Tech!

เปิดราคา Samsung Galaxy Z Flip 4 35,900 บาท และ Galaxy Z Fold 4 59,900 บาท

Samsung ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ Galaxy Z Flip4 และ Galaxy Z Fold4 มาในรูปลักษณ์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ รวมถึงมอบประสบการณ์สุดสร้างสรรค์ตามความต้องการของผู้ใช้ได้ พร้อมกับยกระดับประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น Galaxy Z ในเจเนอเรชั่นที่ 4 จะเดินหน้าฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่

Galaxy Z Flip 4 Fashion Smartphone  มาพร้อม Flex Camera

Galaxy Z Flip 4 มีสามสี

ดีไซน์ฝาพับแบบ Clamshell เล็กกระทัดรัด ให้ผู้ใช้บันทึกวิดีโอหรือถ่ายภาพเซลฟี่กลุ่มได้ในหลากหลายมุมมองโดยไม่ต้องถือเครื่อง เพียงพับตัวเครื่องให้เป็นมุมเพื่อเปิดการใช้งาน FlexCam  โดยได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Meta ทำให้ FlexCam ได้รับการปรับตั้งให้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมกับแพลตฟอร์มโซเชียลยอดฮิต อาทิ Instagram, Facebook และ WhatsApp

นอกจากนี้ Galaxy Z Flip4 ยังให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้อีกมาก เช่น ถ่ายภาพเซลฟี่คุณภาพสูงจากหน้าจอด้านนอกโดยใช้กล้องหลักในโหมด Quick Shot ที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นอีกขั้น หรือเริ่มการบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงในโหมด Quick Shot แล้วเปลี่ยนเข้าสู่โหมด Flex เพื่อบันทึกต่อเนื่อง โดยที่ไม่จำเป็นต้องหยุดบันทึกวิดีโอเพื่อเปลี่ยนโหมด เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์

รวมทั้งยังใช้โหมด Quick Shot ถ่ายภาพเซลฟี่แนวตั้งและดูภาพพรีวิวในสัดส่วนจริงของภาพได้อีกด้วย นอกจากนี้กล้องที่พัฒนาขึ้นอีกขั้นยังมากับเซ็นเซอร์ที่สว่างขึ้น 65%[4] ขับเคลื่อนด้วยพลังของ Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform  รวมถึงการสร้างสรรค์ให้ใช้งานแบบไม่ต้องถือเครื่องได้อย่างแท้จริง ให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกางโทรศัพท์ออก ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ ตอบข้อความ ปลดล็อครถยนต์  หรือแม้แต่ควบคุมวิดเจ็ต SmartThings Scene ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้สามารถทำได้จากหน้าจอด้านนอก

แบตเตอรี่มากับความจุ 3,700mAh รองรับ Super Fast Charging ที่ชาร์จจนถึงระดับ 50% ของความจุได้ในเวลาประมาณ 30 นาที จึงช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับโลกรอบตัวได้อย่างต่อเนื่องเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด

บานพับตัวเครื่องที่เพรียวบางยิ่งขึ้น เส้นขอบที่เหยียดตรง กระจกฝาหลังสีตัดกัน และกรอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะมันวาว ผสานกันเป็นดีไซน์อันแสนประณีตของซัมซุง ผู้ใช้ยังสามารถปรับเปลี่ยน Galaxy Z Flip4 ได้ตามความชื่นชอบทั้งด้านในและด้านนอก โดยใช้ Galaxy Theme หลากหลายแบบกับหน้าจอทั้งด้านนอกและหน้าจอหลักเพื่อเสริมส่งสไตล์ของตนเองด้วยอักษร ไอคอน และดีไซน์ต่างๆ ได้ตามความต้องการ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างสรรค์หน้าจอด้านนอกให้มีความเฉพาะตัวด้วยดีไซน์นาฬิกาและพื้นหลังใหม่ๆ ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพนิ่ง ภาพในรูปแบบ GIF หรือแม้กระทั่งวิดีโอ[9]

