Review!

รีวิว Samsung Galaxy A51 เพราะชีวิตคือแฟชั่น และ passion คือท่องเที่ยว

Samsung Galaxy A51 คือการสานต่อความสำเร็จจาก A-series ของ Samsung ที่เริ่มต้นในปี 2019 กับโทรศัพท์ระดับกลางที่ยังคงสิ่งน่าสนใจจากเครื่องระดับเรือธง การกลับมาครั้งนี้มีดีที่เรื่องของการปรับใหญ่ในเรื่องของกล้อง การออกแบบ และแบตเตอรี่สำหรับพอใช้ได้ในทั้งวัน

มีอะไรที่เปลี่ยนไปใน Samsung Galaxy A51

ถ้ามองในแง่ของตำแหน่งทางการตลาด เครื่องรุ่นนี้ก็อยู่ในเครื่องระดับกลางที่เน้นไปที่ความเป็น fashion และการมี passsion สำหรับการท่องเที่ยว สิ่งที่เขยิบขึ้นไปแบบก้าวกระโดดจากรุ่นก่อนหน้าคือกล้อง  ความละเอียดกล้องหลังอยู่ที่ 48 ล้านพิกเซล ขณะที่รุ่นก่อนหน้านั้นจะอยู่ที่ 25 ล้านพิกเซล ก็ถือว่าเป็นการกระโดดข้ามไปไกลพอสมควรเมื่อเทียบกับระยะเวลาเพียงปีเดียว รวมไปถึงเลนส์มุมกว้างนั่นก็มีการเพิ่มความละเอียดด้วยเช่นกัน โดยเขยิบขึ้นมาอีกเล็กน้อย คืออยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล เพิ่มจากรุ่นเดิมซึ่งอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ส่วนมุมความกว้างของเลนส์ยังเท่าเดิมคือ 123 องศา
และที่สำคัญคือกล้องหน้าสามารถถ่าย VDO ที่ระดับ 4K

ขนาดตัวเครื่องนั้นอยู่ที่ 158.5 x 73.6 x 7.9 มม. และน้ำหนักเพียงแค่ 172 กรัม และในขณะที่ยังบรรจุแบตเตอรี่ 4,000 mAh นั่นถือว่าให้จุใช้ได้ในขนาดตัวเท่านี้ นั่นก็ทำให้รุ่นนี้เป็นโทรศัพท์ที่น่าพกไปเที่ยวด้วยไหนต่อไหนมากที่สุดเครื่องหนึ่ง 

ตัวฝาหลังเป็นพลาสติคแบบเดียวกับ Galaxy A71 ส่วนกระจกด้านหน้า
กระจก Gorrilla Glass 3 ด้วยขนาดตัวเครื่อง และหน้าจออาจจะไมได้ใหญ่มาก  
แต่ด้วยการออกแบบ Infinity-O ทำให้มีพื้นที่การแสดงผลที่ดูเต็มตา

ในเรื่องของพอร์ทการเชื่อมต่อนั้นเป็น USB Type-C โดยมากับชุดชาร์จไฟชขนาด 15W
ซึ่งรองรับการใช้งานแบบ Fast Charging ของ Samsung
และพกขุมพลังจากชิปเซ็ต Exynos 9611 ซึ่งทำให้เครื่องแรงกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย

ถ้าใจของใครยังอยากได้โทรศัพท์ที่คุ้มค่าต้องการหาโทรศัพท์ที่สามารถใช้ได้ 2 เลขหมาย เครื่องรุ่นนี้ก็ให้คุณสามารถได้ใช้ 2 ซิม และยังเหลือพื้นที่สำหรับใส่หน่วยความจำ microSD เพิ่มเติมได้สูงสุดถึง 512 MB รวมไปถึงยังมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 ให้อยู่ แต่เชื่อเถอะว่าด้วยสีของตัวเครื่องที่ออกม าคุณคงอยากได้ Galaxy Buds+ มาจัดเข้าคู่มากกว่าแน่ๆ เพราะฝาหลังนี่ดีไซน์จัดชัดจริง

เรื่องการรักษาความปลอดภัยทางชีวิภาพ ใช้การมีตัวอ่านลายนิ้วมือบนหน้าจอและการตรวจจับใบหน้าเฉพาะกล้องเท่านั้น จากเท่าที่เราลองก็สามารถใช้งานสแกนลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเราก็แนะนำให้ใช้ ขอแค่สละเวลาในการเก็บลายนิ้วมือตอนเริ่มต้นนิดหน่อยก็พอ

ในส่วนของ OS นั้นมากับ Android 10 และ One UI 2 แบบเดียวกับรุ่นพี่
แม้ว่าหน้าจอจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็ยังได้คุณจะได้รับเมนู Edge กับเขาด้วย ก็แบบเดียวกับเครื่องรุ่นก่อนหน้านี้ที่ขอบข้างเป็นจอโค้ง ซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าถึงเมนูลัดในการทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับเลือกการติดตั้งแอปพลิเคชั่นเองได้

