุ่นหน้านี้ไม่มี ส่วนการแสดงผลแสดงผลสูงสุด 4K ที่ 3840x2160p ครับ ซึ่งอันนี้แล้วแต่เนื้อหาที่รองรับเลย แน่นอนว่าโทรทัศน์ที่ใช้ต้องรองรับด้วยนะครับ
ตัวเลือก HDR มีทั้งแบบ Dolby Vision และ HDR 10 อันนี้กล่องรุ่นเเดิมไม่มี ระบบเสียงในการเชื่อมต่อกับเครื่องเสียงเป็นแบบ S/PDIF output ส่วนเรื่องบลูทูธก็รองรับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น คีย์บอร์ด เมาส์
สิ่งที่หลายคนขอมาคืออยากลงแอปได้เอง รุ่นนี้ก็จัดให้แล้วน อันนี้สายหนัง สายทีวีน่าชอบใจ คือบริการภาพยนตร์อื่นๆเช่น viu ,Flixer, WeTV และอื่นๆ ที่เรา Subscription เอาไว้คราวนี้สามารถติดตั้งเองได้หมดจาก Play Store
เปลี่ยนเป็นกล่อง AIS Play 3 ดีมั้ย
สำหรับเราที่ใช้กล่อง AIS Play มาทุกรุ่นตั้งแต่ตัวแรก นี่เป็นกล่องรุ่นที่เราชอบสุดแล้ว คือมันก็เป็นไปตามยุคนั่นล่ะ เพราะสิ่งหลายที่เราเองหรือหลายคนก็รออยู่นานแล้วคือการเปลี่ยนระบบปฎิบัติมาใช้เป็น Android TV ซะที!!!
เพราะการที่ใช้งานยืดหยุ่นมากกว่า
สำหรับการปรับแต่งกล่องให้เป็นอย่างที่ผู้ใช้เองตั้งใจ และสิ่งที่เราชอบคือการไม่เอา UI อะไรมาครอบจนทำให้มัน “รก” และของเดินมันง่ายสำหรับผู้ใช้ Android อยู่แล้ว ส่วนเรื่องเงื่อนไขการขอรับกล่อง ค่าบริการ และการเปลี่ยนสำหรับลูกค้าเดิม ข้อมูลเพิ่มเติม 1175 ครับ