Galaxy Z Fold 4 นวัตกรรมสมาร์ทโฟนแบบ Multi-task ครบจบทุกเรื่องในเครื่องเดียว

Galaxy Z Fold4 เป็นสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดของซัมซุงในปัจจุบัน  ไม่ว่าจะกางเครื่องออก พับปิดเอาไว้ หรือใช้ในโหมด Flex ยิ่งไปกว่านั้น Galaxy Z Fold4 ยังเป็นดีไวซ์รุ่นแรกที่มี Android 12L ติดตั้งไว้แล้ว โดยเป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นพิเศษที่ Google สร้างขึ้นเพื่อประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอใหญ่ รวมถึงอุปกรณ์แบบพับหน้าจอได้

การใช้งานแบบมัลติทาสกิ้งสามารถทำได้ง่ายดายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  ทาสก์บาร์ใหม่มาในรูปแบบที่คล้ายกับในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ให้เข้าถึง แอปพลิเคชันโปรดและแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยได้ง่าย นอกจากนี้การใช้งานมัลติทาสกิ้งยังให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นจากการสั่งงานด้วยท่าทางแบบใหม่ด้วยการปัดหน้าจอ (Swipe Gestures) เปลี่ยนแอปพลิเคชันที่แสดงผลแบบเต็มหน้าจอไปเป็นหน้าต่างป๊อปอัพ หรือแบ่งครึ่งหน้าจอของคุณเพื่อใช้คุณสมบัติมัลติทาส  วิธีอื่นๆ อีกมากมาย

การร่วมมือกันระหว่างซัมซุงกับ Google และ Microsoft ได้ยกระดับการใช้งานมัลติทาสกิ้งขึ้นอีกขั้น โดยแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Google รวมถึง Chrome และ Gmail ต่างรองรับการลากและวาง (Drag-and-Drop) จึงช่วยให้ผู้ใช้คัดลอกและแปะลิงค์ รูปภาพ และอื่นๆ จากแอปพลิเคชันหนึ่งไปยังอีกแอปพลิเคชันหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และในการใช้ Google Meet ผู้ใช้ยังสามารถเชื่อมต่อกับผู้คนได้มากขึ้นในขณะที่เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมเสมือนจริงต่างๆ รวมถึงการรับชมวิดีโอร่วมกันบน YouTube หรือการเล่นเกมด้วยกันผ่านวิดีโอคอล

ในส่วนของ Microsoft แอปพลิเคชัน Office ทั้งชุดและ Outlook ยังสามารถใช้ประโยชน์จากหน้าจอแบบพับได้ โดยแสดงข้อมูลบนหน้าจอได้มากขึ้นและมีวิธีในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเติมเต็มประสบการณ์มัลติทาสกิ้งด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน S Pen จึงช่วยให้ขีดเขียนและจดบันทึกได้แม้ในขณะไม่อยู่ประจำที่ โดยมีที่จัดเก็บเพรียวกระชับอยู่ภายในเคสแบบ Standing Cover with Pen

ในส่วนของกล้องมากับเลนส์มุมกว้างความละเอียด 50 ล้านพิกเซลพร้อมพลังซูม Space Zoom 30 เท่า โหมดกล้องถ่ายภาพหลากหลายแบบ ทั้งภาพแสดงการซูม (Zoom Map) ที่ใหญ่ขึ้นซึ่งเรียกใช้ได้ในโหมด Capture View การดูภาพสองหน้าจอ (Dual Preview) และการถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลัง (Rear Cam Selfie) ขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น เซ็นเซอร์ที่สว่างขึ้นถึง 23% ถ่ายภาพได้คมชัดสดใสแม้ในเวลากลางคืน