กล้อง Samsung Galaxy A51

ในแง่ของการออกแบบกล้องหลัง ตำแหน่งของกล้องนั่นมีการเปลี่ยนไปจากเดิมเนื่องจากมีการดีไซน์ใหม่เพื่อรองรับการเพิ่มเป็นเลนส์เป็น 4 ตัว  ซึ่งตำแหน่งของกล้องบน Galaxy A51 และ A71 จะมาในทรงเดียวกัน และมีกล้องจำนวนเท่ากัน โดยประกอบไปด้วยเลนส์

48 ล้านพิกเซล, f/2.0 (wide)
12 ล้านพิกเซล, f/2.2, (ultrawide)
5 ล้านพิกเซล, f/2.4, (macro)
5 ล้านพิกเซล, f/2.2, (depth)
คุณสมบัติอื่นเพิ่มเติมคือ LED flash, panorama, HDR และสามารถถ่ายวิดีโอที่ 4K@30fps, 1080p ที่ 30/120fps

แอพกล้องถ่ายรูปเป็นแบบเดียวกับที่คุณพบใน Samsung ทุกรุ่น การเข้าถึงเมนูยังคงทำได้ง่าย สามารถเลือกปรับสัดส่วนภาพได้ตั้งแต่ Full , 1:1 , 16:9 ,4:3 ซึ่งเราสามารถเลือกให้เหมาะกับการโพสต์ลงแอพสายโซเชียลแบบง่ายๆ รวมไปถึงโหมดอื่นๆอย่าง Food  ,Macro ,Night และ  Pro ที่เราสามารถปรับการชดเชยแสง White Balance และ iso ได้อย่างยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง

โดยเราสามารถเลือก ISO (ในช่วง 100-800) การชดเชยแสง (-2 / + 2) และอุณหภูมิแสง) แต่ตัดตัวเลือกความเร็วชัตเตอร์ หรือโฟกัสแบบ manual ออกไป

แต่จากที่เราทดสอบมาตั้งแต่รุ่นก่อนหน้าจนถึงรุ่นนี้ เราก็ยังคิดว่านี่เป้นดทรศัพท์ที่เน้นกล้องถ่ายง่ายเร็วๆ สลับไปมาระกว่างกล้อง wide ธรรมดากับ ultrawide  คือการมี ultrawide ก็ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ในมุมมองใหม่ที่เก็บบรรยากาศรอบข้างได้มากขึ้น

ตัวอย่างภาพจากเลนส์ wide ของ Samsung Galaxy A51
ตัวอย่างภาพจากเลนส์ ultrawide ของ Samsung Galaxy A51
ตัวอย่างภาพจากเลนส์ wide ของ Samsung Galaxy A51

มาดูในส่วนของหน้าจอ และกล้องหน้ากันบ้าง เทคโนโลยีที่หน้าจอนั้นเป็นจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล อัตราส่วน 20: 9 ซึ่งอัตราส่วนก็มาเดียวแบบบรุ่นพี่เหลือพื่นที่สำหรับความบันเทิงอย่างภาพยนต์ หรือการแต่งภาพสวยๆ ในส่วนของกล้องหน้าก็มีการเปลี่ยนการออกแบบเป็นจอแบบ Infinity-O ฉะนั้นกล้องหน้าก็จะมีการย้ายตำแหน่งอยู่ที่กลางหน้าจอ

แม้ว่าจะมีการฝังกล้องหน้าสำหรับสำหรับกล้องเซลฟี ก็ยังเหลือพื้นที่สำหรับแสดงผลมากพออยู่ดี
และต้องขอบคุณเทคโนโลยี รวมถึงการออกแบบที่งทำให้ขนาดของตัวเครื่องนั้นบางลง

ใช่แค่ว่ามุมมองของกล้องในการถ่ายสองระยะจะมีแค่กล้องหลัง ที่เมนูของกล้องหน้าก็มีให้เลือกใช้แบบเดียวกันครับ จากการทดสอบเราก็คิดว่าถ้าได้แสงดีๆ แสงแดดจัดๆ ภาพนี่สีเข้มเต็มชัดใช้ได้ แต่ถ้าอยากจะกด HDR เติมอีกหน่อยก็พอไหว

ในส่วนของ effect การแต่งภาพสำหรับการถ่ายเซลฟีอย่างโทนสีสำเร็จรูป ความสว่าง การใส่ข้อความ หรือการวาดลายเส้นแบบ freehand ครับ

