Review!

รีวิว Samsung Galaxy Buds Pro 2 หูฟัง True Wireless สุ้มเสียงโอ่อ่าในหน้าตาเรียบง่าย

Galaxy Buds Pro 2  หูฟัง True Wireless จาก Samsung  ที่จุดขายชูเรื่อง 24Bit มาพุ่งๆ  แต่เรามลองแล้วว่ามันมีดีที่จุดอื่นที่น่าสนใจกว่าเรื่องที่เขาเน้นมาตรงจุดนั้น และคงได้รับการปรับแต่งกับ AKG เช่นเดิมเพิ่มเติมคือความเรียบง่ายใส่สบาย อาจจะดูไม่เฟียสเท่ารุ่นเก่าๆ แต่ถ้าเน้นเอาเรื่องคุณภาพเสียง และคุณสมบัติการใช้งานล้วนๆ 

การตั้งค่า

ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนต่อไป แนะนำดาวนโหลด Galaxy Wearable  จาก Play Store กันก่อนนะครับ

การเชื่อมต่อง่ายแค่เปิดฝา

วิธีการเชื่อมต่อสำหรับโทรศัพท์ตระกูล Galaxy ของคุณก็แค่เปิดกล่องหูฟังแล้วก็รอการเชื่อมต่อเท่านั้นเองครับ แต่สำหรับ iPhone ยังคงต้องเชื่อม Bluetooth ได้เพียงอย่างเดียว

การลดเสียงเพื่อการสนทนา

การใช้งาน ANC คือไม่ต้องถอดหูฟัออกจากช่องหู เพราะระบบจะทำงานกับเครื่องได้เองที่เหลือเพียงแค่อธิบายว่าคุณสามารถหันไปคุยได้ ด้วยระดับเสียงปกติ  ส่วนเรื่องระบบการหรี่เสียงเมื่อมีการสนทนานั้นสามรถใช้งานได้จริง แต่มีบางสิ่งที่คุณต้องรู้นิดหน่อย คือด้วยการหรี่เสียงลงมานั้น เราจะต้องเนฝ่ายพูด ระบบถึงจะเริ่มทำงาน ฉะนั้นถ้าคู่สนทนาเป็นฝ่ายพูดก่อนระบบจะยังไม่ทำงานทันที จนกว่าเราจะริ่มเอ่ยปากพูด แล้วไมโครโฟนก็จะจับเสียงของเราเข้าไป แล้วจะหรี่เพลงให้อัตโนมัติ ซึ่งก็จะเป็นแบบนั้นไปตราบใดที่เรายังพูด และเมื่อไหร่ที่เราหยุดพูด ก็จะมีการทิ้งช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าระดับของเสียงเพลงจะดังเท่าเดิม

ตัดความกังวลเรื่องหูฟังหาย ด้วยแอป SmartThings Find

แอปนี้จะเป็นศูนย์กลางของ IOT ของซัมซุงก่อนหน้านี้ก็จะมีตัว Smart Tag คุณจะสามารถติดตามหูฟังของคุณได้แม้หูฟังจะไม่ได้อยู่ในเคสก็ตาม ซึงทั้งหมดนี้อาศัยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth

ตัดความกังวลเรื่องหูฟังหาย ด้วยแอป SmartThings Find

แอปนี้จะเป็นศูนย์กลางของ IOT ของซัมซุงก่อนหน้านี้ก็จะมีตัว Smart Tag คุณจะสามารถติดตามหูฟังของคุณได้แม้หูฟังจะไม่ได้อยู่ในเคสก็ตาม ซึงทั้งหมดนี้อาศัยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth

ที่เขาว่าเล็กลงกว่ารุ่มเดิม 15% มันมีผลยังไงบ้าง

ในแง่ของรูทรงหูฟังแบบ in-ear ซัมซุงเองก็พยายามทูฟังมาหลายทรง ซึ่งจากที่เราลองเองแล้วก็มีตัวนี้ล่ะที่ใส่แล้วสบายสุดใส่แล้วไม่หลุดจากหู