หน้าจอหลักขนาด 7.6 นิ้ว  ด้วยหน้าจอที่สว่างยิ่งขึ้น พร้อมอัตรารีเฟรชหน้าจอ 120Hz แบบปรับเปลี่ยนได้เอง และกล้องใต้หน้าจอ (Under Display Camera – UDC) ที่ซ่อนตัวได้เนียนตายิ่งขึ้นด้วยการจัดเรียงพิกเซลแบบ Scatter-type Sub-pixel รูปแบบใหม่ แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยอดฮิต อาทิ Facebook ได้รับการปรับแต่งให้สร้างประสบการณ์บนหน้าจอขนาดใหญ่ได้อย่างเหมาะสมที่สุดเพื่อให้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์ได้มากขึ้น หรือหากเปิดแอปพลิเคชันเพื่อบริการความบันเทิงแบบสตรีมมิ่ง เช่น Netflix ก็สามารถใช้โหมด Flex เพื่อรับชมได้โดยไม่ต้องถือเครื่อง ส่วนในแอปพลิเคชันที่ไม่ได้มีการปรับแต่งเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ Flex Mode Touchpad ควบคุมอุปกรณ์ได้โดยไม่ขัดจังหวะการรับชมคอนเทนต์อีกด้วย จึงให้ความแม่นยำในการสั่งหยุด เลื่อนย้อนหลัง และเล่นวิดีโอ หรือซูมเข้าและออกคอนเทนท์ในขณะที่อุปกรณ์อยู่ในโหมด Flex

เกมต่างๆ ก็เร็วแรงมากขึ้น ด้วยพลังเหลือเฟือของ Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform และเทคโนโลยี 5G  นอกจากบานพับซึ่งเพรียวบางยิ่งขึ้น น้ำหนักที่เบาลง และแม้แต่ขอบจอที่แคบลงแล้ว หน้าจอที่กว้างขึ้นยังทำให้ผู้ใช้สั่งงานโต้ตอบกับเครื่องได้ง่ายขึ้นในขณะที่ใช้หน้าจอด้านนอกโดยใช้มือเพียงข้างเดียว
โครงสร้าง Armor Aluminum และส่วนปิดบานพับ ตลอดจนกระจก Corning® Gorilla® Glass Victus®+ แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ใช้บนหน้าจอด้านนอกและกระจกด้านหลัง ทำให้ทั้งสองรุ่นน้ำได้ในระดับ IPX8

Galaxy Buds2 Pro ดีไซน์พรีเมียมพร้อมขีดสุดแห่งประสบการณ์เสียง

Galaxy Buds2 Pro สีม่วง

Galaxy Buds2 Pro ชุดหูฟังระดับสูงสุดรุ่นใหม่ ด้วยเทคโนโลยี Hi-Fi 24bit Audio ที่เหนือชั้น[26] ซึ่งให้ช่วงความกว้างของเสียงได้สูง คอนเทนต์ที่กำลังรับฟังด้วยความละเอียดเสียงที่ชัดกระจ่างสดใส และด้วย Samsung Seamless Codec (SSC HiFi) ใหม่ล่าสุด ทำให้สามารถถ่ายโอนเพลงที่มีคุณภาพโดยไม่ต้องหยุด และลำโพงแบบแกนร่วม (Coaxial) สองทาง
ดีไซน์ใหม่ และรูปทรงที่ออกแบบให้เข้ากับสรีระมีขนาดเล็กลงถึง 15% แต่สวมได้อย่างกระชับด้วยการออกแบบเชิงวิศวกรรมให้ป้องกันการหมุนขยับตัว  นอกจากนี้ยังรับสายเรียกเข้าได้เป็นอย่างดีแม้อยู่นอกอาคารสถานที่ ด้วยเทคโนโลยี ANC อันทรงพลังที่ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก

สามารถเปลี่ยนการเชื่อมต่อเสียงไปยังโทรศัพท์ได้อย่างราบรื่นเพียงปลายนิ้วสัมผัส ด้วยฟีเจอร์ Auto Switch เพื่อสับเปลี่ยนจากรายการทีวีโปรดเป็นรับสายได้อย่างง่ายดาย และหากคุณบังเอิญวางผิดที่ระหว่างการเดินทาง ก็หมดกังวลด้วยฟีเจอร์ SmartThings Find ช่วยค้นหาตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

ราคาและการวางจำหน่าย

Galaxy Z Flip 4 มากับสีม่วง (Bora Purple) สีเทา (Graphite) สีใหม่คือสีชมพูพิงค์โกลด์ (Pink Gold) และสีน้ำเงิน (Blue)[34] และ Galaxy Z Flip4 Bespoke Edition ที่วางจำหน่ายแล้วใน 28 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้เลือกผสมผสานสีสันของกระจกและกรอบได้หลากหลายถึง 75 รูปแบบ และยังเสนอการดูแลอัปเกรดแบบ Bespoke Upgrade Care สำหรับผู้ใช้ รุ่น Bespoke อีกด้วย

Galaxy Z Fold 4 และเคส Standing Cover with Pen จะนำเสนอในสีสันที่แสนประณีต ได้แก่สีเขียว (Graygreen) สีเบจ (Beige) และสีดำ (Phantom Black)  นอกจากนี้ Galaxy Z Fold4 ยังมีจำหน่ายในสีแดงเบอร์กันดี้ (Burgundy) พร้อมด้วยความจุของหน่วยเก็บข้อมูลที่มากถึง 1 เทระไบต์ โดยวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟทาง samsung.com

Galaxy Buds2 Pro มาในเฉดสีใหม่ ทั้งสีเทา (Graphite) สีขาว (White) และสีม่วง (Bora Purple)

Galaxy Z Flip4, Z Fold4 และ Buds2 Pro เริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วตั้งแต่ 10 สิงหาคม – 1 กันยายน 65 และจะวางจำหน่ายตั้งแต่ 2 กันยายน 65 เป็นต้นไป

  • Galaxy Z Flip 4 ราคา 35,900 บาท (128 GB) และราคา 38,900 (256 GB)
  • Galaxy Z Flip 4 Bespoke Edition ราคา 39,900 (256 GB)
  • Galaxy Z Fold 4 ราคา 59,900 (256 GB) และราคา 65,900 (512 GB)
  • Galaxy Buds 2 Pro ในราคา 3,990 บาท

สิทธิพิเศษ 5 ต่อ สำหรับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าระหว่าง 10 สิงหาคม 65 – 1 กันยายน 65 ที่ samsung.com, Samsung Experience Store และ ร้านค้าที่ร่วมรายการ

ต่อที่ 1:
Galaxy Z Flip4 เลือกรับ กระเป๋า BOYY BOBBY CHARM มูลค่า 8,900 บาท หรือ อัพเกรดความจุเป็น 2 เท่าฟรี! มูลค่าสูงสุด 6,000 บาท / Galaxy Z Fold4 อัพเกรดความจุเป็น 2 เท่าฟรี! มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท
ต่อที่ 2: ฟรี ประกันจอ Samsung Care+ 1 ปี เปลี่ยนจอฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ตามมูลค่าคุ้มครอง
ต่อที่ 3: ส่วนลดเพิ่มเติมจากค่าเครื่องที่นำมาแลกอีก 3,000 บาท เมื่อนำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาแลกซื้อ
ต่อที่ 4: ลูกค้านำโค้ดที่ได้จากการลงทะเบียนความสนใจ First to Unfold มาจองจะได้รับฟรี
เคส Slim Stand Cover มูลค่า 1,490 บาท เมื่อพรีออเดอร์ Galaxy Z Fold4 หรือ เคส Silicone Cover with Ring มูลค่า 1,190 บาท เมื่อพรีออเดอร์ Galaxy Z Flip4
ต่อที่ 5: ส่วนลด 30% สำหรับซื้อ Galaxy Watch5 Series เมื่อซื้อในคำสั่งซื้อเดียวกัน
*สินค้าแถมมีจำนวนจำกัด และไม่สามารถเลือกสีได้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ samsung.com

สั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่
Galaxy Z Flip4 https://smsng.store/_pr_global_unpacked
Galaxy Z Fold4 https://smsng.store/PRDigitalUnpacked

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Galaxy Z Flip4 and Z Fold4 ได้ที่เว็บไซต์ www.samsungmobilepress.com, news.samsung.com/global และ www.samsung.com/global/galaxy/

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

Back to top button