Anthropic บริษัทวิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) รุ่นล่าสุดในตระกูล Claude คือ “Claude Opus 4” และ “Claude Sonnet 4” เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองโมเดลได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเขียนโค้ด การทำงานแบบมีเป้าหมาย (agentic capabilities) และความสามารถในการให้เหตุผลที่ซับซ้อน
“Claude Opus 4” ถูกวางให้เป็นโมเดลที่มีความสามารถสูงที่สุดในตระกูล โดย Anthropic อ้างว่า Opus 4 เป็นหนึ่งในโมเดล AI ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการเขียนโค้ด สามารถจัดการกับงานเขียนโค้ดที่ซับซ้อนและกินเวลานานได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการค้นคว้าและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น ฐานข้อมูลสิทธิบัตร งานวิจัยทางวิชาการ และรายงานการตลาด เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
” Claude Sonnet 4″ เป็นโมเดลที่เน้นความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความเร็ว ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Sonnet 3.7 อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในด้านการเขียนโค้ด Sonnet 4 เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความรวดเร็วและมีปริมาณมาก เช่น การสร้างผู้ช่วย AI สำหรับลูกค้า และการจัดการงานเฉพาะทางภายในระบบ AI ที่ใหญ่ขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจใน Claude 4
ประสิทธิภาพการเขียนโค้ดที่เหนือกว่า: ทั้ง Opus 4 และ Sonnet 4 แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่โดดเด่นใน SWE-bench ซึ่งเป็นชุดทดสอบสำหรับงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์
ความสามารถแบบ Agent ที่เพิ่มขึ้น: โมเดลใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อน AI agent ที่มีความสามารถสูงขึ้น สามารถทำงานหลายขั้นตอนและจัดการกับเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนได้
การให้เหตุผลและความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น: Claude 4 มีความก้าวหน้าในด้านการทำความเข้าใจและการให้เหตุผลในระดับสูง รวมถึงความสามารถในการประมวลผลข้อมูลหลากหลายรูปแบบ (multimodal capabilities)
Context Window ขนาดใหญ่: ยังคงรักษาขนาด Context Window ที่ 200,000 โทเค็น (ประมาณ 150,000 คำ หรือกว่า 500 หน้า) ช่วยให้สามารถประมวลผลและทำความเข้าใจข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ในคราวเดียว
ลดพฤติกรรมการหาทางลัด: Anthropic ระบุว่าได้ลดพฤติกรรมการ “โกง” หรือหาทางลัดของ AI ในการแก้ปัญหา ซึ่งช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
การเข้าถึงที่กว้างขึ้น: Claude Opus 4 และ Sonnet 4 พร้อมใช้งานผ่าน Anthropic API, Amazon Bedrock และ Google Cloud’s Vertex AI นอกจากนี้ยังมีการผสานรวมเข้ากับเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา เช่น GitHub Copilot
เครื่องมือและ API ใหม่: Anthropic ได้เปิดตัวความสามารถใหม่ๆ บน API เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาในการสร้าง AI agent ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น รวมถึงเครื่องมือ εκτέλεση κώδικα (code execution tool), model context protocol (MCP) connector, Files API และความสามารถในการแคชพรอมต์ (cache prompts)
การเปิดตัว Claude Opus 4 และ Claude Sonnet 4 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Anthropic ในการแข่งขันในตลาด AI ที่กำลังดุเดือด โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาโมเดลที่มีความสามารถสูง ปลอดภัย และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม