ในยุคที่การเล่นเกมกลายเป็นกีฬา หรือที่เรียกว่า eSports และวงการนี้มีมูลค่าการเติบโตของอุตสาหกรรมที่สูงต่อเนื่องหลายปี รวมถึงการก่อเกิดอาชึพใหม่ๆ ตามขึ้นมาอย่างมากมายจู่ๆ คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะมีความสงสัยว่าเราจะแยกเรื่องของเด็กติดเกมกับเด็กที่มีศักยภาพในการเป็นนักกีฬาได้อย่างไร ผมก็เลยนั่งคุยกับเพื่อนสนิทผมนายนึง ซึ่งเป็นผู้จัดการทีม eSport ทีมใหญ่ของโลกในระดับ Top 5 อย่าง FaZe Clan Thailand ที่มีสาขาอยู่ในไทย ก็เลยสรุปสั้นๆ ออกมาดังนี้ครับ
1. ลูกคุณเล่นเก่งระดับไหนแล้ว ?
ผมกับเพื่อนมองเรื่องนี้เหมือนกัน คือมันเหมือน การเตะฟุตบอลเก่ง เล่นดนตรีเก่ง แต่เก่งระดับไหนล่ะ เก่งในร้าน เก่งในโรงเรียน
เก่งในระดับอำเภอตำบล หรือว่าเก่งระดับชนกับโลกข้างนอกได้ล่ะ คำตอบมันคือ “เก่งระดับชนกับโลกข้างนอกหรือยัง”
ถ้าเรียนดนตรีมันก็มีการสอบผ่านเพื่อเลื่อนชั้น ไต่ขั้นกันขึ้นมา วงการเกมมันก็แบบเดียวกันล่ะ .. ดูก่อนว่า Rank ในเกมลูกคุณอยู่ตรงไหนแล้ว
2. ลูกคุณเข้ากับคนอื่นได้มั้ย ?
ในเรื่องดนตรีลูกคุณอาจจะเรียนคนเดียวได้ เกมอาจจะเล่นคนเดียวได้ แต่การก้าวต่อไปในบานะมืออาชีพคือ ลูกกคุณสามารถอยู่กับคนอื่นได้หรือเปล่า ถ้าเป็นวงการดนตรีก็คงต้องถามว่า “ลูกคุณเคยฟอร์มวงลงแข่งมั้ย”
วงการ eSports ก็เหมือนกัน “ลูกคุณเคยฟอร์มทีมลงแข่งกันเพื่อนมั้ย” ทำแล้วมันไปได้หรือเปล่า เพราะหลายเกมมันต้องเล่นกันเป็นทีม เว้นแต่ไปแข่งเกมประเภทเดี่ยว เช่น Gran-Turismo , Street Fighter ,Dragon Ball Fighter Z นั่นก็เรื่องนึง
3. ลูกบอกไม่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัย อยากไปเป็นนักกีฬา eSports มืออาชีพจะทำยังไงดี
มันต้องลองแบ่งเป็นสองมุม
มุมแรก .. เรื่อง Gap Year คืออาจจะดูแปลกสำหรับสังคมไทยๆ ถ้าลูกอยากลองหาประสบการณ์
โอเคได้ .. แต่การเป็นนักกีฬา นั่นคือการทำงานแบบนึง ซึ่งต้องลูกคุณเลี้ยงชีพจากมันให้ได้นะ คือถ้าลูกคุณเล่นเก่ง เล่นดีมีวินัย ยังไงมันมีคนมารอดึงตัวเข้าทีมอยู่แล้ว ไม่ต้องรอขอดรอปเรียนหรอก หรือลองตั้งเพดานไว้ ถ้าทำไม่ได้ใน 1 ปีกลับไปเรียนหนังสือนะ
หรือสถาบันการศึกษาที่สอนหลักสูตรแนวๆ นี้ก็มีเปิดครับ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนจ่ายไหว นั่นก็คือทางเลือกนึง
เพราะ eSport สายอาชีพ มันไม่ได้มีแค่ Pro Player ไง
มุมที่สอง .. เรียนไปด้วย เล่นไปด้วย