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น คือด้วยความกลมมนของตัวหูฟังมันฝังไปกับกระดูอ่อนขอหูด้านหลัง แล้วมันก็ไม่ได้จำเป็นต้องอิงกับกระดูกอ่อนด้านซ้ายมากนักเมื่อเทียบกับฟังทรงปกติทั่วไป การตอบสนองด้วยการกดปุ่มทำได้ไวมาก จนแค่การขยับหูฟังในช่องหูก็พรอมที่จะทำงานทันที  

ส่วนจุกหูฟังนั้นมีมาชุดเดียวนะครับ ถ้าต้องการให้พอดีกับช่องหู ต้องหาซื้อที่เป็น 3rd party ต่างหาก

แกะกล่องฟัง

チューズ・ミー / Choose Me – Yuiko Tsubokura

เราเลือกเพลงที่เป็น OST ของ Kimagure Orange Road (ถนนสายนี้เปรี้ยว)
มาทดสอบเพลงยุค 80’s คือ เคือด้วยตัวหูฟังมันทำให้เพลงมันดูโอ่โถ่งขึ้นกว่าที่เราเคยฟัง และมีภาพจำค่อนข้างเยอะ
จนถึงเสียงเล็กๆน้อยๆ ที่ทางฝั่งด้านขวา คือด้วยต้นฉบับมันเก่าพอสมควร คือฟังดีได้ขนาดนี้ถือว่าพอใจได้แล้ว

High Enough – Dawm Yankees

เรือเลือกเพลงนี้มาเพราะอยากทดสอบกับเสียงดนตรีที่เป๋นเครื่องสาย กีตาร์โปร่ง และมีความเป็น Ballad Metal
หูฟังตัวตัวนี้ตจะรักเลยล่ะ เรื่องความกระเดื่องนุ่ม ความชัดเสียบของกีตาร์โปร่ง รวมถึงร้องที่พุ่งดีมเลยล่ะ แต่
อาจจะไม่ใช่ในเรื่องของกีตาร์โซโล่ หรือพวกเสียงแตกที่พวกนี้มันจะซ่อนไปอยู่ซะข้างหลังไกลๆ แบบเลยไหล่ไปอีก
ทั้งที่ใน MV มือกีตาร์นี่ยืนลีดส์ท่ามกลางห่ากระสุนเลยนะ!

The Phantom Of The Opera – Andrew Lloyd Webber

เสียงเพรียกของปีศาจอุปรากรน่าจะเป็นเพลงที่ดึงความโอ่โถงออกมาได้พอสมควร สิ่งที่เรารู้สึกได้ก็คือ โอ่โถงในระดับราคาเท่านี้ที่ทำได้ไม่เลวเลยล่ะ แต่อย่างที่บอกเป็นแฟนท่อมที่ออกแนวนุ่มซักนิดนึง คือไม่รู้สึกถึงความเกรี้ยวกราดจากความมีปมเท่าไหร่

คือร้องอาจจะไม่คมมาก แต่กลองนี่มาบึ้มๆ กว้างๆ เลยล่ะ ฟังแล้วอาจจะไม่ได้บึ้มขนาดฟังการบรรเลงคลาสสิคคัลในฮอลล์แต่ว่าฟังแล้วไม่รู้สึกกระด้างข้างหูตัวเองแน่ๆ 

ถ้าเธอรักใครคนหนึ่ง – INK WARUNTORN

ถ้าจะถามว่าหูฟังตัวนี้เหมาะกับเพลงแนวไหนมาที่สุดก็คงต้องเพลงนี้ล่ะ คือด้วยเปียโนก็ดี เสียงร้องแบบพ๊อพก็ดี เครื่องสายที่ลากมากันมาแบบได้สมัสการของหางม้าที่ลากไป ความอลังมาในระดับที่ค่อนข้างเล่นใหญ่ได้ระดับหนึ่ง

