Samsung Galaxy S24 เปิดตัวด้วยคำโปรยว่า “Galaxy AI ” ซึ่งหลังจากที่เราได้สัมผัสแล้วก้พอเห็นเค้าลางของ “ยุคสมัยใหม่ของสมาร์ทโฟนฝั่งแอนดรอยด์” ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เราจะมาแง้มเบื้องหลังความเป็นอัจฉริยะตรงนี้ครับ
เบื้องหลัง Galaxy AI ใน Samsung Galaxy S24
AI ที่ขับเคลื่อนอยู่ด้านหลังของ Galaxy S24 Gemini ซึ่งเป็นตระกูลโมเดล AI Model ของ Google. โดยเป็น Gemini รุ่นระดับกลางที่ออกแบบมาสําหรับงานต่างๆ จะขับเคลื่อนส่วนประกอบต่างๆ ของแอป Notes, Voice Recorder และผ่าน Keyboard ของ Samsung
Samsung Galaxy S24 เป็นอุปกรณ์ Android รุ่นที่สองที่เรียกใช้รุ่น Gemini Nano ถัดจาก Pixel 8 Pro ของ Google ซึ่งสามารถสร้างข้อความในรูปแบบต่างๆ กัน และนําเสนอสิ่งที่ Google อธิบายว่าเป็น “คุณสมบัติการสรุปที่ดีกว่า” ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้จะสามารถบันทึกการบรรยายโดยใช้เครื่องโทรศัพท์เพื่อทำการบันทึกเสียงการประชุม หรือทำการสรุปส่วนสําคัญของบทเรียน
นอกเหนือจาก Gemini แล้วในส่วนเรื่องของการสร้างภาพนั้น มาจากโมเดล Imagen 2 text-to-image ของ Google ซึ่งเปิดตัวที่ Google I/O เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติหนึ่ง Generative Edit ที่ทำให้ Galaxy S24 สามารถเติมส่วนของรูปภาพโดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมโดยรอบ
Google ยังกล่าวอีกว่า Samsung เป็นหนึ่งในพันธมิตรรายแรกที่ทดสอบ Gemini Ultra ซึ่งเป็นรุ่น Gemini ที่ใหญ่ที่สุดและมีความสามารถมากที่สุด ก่อนที่จะเปิดตัวในวงกว้าง
Google Gemini AI คืออะไร ?
Gemini AI คือนวัตกรรมล่าสุดของ Google ในด้านปัญญาประดิษฐ์ เป็น multimodal AI model ซึ่งหมายความว่าสามารถเข้าใจและดำเนินการกับข้อมูลประเภทต่างๆ ได้ รวมถึงข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ
1. ความสามารถหลายรูปแบบ: Gemini AI ผสานรวมการประมวลผลข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ
2. ประสิทธิภาพ : Gemini AI อ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-4 และผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์ในการทดสอบสติปัญญาที่หลากหลายรฦูปแบบ ซึ่ง Gemini AI เวอร์ชัน Ultra มีความสามารถเกินเกินกว่าโมเดล AI ที่มีอยู่ทั้งหมด รวมถึง GPT-4 เมิ่อเทียบกันด้วยเกณฑ์มาตรฐาน MMLU
3. เวอร์ชันสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน: Gemini AI มีสามเวอร์ชัน – Nano, Pro และ Ultra – แต่ละเวอร์ชันมีขนาดและความสามารถเพิ่มขึ้น¹ เวอร์ชัน Pro ถูกรวมเข้ากับ Bard ของ Google ซึ่งเป็นแชทบอตออนไลน์ และรุ่น Ultra ได้รับการตั้งค่าให้แสดงใน Bard Advanced¹
4. การพัฒนาซอฟต์แวร์ : Gemini AI ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เหนือกว่าในการพัฒนาซอฟต์แวร์ มีการอ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าการเขียนโค้ดของมนุษย์ถึง 85%
5. ความสามารถในการปรับตัว : Gemini ได้รับการอธิบายว่าเป็นโมเดลที่สามารถปรับให้เข้ากับงานที่หลากหลาย
เทคโนโลยีนี้ได้ถูกยกให้เป็นคู่แข่งกับ GPT-4 ของ OpenAI และคาดว่าจะเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการประมวลผล natural language โดย Gemini 1.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันแรกสำหรับสามขนาดที่แตกต่างกัน:
Gemini Ultra — โมเดลที่ใหญ่ที่สุดและมีความสามารถมากที่สุดสำหรับงานที่มีความซับซ้อนสูง
Gemini Pro — โมเดลที่ดีที่สุดของเราสำหรับการปรับขนาดในงานที่หลากหลาย
Gemini Nano — รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับงานบนอุปกรณ์
เรียบเรียงจาก :
https://techcrunch.com
https://deepmind.google/technologies/gemini
https://blog.google/technology/ai/google-gemini-ai/#performance