ถ่ายภาพแบบสร้างสรรค์ด้วย Samsung Galaxy A51

ในตัวของซอฟท์แวร์กล้องจะมีสึ่งหนึ่งที่เรียกว่า Live Focus ซึ่งเป็นการที่อาศับความสามรถของเลนส์กล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, f/2.0 ที่เป็นเลนส์ wide และเลนส์กล้องความละเอียด 5 MP, f/2.2, ที่เป็นเลนส์ depth เก็บภาพในเชิงลึก

1. ตอนที่ถ่ายภาพให้เราเลือกภาพ Live Focus ใน Gallery จะปรากฎข้อความ “Change background effect” แล้วกดไปที่ข้อความนั้นครับ

เราเรียนรู้ว่าเรื่องของการถ่ายด้วยโหมด Live Focus กันไปแล้ว มาลองดูการประยุกต์ใช้อีกแบบเพิ่มขึ้น โดยเราจะมาลองความสามารถของเลนส์ด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปจากมุมมองปกติให้มีสีสันที่ต่างกันไปจากเดิมครับ

1. เลือกรูปที่ถ่ายด้วย Live Focus จาก Gallery จะขึ้นคำว่า Change background effect
2. คำสั่งแรกคือ Blur ซึ่งเราสามารถเลือกระดับความชัดตื้นได้เอง ปรับได้ 9 ระดับ
ยิ่งแบบห่างจากฉากหรือมีความ contrast ของสียิ่งมีอะไรเล่นได้เยอะครับ
3. เลือกเมนูขวา Color Point คือการดูดสีออก เราสามารถปรับการดูดสีออกได้ถึง 7 ระดับ
เพื่อทำให้สีจางลงจากตัวแบบครับ เมื่อพอใจแล้วให้กดที่ปุ่ม Apply
4. ภาพที่ได้จะเป็นการทำฉากหลังนั้นจางลง และสีที่หายไป โดยสีที่หายไปจะเป็นส่วนใหญ่ของภาพ โดย AI จะคำนวณความน่าจะเป็นที่เหมาะสมให้ในการดูดนะครับ คราวนี้เราก็จะได้ภาพที่ฉากหลังมีมิติหรือ อารมณ์ของสีที่เปลี่ยนไปจากการถ่ายแบบปกติครับ

ซื้อดีมั้ย Samsung Galaxy A51

การเพิ่มความละเอียด 48 ล้านพิกเซลอาจจะดูเหมือนเพิ่มค่าพลังฝั่งตัวเลข แต่เชื่อเถอะว่าการที่เรามีไฟล์ภาพที่มีความละเอียดสูง และไฟล์ขนาดใหญ่พิเศษ ก็สามารถนำภาพไปทำอะไรสนุกๆอย่างอื่นได้อีกหลายอย่าง ส่วนกล้อง ultra wide นั่นก็คืออีกส่วนคือการปรับใหม่เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ความคมชัด และรายละเอียดยังทำได้อย่างดี

อย่างที่เรากริ่นไว้ตอนแรก ในอีกมุมนี่คือโทรศัพท์สำหรับคนที่มี passion ในเรื่องของการท่องเที่ยว การทำงานได้ดีในพื้นฐานสำคัญ ๆ นั้นยังคงจำเป็นอยู่ ด้วยโทรศัพท์มือถือที่เบามาก และได้หน้าจอขนาดใหญ่ และแบตเตอรี่ขนาดจุใจ ทำให้เรายังมีแบตเตอรี่เหลือเผื่อสำหรับการใช้งานแต่งภาพ แบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวขึ้นโลกโซเชียลได้อย่างสบายๆ 

ภาพถ่ายจาก Galaxy A51 นั้นให้เรารู้สึกสนุกมาก การตรวจจับและแยกตัวแบบ และคำนวณความเบลอของภาพจากนั้นโหมด Live Focus ทั้งกล้องหน้าหลังยังคงเป็นท่าไม้ตาย ถ้าอยากได้พื้นที่เก็บภาพถาายให้จุใจเวลาไปเที่ยวอย่าลทมซื้อ microSD ความจุสูงๆใส่เพิ่มไปนะครับ
เรื่องการชาร์จไฟก็ใส่มาให้เป็นแบบ Fast Charge 15W  ก็เหมาะสมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สมตัว ส่วนสีที่มีให้เลือกคือ สีดำ, สีขาว, สีน้ำเงิน และสีชมพูครับ

ขอบคุณ : Samsung Thaiand ที่เอื้อเฟื้อเครื่องในการทดสอบครับ

[button color=”red” size=”medium” link=”https://c.lazada.co.th/t/c.ZgicPV?url=https%3A%2F%2Fwww.lazada.co.th%2Fproducts%2Fsamsung-galaxy-a51-8128gb-i792708233-s1587146598.html&sub_aff_id=Trendymobile&sub_id1=Galaxy+A51&sub_id2=Facebook&sub_id3=Text” icon=”” target=”false” nofollow=”false”]สั่งซื้อ Samsung Galaxy A51 ที่นี่[/button]

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

Back to top button