Tech!

iPhone 12 รวมเรื่องลือก่อนการเปิดตัว 13 ตุลานี้

การมาของ iPhone 12 ที่ทำให้ใครหลายคนในไทยต้องได้อดนอนในคืนวันที่ 13 ตุลาคมเพื่อรับชมการเปิดตัว นอกจากการเก็งกัรว่าจะมาพร้อมกับ 5G ยังมีสิ่งไหนที่เราน่าจะคาดหวังว่ามากากับการเปิดตัวครั้งนี้บ้าง

iPhone 12 มาทีขอมี 4 รุ่น

  •  iPhone 12 mini ขนาด 5.4 นิ้ว  ราคาน่าจะเริ่มต้นที่ 699 เหรียญสหรัฐ มี สีดำ ,ขาว ,แดง น้ำเงิน และเขียว มากับความจุ 64GB, 128GB และ 256GB
  • iPhone 12 ขนาด 6.1 นิ้ว   ซึ่งสเปคใกล้เคียงกัน หรือว่าเท่ากันกับรุ่นมินิ แต่มีขนาดหน้าจอเท่ากับ iPhone 11 ราคาน่าจะเริ่มต้นที่ $ 799 โดยมากับ สีดำ ,ขาว ,แดง ,น้ำเงินและเขียว  โดยมากับความจุ 64GB, 128GB และ 256GB
  • iPhone 12 Pro ขนาด 6.1 นิ้ว  ราคาน่าจะเริ่มต้นที่เริ่มต้นที่ 999 เหรียญ มีสีทอง สีเงินกราไฟต์ และสีน้ำเงิน  มากับความจุ 128GB, 256GB และ 512GB
  • iPhone 12 Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว  ราคาเริ่มต้นที่ 1,099 เหรียญ มีสีทอง สีเงินกราไฟต์ และสีน้ำเงิน มากับความจุ 128GB, 256GB และ 512GB

ข่าวนี้มีที่มาจากไหน ในขั้นต้นข่าวลือที่จะปีนี้จะมีออกมาสี่รุ่นนั้นมาจากนักวิเคราะห์คนดังอย่าง Ming-Chi Kuo ซึ่งความน่าเชื่อถือของเขานั้นมาจากการทำนายเกี่ยวกับสินค้าของ Apple ที่ผลนั้นแม่นยำออกมาหลายปีต่อเนื่อง และสิ่งยิ่งทำให้ข้อมูลนี้ดูมีมุลขึ้นมาอีกคือ  รายงานของ The Wall Street Journal ในเดือนเมษายนเช่นกัน และ Bloomberg ที่ออกรายงานอีกรายภายมาในเดือนกันยายน

ถ้าดูจากข้อมุลที่มีการเก็งกันอย่างคร่าวๆ สิ่งที่น่าสนใจคือ Apple เริ่มเดินหมากในการกินตลาดเริ่มต้นลงไปอีกโดยการส่ง mini ที่จอ 5.4 นิ้ว ซึ่งตลาดนี้เคยถูกวางด้วยตำแหน่งของ iPhone SE ปี 2020 และมีการรนำสีที่มาใหม่อย่างสีน้ำเงิน ซึ่งน่าจะเป็นเฉดเดียวกับ Apple Watch 6 ที่ปรากฎตัวมาก่อนหน้า

โบกมือลา สายชาร์จ และปลั๊กไฟไปซื้อเอาเอง

การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อันนำพามาซึ่งข่าวลือ คือว่า Apple จะถอดทั้งที่ชาร์จและหูฟังในกล่องโดยมีข่าวครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน และ Bloomberg ก็ยังรายงานแบบเดิมเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมว่ามีแผนจะถอดที่ชาร์จออกจากกล่องแน่ๆ

คือตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกจนถึงรุ่นก่อนหน้าก็ไม่เคยมีครั้งไหนท่่อแดปเตอร์จ่ายไฟ และหูฟัง จะไม่เคยถูกใส่มาไว้ในกล่อง ซึ่งมีการเก็งกันว่า ที่มีการการตัดสินใจนี้คือต้องการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์

แต่ก็มีข่าวตามมาอีกระลอกว่า จะมีกสรขายที่ชาร์จ 20 วัตต์ ถ้าข่าวนี้เป็นจริงอุปกรณ์ตัวใหม่ที่วางขาย จะชาร์จไฟได้เร็วกว่าเครื่องชาร์จที่ติดกล่องมา ซึ่งจ่ายไฟได้แค่ 18 วัตต์ที่มากับ iPhone 11 Pro และที่ชาร์จ 5 วัตต์ที่มาพร้อมกับ iPhone 11 แต่สายชาร์จนั้นน่าจะคงมีอยู่ เพราะมีถาดสำหรับขดสายออกมา

กล้องสี่ตัว แต่ iPhone และะได้รับ LIDAR ในรุ่น Pro Max

สำหรับรุ่นล่างนั้นไม่น่าจะผิดไปต่กกากที่มีการเก็งกันไว้ คือใส่กล้องสองตัว และกล้องสามตัวสำหรับรุ่นระดับไฮเอนด์  รุ่นบนสุดอาจได้รับเซ็นเซอร์ LIDAR ซึ่งมีการตรวจจับวัตถุโดยใช้เลเซอร์ สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น

