Honor Choice คือผลผลิตเมื่อแบรนด์อย่างออเนอร์ลุกขึ้นมาทำหูฟังแบบ True Wireless เพื่อตอบสนองรุปแบบการฟังของผู้คนที่เปลี่ยนไป คือต้องการหูฟังตัวเล็ก สเปคไม่ต้องเยอะ ใช้คุยโทรศัพท์ได้ดีในราคาที่เราเองก็ตกใจคือเคาะราคามาต่ำพันบาท
สเปคหูฟัง Honor Choice
- ไมโครโฟนคู่แบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Dual- Mic Noise Cancellation)
- กันน้ำระดับ IP54
- แบตเตอรรี่ใช้ได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง (เมื่อรวมช่วงระยะเวลาใส่เคส)
- แบตเตอรี่ที่หูฟังความจุ 55 mAh
- แบตเตอรี่ที่ชาร์จเคสความจุ 500 mAh
หลังจากที่แกะกล่องมา ในกล่องไม่มีอะไรมาก คือมีคู่มือ มีสาย USB ให้มา 1 เส้นสั้นๆ และมีจุกยางสำหรับเปลี่ยน 1 ชุด ที่กล่องชาร์จก็ไม่ได้มีไรบอกมากนอกจากไฟสถานะในการชาร์จเล็กๆ 1 ดวง
การเชื่อมต่อกับ iPhone จะไม่ได้ขึ้นมาเป็นชื่อรุ่นนะครับ แต่จะขึ้นมาเป็น Wireless Headphone นี่ล่ะ แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อการเชื่อมต่อนะครับ ส่วนวิธีการการเชื่อมต่อนั้นก็เพียงแค่เปิดฝาแล้วทางฝั่งโทรศัพท์เข้าไปที่หัวข้อ Bluetooth แล้วก็กด Connect เพื่อทำการเชื่อมต่อระหว่างกันตามปกติครับ
ส่วนเรื่องของแอปพลิเคชั่นพิเศษสำหรับการควบคุมนั่นไม่มีมาให้ ก็เชื่อมต่อกันตรงๆ นี่ล่ะ
ส่วนพอร์ทการเชื่อมต่อที่ให้มานั้นเป็น USB Type C อันนี้ก็ทำให้เราสึกแปลกใจไปนิดนึงที่หูฟังในราคาต่ำกว่า 1,000 บาท สมัยนี้ให้มาเป็นพอร์ทนี้แล้ว เราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องดีอยู่แล้วล่ะ ซึ่งข้อนี้เราชอบมาก
หลังจากที่เราเสียบเข้าไปในหู เราก็คิดว่านี่เป็นหูฟังที่ใส่ง่าย ใส่สบายคู่นึงเลยล่ะ เพราะมันเป็น in ear แบบที่มีจุกยางด้วย เราทดสอบด้วยการใส่ออกกำลังในฟิตเนสก็ถือว่าใช้ได้อยู่ เพราะความชื้นจากเหงื่อนั้นต่างกันกับการใช้งานที่เป็นการออกกำลังกายแบบกลางแจ้ง ใส่เดินไปไหนมาไหนไม่ค่อยจะกลัวหลุด คือต้องอธิบายแบบนี้ก่อนกว่าหูฟัง in ear มันมีหลายทรง ซึ่งแต่ละทรงอาจจะไม่ได้เข้ากับใบหูทุกแบบ โดยเฉพาะใบหูที่มีกระดูกอ่อนแบนๆ แต่ถ้าเป็นลักษณะจุกแบบนี้ จะไม่ค่อยมีปัญหากับคนที่กระดูกอ่อนตรงหูมีความแบนกว่าปกติ
จากที่เราลองทดสอบการสนทนาด้วยการประชุมงานที่ร้านหมูกระทะ อ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมประชุมที่ร้านหมูกระทะจริงๆ ในเวลาช่วงหัวค่ำที่คนแน่นร้านด้วย! ก็ถือซะว่าทดสอบ Dual-Mic ไปในตัว ก็พบว่าไมโครโฟนทำหน้าที่ในการสนทนาได้ดี คือปลายทางฟังชัดแต่ก็ต้องเข้าใจในเรทราคาด้วยว่า คงจะไม่ได้สามารถดึงมาเฉพาะเสียงพูดของผู้ใช้ได้แต่ฝ่ายเดียว เพราะมีเสียงรอบข้างเองเข้าไปในไมโครโฟนด้วยบ้าง ส่วนการตัดเสียงรอบข้างอันนี้ไม่มีนะครับ แต่การที่มีจุกยางตามแบบของหุฟังแนวนี้ก็ปิดกั้นเสียงรบกวนภายนอกเข้ามาได้พอสมควร และที่เราชอบคือการที่หูฟังเป็น split-type คือใส่ข้างเดียวก็ได้ ถอดออกมาข้างใดข้างหนึ่ง อีกข้างก็ยังทำงานอยู่
ส่วนการแตะที่หูฟังนั้นกดค้าง 1 ครั้งคือหยุดเล่นเพลง กดค้างอีกครั้งคือ เล่นเพลง คือกดเบาๆ ก็พอครับไม่งั้นมันจะกดเข้าไปในหู
แกะกล่องลองฟัง Honor Choice Mocen
เกี่ยวกันไหม [ YOU? ] – อิ้งค์ วรันธร เปานิล
เราเลือก track นี้มาก่อน เพราะจากการทดสอบของเราจากหุฟังในช่วงราคานี้นี้ส่วนใหญ่จะให้เสียงเบสนุ่มหนุบหนับรับับการฟัเพลงแบบ city pop ยุค 80’s ที่มากับกลองไฟฟ้า กีตาร์คมขางๆ ที่วางอยู่ข้างหลัง แล้วดันเอาซินทิไซเซอร์ไว้ข้างหน้า คือถ้าอยากได่อารมณ์เหมือนฟังเครื่องเสียงยุคก่อนที่เบสทุ้มๆนุ่มๆ ร้องลอยตรงหน้าแบบมวลๆมีเนื้อหนังหน่อย ไม่ได้เน้นคมเปรี๊ยะๆ กับหูฟังตัวนี้ไปได้ดีอยู่
Dynamite – BTS
เราเลือกเพลงสมัยใหม่ที่กลับไปทำแบบย้อนยุค คือถ้าเพลงแรกที่เราลองข้างบนพาเราวนไปยุค 80’s เราก็จะพาคุณวนไปยุคที่ไม่ห่างกันแบบนั้นคือกลับไปที่ Disco เบาๆ กับเพลงนี้ดูบ้าง ผลลัพท์คือไม่หนีกันมากเท่าไหร่คือคือเบสนุ่มหนุบหนับสำหรับการเป็นพระเอก อาจจะไม่ได้ถึงกับเด้งมากในกรณีที่คุณปรับเป็น Flat เอาไว้ คือยังเหลือเผื่อที่ปรับได้นิดนึง เสียงร้องออกมาชัดไม่ถึงกับคมในะครับ ภาพรวมเสียงก็คล้ายๆกับเราฟังเครื่องเสียงรถยนต์แบบติดมากับรถแบบที่ดีหน่อย ตัวหางเสียงได้การทอดหางเสียงแบบนิดๆ ถ้าเน้นเยาขยับกอดคอมากับร้อง อันนี้ถือว่าตอบโจทย์ แต่ถ้าคาดหวังเรื่องการทอดตัวของเสียงที่น่าจะมี sustain อย่างเปียโน อันนี้คงจะไม่มี แต่ถ้าฟังแบบเอาสนุกเบาๆ นี่คือได้ คือส่งเสริมกดับเพลงทรงนี้อยู่
เรื่องของผู้ใหญ่ – Lomosonic
เรื่องความจัดจ้านในย่านร็อคของ Lomosonic อันนี้คือไม่ต้องเอาอะไรมางัดค้าน
คิอเพลงนี้เอาจริงๆ พลังในการส่งออกมาถือว่าจัดทั้งกลอง ทั้งการสาดกลอง กรือการรัวกระเดื่ออง หรือแม้กระทั่งการหวดหนังกลอง และการสำรองของบอยนักร้องนำ
คือฟังได้ล่ะ แต่ยังหูฟังยังไม่ดึงสิ่งที่เป็นพลังออกมา ทำให้เพลงดูแบนไปหน่อย คือถ้าซืื้อมาแกะเพลง มาฟังเพลง ร็อคคงจะไม่เหมาะ อย่าง Lomosonic นี่ก็ไม่ได้ถือว่าหนักมากนะ
สุดปัง – MILLI
เราลองกลับมาลองฟังเพลงที่เป็น Hip-Hop ที่เบสลงต่ำแบบยับๆ อย่างเพลงนี้ คือมันต้องฟังเพลงนี้ถึงจะสุดปังปะรงปังปี้ คือเบสลงลึกระดับที่ได้ยินถึงการสั่นสะเทือนของหางเสียงมาพอสมเลยล่ะ แต่เบสก็ออมาไม่ล้นนะ ตัวเนื้อเสียงร้องจับได้ถึงความละเอียดของหยาบกร้าน และความคมประมาณนึง แต่เสียงอย่างซินท์นั้นพุ่ง แต่อาจจะไม่ได้คมมาก คือถ้าเน้นเบสลูกขนาดกำลังดีแบบไม่ต้องมีเติมนี่ถือกำลังว่าดี
ซื้อดีมั้ย Honor Choice
ในความเห็นส่วนตัวเราคือ นี่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับหูฟังสาย budgets เพราะเขาก็ให้สิ่งที่ควรให้มาใน สำหรับความต้องการประมาณหูฟังในราคาต่ำกว่า 1,000 บาท
1. มันใส่สบายมั้ย หลุดมั้ย เรื่องนี้ควรมาก่อนความสวยเลยจริงๆ ตัวนี้ตอบโจทย์อยู่นะ คืออาจจะไม่ใช่หูฟังที่สวยจัด แต่ยัดใส่หูแล้วสบาย ผมใส่เดินไปไหนไม่หลุด ไม่ต้องกังวลมาก
2. พอร์ทการเชื่อมต่อควรจะเป็น USB Type C ซึ่งรุ่นนี้ก็มาให้อยู่แล้ว
3. ซื้อไปดูหนังแบบสตรีมมิ่งกับพวก Netflix พอไหวมั้ย คำตอบแบบนี้คือเอาไปใช้ได้ ไม่เจออาการเสียงไม่ตรง เสียงย่านต่ำที่ให้มาก็เหมาะกับการดูหนัง
4. เอาไปเล่นเกมดีมั้ย คือถ้าเล่นเกมแนวดนตรีเช่น Cytus ที่เน้นเสียงกระเดืองกล่องเน้นการจับจังหวะกลองแม่นๆ แบบนี้คือดีอยู่ครับ แม้บางจังหวะมันจะแน่นๆ หูไปหน่อย
5. ถ้าชอบความไฮเทคใส่หูต้องมีเสียงบอก ต้องมี Assistance ต้องมีระบบการค้นหา อันนี้ให้ลืมไปก่อน คือกลับมาที่ปัจจัยของหูฟัง True Wireless ที่ควรจะมี
หูฟัง Honor Choice True Wireless ราคา 849 บาท สั่งซื้อได้ที่ | JD Central