วัดป่ะล่ะ? (Test Me) – 4EVE

เราเลือกเพลงฟังง่ายสมัยนิยมมาลองฟังดูบ้าง โทนของหูฟังของค่ายนี้ทรงบก็มาทางนี้ทุกรุ่นในช่วงหลังครับ
คือฟังดีกับเสียงสังเคราะห์ในเพลงฝั่งเอเชีย ที่ฟังสนุกโยกได้นิดๆ
คือการจัดสมดุลของเครื่องดนตรีนี่คือฟังดี เบสนี่ไม่ได้ล้นลั่น เสียงร้องนั้นฟังตรงกลางเป๊ะๆ

คือเราเลองเทียบกับกับเพลงไทยยุคใหม่ๆ ที่ไปในทางทางพ๊อพ ไม่ได้เน้นโฉ่งฉ่าง
คือโดยมากจะฟังดีบนหูฟังตัวนี้

ซื้อดีมั้ย Samsung Galaxy Buds Pro 2

ถ้าคุณเคยเป็นเจ้าของน้องถั่ว หรือ Galaxy Buds Live ผมก็คิดว่าน่าจะถึงเวลาอัพเกรดได้ เพราะแค่จำนวนลำโพงนั้นก็ต่างกันอยู่รวม แล้วรูปทรงของรุ่นใหม่ใส่สบายหูเยอะกว่ามาก รวมถึงเรื่องของการตัดเสียงรอบข้าง และ Voice Detect ด้วย ส่วนเรื่องการกันน้ำนี่ทิ้งห่างรุ่นพี่เป็นทุ่ง เพราะมากับ IPX7 ขณะที่รุ่นเดิมอยู่ที่ IPX 2

ส่วนชั่วโมงการใช้งานไม่ได้แตกต่างจากรุ่นพี่มากนักคือสูงสุด 5 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC และ 8 ชั่วโทงเมื่อปิด ANCถ้าไม่ได้คิดว่าชีวิตต้องอยู่ความเงียบอะไรมากจะปิด ANC ไปก็ได้ เพราะเพิ่มชั่วโมงการฟังมาอีกตั้ง 2-3 ชั่วโมง
เป็นหูฟังที่ใส่สบาย  ไม่หลุดง่าย แล้วให้คุณสมบัติยืดหยัดได้ลำดับที่ดีเมื่อเทียบกับคู่แข่งช่วงราคาเดียวกับคู่แข่ง
เว้นแต่คุณจะไปใช้กับ iPhone แค่นั้นแหล่ะ!

แล้วอย่าเผลอบ่นหรือพูดอะไรมาระหว่างฟังเพลงก็พอ เพราะไมโครโฟนมันไวมากจริงๆ แล้วคือพร้อมจะหรี่เสียงทันทีที่จับเสียงคุุณได้ เว้นแต่จะไปปิด Voice Detect ในแอป

อีกข้อคือ Samsung ไม่เคยทำหูฟังที่เหมาะกับดนตรี Rock หรือ Metal เลยนะ   คือมันใช้ฟังได้ล่ะ แต่อาจจะไม่แสบดาก ลากไป moshing วิ่งวนเหยียบมิด pit circle ซึ่งเขาก็ไม่เคยโฆษณามาในทางนี้ ฉะนั้นก็ไม่ได้ผิดอะไร เราแค่บอกไว้ให้ทราบเฉยๆ เท่านั้น

ถ้าชีวิตคุณเป็นคนฟังเพลงพวก Top 100 Thailand จาก Streaming ทั้งหลาย เพราะชวิตไม่ว่างพอที่จะขวนขวายหาอะไรมาฟังแปลกๆ ขออะไรที่ฟังง่ายสบาย ผ่อนคลายล้างหูแบบคนทำงานวัย 30 ขึ้นไป ตัวนี้ล่ะครับในงบ 6,000-7,000 คือได้อยู่ แต่ถ้าจะเอาหูฟังทรงร้านเหล้าฟังเอาความรู้สึกดนตรีสด แนะหูฟังค่ายนี้อย่าง Galaxy Buds 2 ดูจะเหมาะกว่า  

ขอบคุณ : Samsung Thailand ที่เอื้อเฟื้อสินค้าในการทดสอบครับ

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

Back to top button