โปรดมองว่า Pro Player ก็คืออาชีพนึงบนโลกนี่ล่ะ เด็กบางกลุ่มเลิกเรียนไปทำแคชเชียร์ร้านสะดวกซื้อ ไปทำงานพาร์ทไทม์ร้านไก่ทอด หรือทำอาชีพออนไลน์ นี่ก็แบบเดียวกัน การเป้นนักกีฬา eSports ก็มีเข้าแคมป์ มีการซ้อม มีเป้าหมายการทำงานเหมือนอาชีพปกติ แต่การรับภาระสองเรื่องก็แบกความรับผิดชอบสองเท่าก็แค่นั้นเอง ทีมไม่ได้ใจร้ายขนาดขัดขวางความก้าวหน้าทางการศึกษาหรอก ถ้าจำเป็นต้องลาไปทำภารกิจ บอกทางทีมทำหนังสือแจ้งสถาบันการศึกษาให้ก็ได้
4. ลูกมาขอเงินไปซื้ออุปกรณ์ ไปเติมเกมจะให้ดีมั้ย
ถ้าลูกมาขอซื้อกีตาร์คุณพ่อคุณแม่อาจจะตอบง่ายกว่า ถ้ามาขอซื้อสมาร์ทโฟน หรือคอมแรงๆเพื่อไปซ้อมเกมแข่งเกม
เอางี้ .. ตอบตรงไปตรงมา อุปกรณ์ดีๆ มีผลมั้ย พวกผมตอบเลยว่า “มี”
คือถ้าคุณแข่งระดับ Open อย่าเพิ่งคิดอะไรขนาดนั้น ถ้าซื้อคอมก็เอา Laptop Gaming ไปก่อนอย่างน้อยพกพาไปเรียนได้
ถ้าซื้อมือถือเล่นเกม Moba ทั่วไปสเปคกลางๆ ขึ้นไปก็พอไหวนะ จะจอเล็กจอใหญ่ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะมี Player ที่โดนทีมดึงตัวเข้าไปก็ไม่ได้ใช้เครื่องตัวท๊อปแต่แรกก็มี หน้าที่หาของดีๆ มันเรื่องของทีมเขา .. แต่ถ้าพ่อแม่มีสตางค์ จะจัดของดีๆให้ก็ไม่ว่ากัน
เพราะผมใช้สินค้า Gaming หลายชิ้นตั้งแต่กลางๆ ยันแพงๆ คุณภาพบางอย่างมันก็ผันแปรกับราคาจริงล่ะ .. แต่ฝีมือคือซื้อไม่ได้
ส่วนขอเงินเติมเกมนี่ บางเกมมันก็ต้องใช้เงินเติม เพื่อคุณสมบัติบางอย่างจริงๆ นั่นล่ะ เช่น เกมฟุตบอลบางเกม หรือมีอีกสองทาง คือ
1. ใช้เวลาในการเล่นให้เยอะพอที่จะสะสม
2. หาเกมอื่น
5. กลัวลูกเข้าไปวงการเกมแล้วลูกจะเป็นเด็กดื้อ รับมือกับเรื่องนี้ยังไงดี
โลกอยู่ในยุคที่คนสำเร็จอายุน้อยลงทุกที เคยมีอดีต PR ของทีม eSports ระดับประเทศมาเปรยกับผม
“โห..เด็กพวกนี้ทำงานด้วยยากมากเลยพี่ ดื้อมาก พวก Blogger IT คุยง่ายกว่าเยอะ”
เอาจริง..ผมเองนี่ก็โคตรดื้อนะ เพื่อนรู้ พีอาร์รู้ ผมก็เลยหยิบคำถามนี้ไปถามเพื่อนผู้จัดการทีม ก็ได้คำตอบมาว่า
หน้าที่ของ Pro Player ก็เหมือนคนทำงานปกตินั่นล่ะ มีเป้าในการซ้อมทุกอย่างทำได้ตามเวลา ตามตารางมั้ย
เช่น ต้อง Kill Shot ให้ครบร้อยทำได้ครบมั้ย ไปลงแข่งผลการแข่งเป็นไง เล่นดีมั้ย ต้องให้เพื่อนแบกมั้ย
มันก็มีแค่ไปซ้อมอย่างมีวินัย ทำตามกฎ แล้วไปแข่งให้ชนะ คนเก่งในทุกวงการมันมีทั้งนิสัยดี และนิสัยดื้อนั่นแหล่ะ
..
แต่ถ้าดื้อมากอาจจะต้องถามว่า การจัดการวินัยในทีมมันมีมากน้อยแค่ไหน
คืออาชีพนี้มันดูสนุกนะ เงินรางวัล เงินเดือนถ้าไปได้ในระดับโลกนี่ใช้คำว่าพลิกชีวิตได้เลยนะ
แต่มันก็ยอดปิรามิดเหมือนอาชีพอื่นๆ นั่นล่ะครับ
แต่โลกต้องการผู้ชนะสักกี่คนเชียว.. เผื่อแผ่นหลังไว้แบกในวันที่ฝันแล้วไปไม่ถึงบ้างก็ได้