  •  iPhone 12 mini และ iPhone 12 อาจมีเลนส์ Wide และ Ultra Wide
  • iPhone 12 Pro อาจมี Wide Ultra Wide & Tele Photo และ Optical Zoom 4X และเซ็นเซอร์ LIDAR
  • iPhone 12 Pro Max อาจมีWide Ultra Wide & Tele Photo และ Optical Zoom 4X และเซ็นเซอร์ LIDAR

ซึ่งเซ็นเซอร์ LIDAR ถูกใส่ให้กับ iPad Pros ครั้งแรกในเดือนมีนาคม และ “dynamic zoning algorithm” กับการออกแบบระบบของกล้อง TrueDepth ที่บางลงให้เหมาะกับหน้าจอ 5.4 นิ้ว    รมถึงการลือกันว่า Pro จะมีซูมออปติคอล 3 เท่าและซูมดิจิตอล 25x ถึง 30x ในขณะที่ iPhone 12 รุ่นธรรมดา จะซูมได้ดีขึ้นผ่านการปรับปรุงซอฟต์แวร์

ในปีนี้ Apple จะใช้เซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นและรูรับแสงกว้างขึ้น 35% สำหรับกล้องมุมกว้างพิเศษซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถโฟกัสวัตถุได้ใกล้ 2.2 ซม. คล้ายกับกล้องมาโคร สุดท้าย iPhone ใหม่ควรรองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 120fps หรือ 240 fps เช่นกัน

ซึ่งเซ็นเซอร์ LIDAR ถูกใส่ให้กับ iPad Pros ครั้งแรกในเดือนมีนาคม และ “dynamic zoning algorithm” กับการออกแบบระบบของกล้อง TrueDepth ที่บางลงให้เหมาะกับหน้าจอ 5.4 นิ้ว    รมถึงการลือกันว่า Pro จะมีซูมออปติคอล 3 เท่าและซูมดิจิตอล 25x ถึง 30x ในขณะที่ iPhone 12 รุ่นธรรมดา จะซูมได้ดีขึ้นผ่านการปรับปรุงซอฟต์แวร์

ในปีนี้ Apple จะใช้เซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นและรูรับแสงกว้างขึ้น 35% สำหรับกล้องมุมกว้างพิเศษซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถโฟกัสวัตถุได้ใกล้ 2.2 ซม. คล้ายกับกล้องมาโคร สุดท้าย iPhone ใหม่ควรรองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 120fps หรือ 240 fps เช่นกัน

หน้าจอ OLED ใน iPhone ทุกเครื่อง แต่อัตราการรีเฟรชล่ะ?

The Wall Street Journal และ Bloomberg ก็เห็นด้วย Apple วางแผนที่จะนำจอแสดงผลรุ่นใหม่ Super Retina XD มาใช้กับ iPhone ทั้งสี่ของปีนี้ซึ่งไส้ในยังเป็นหน้าจอ LCD ขณะที่ส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปใช้ OLED มาหลายปีก่อน รวมถึงประเด็นที่โทรศัพท์ Android รุ่น Flagship ต่างมากัยที่มีอัตราการรีเฟรชสูงเพื่อการเลื่อนภาพเคลื่อนไหวและเกมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น แต่ก็มีการคาดการกันว่า ไอโฟนรุ่นนี้น่าจะยังไม่เขยิบขึ้นไปในเรื่องนี้

MagSafe นั้น เคยถูกใช้ MacBook แต่มีแนวดน้มว่าจะถูกนำกลับมาใหม่ใน ไอโฟนรุ่นล่าสุด สำหรับรองรับการชาร์จไฟแบบไร้สายและเคส iPhone ที่ติดตั้งแม่เหล็ก
ซึ่งช่วยให้การจัดวางโทรศัพท์นั้นง่ายขึ้นเมื่อคุณวางไว้บนแท่นชาร์จ

iPhone 12 ไส่ในขุมพลัง A14

คาดว่า iPhone ของปีนี้จะมีโปรเซสเซอร์ที่ออกแบบโดย Apple อีกรุ่นหนึ่งเนื่องจาก Apple ได้รวมชิป Bionic A-series ที่เป็นตัวเลขรุ่นถัดไปเข้ากับ iPhone Bloomberg ยังคงรายงานต่อไปว่าขุมลพังความแรงของไอโฟนตัวใหม่หัวใจใมาจาก โปรเซสเซอร์ A14 ตัวเดียวกับที่ใน iPad Air รุ่นล่าสุด สิ่งสำคัณคือโดยเน้นที่การเร่งความเร็วการทำงาน AI และงาน AR

iPhone รุ่นแรกที่มี 5G

มีการคาดการณ์นี่จะเป็นรุ่นแรกที่รองรับเครือข่ายเซลลูลาร์ 5G ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์สามารถใช้ประโยชน์จากความเร็วเครือข่ายที่เร็วขึ้นได้ ซึ่มีข่าวลือกันว่าทั้งสี่รุ่นจะรองรับทั้ง sub-6GHz และ mmWave 5G แต่ก็มีข่าวล่าสุดบอกว่า mmWave จะเป็นมาตรฐานเฉพาะที่ขายในอเมริกาเท่านั้น หรือไม่ก็จะถูกใส่ไว้ในเฉพาะรุ่นบนสุดเท่านั้น

ที่มา : .www.theverge.com  /  www.mashable.com / www.iphonehacks.com/

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

Back to top button