Huawei Watch GT 3 ยังคงนิยามความเป็นนาฬิกาสมาร์ทวอชสายถึก ที่มากับความความประณีตอย่างแท้จริง
หน้าปัดขนาด 42 มม. อัดแน่นกับคุณสมบัติสำหรับการวิ่ง และกีฬาอื่นๆ หน้าจอ Amoled การแสดงหน้าจอแบบ Always On ในราคาหมื่นต้นๆ
แกะกล่องลองเรือน
ตัวของสายนาฬิกานั้นก็จะใช้สายนาฬิกามาตรฐานทั่วไปรุ่นที่เราได้รับมาเป็นสายหนังคุณภาพก็ถือว่าจัดว่าอยู่ในระดับกลางๆก็สามารถใส่เข้ากับชุดที่เรียบหรูดูแพงได้ โดยหน้าจอหลักนั้นยังคงมีเมนูปกเมนูเช่นเดิมคือ Setting (ตั่งค่า) ,Drain (ไล่น้ำออก) ,Find my phone (ค้นหาโทรศัพท์) ,Do not Disturb (ห้ามรบกวน) ,Alarm (ตั้งปลุก) และ Screen On (ตั้งเวลาเปิดหน้าจอ)
หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว คมชัดระดับ 466 x 466 HD ฉะนั้นดูเวลากลางแดดได้สบายมาก
สิ่งที่เรารู้สึกได้ขึ้นมาคือ การทำงานของนาฬิกานั้นมีความเร็วขึ้นเล็กน้อยในการที่เราจะเรียกดูหน้าจอต่างๆสิ่งที่ให้มานั้นก็มีอย่างเช่นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ,การก้าวเดิน ,การจับเวลา ,การพยากรณ์อากาศ ,พร้อมเปิดรับบอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก , แสดงผลข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ และแจ้งระดับน้ำขึ้นน้ำลง
ในสวนในส่วนของโปรแกรมการวิ่งนั้นก็ยังคงเหมือนเหมือนเดิม ที่จะวัดตัว Heart Rate แล้วแสดงผลเรื่องของ AVG Pace ในส่วนที่เหลือนั้นก็จะเป็นอย่างเรื่องของการปั่นจักรยานซึ่งจะเน้นวัดในเรื่องระยะทาง
สำหรับการใช้งานเรื่องความอึดของตัวนาฬิกาเรื่องของระยะเวลาในการใช้งานยังคงเป็นเรื่องที่ดียังคงเป็นจุดเด่นที่ยังสามารถรักษาเรื่องนี้เอาไว้ได้ คือใช้ได้นานสูงสุด 14 วันสำหรับการใช้งานปกติ และใช้งานได้นาน 8 วันสำหรับการใช้งานหนัก ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่านาฬิกาเรือนนี้น่าสนใจกว่า Huawei watch 3 ซะด้วยซ้ำในเรื่องอายุการใช้งาน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่อยากชาร์จไฟใส่บ่อยๆ
ซึ่งโปรแกรมการออกกำลังกายอื่นๆนั้นก็ให้มาเยอะพอสมควรทั้งการว่ายน้ำทั้งในกลางแจ้งและนอกสถานที่การกระโดดเชือกปีนเขาเดินเขาวิ่งเทรลไตรกีฬาและอุปกรณ์อื่นๆในฟิตเนสอย่างเช่น Elipticall หรือ Rower ซึ่งอันนี้น่าจะเหมาะกับการฝึกซ้อมของนักกีฬาหรือว่าคนที่เข้าฟิตเนสรวมถึงรวมถึงโปรแกรมอื่นๆที่อาจจะไม่ได้อยู่ในนี้ ส่วนใครที่เคยมองหาจะมี Smart Watch ที่รองรับกับไตรกีฬา (Triathlon) บ้างมั้ย ซึ่งเรือนนี้ก็คือคำตอบ
ในส่วนของการแจ้งเตือนนั้นจากที่เราใช้เชื่อมกับ iPhone ก็สามารถเชื่อมต่อการแจ้งเตือนหลักๆอย่างเช่นการรับสายโทรศัพท์ SMS Instagram Twitter Facebook Messenger อันนี้คือสิ่งที่ดีเพราะว่า Smart Watch ในช่วงราคานี้ที่ไม่ใช่ Apple Watch ก็อาจจะไม่ใช่ทุกเรือนที่จะสามารถเชื่อมต่อกับ iPhone ได้ การตั้งเสียงเตือนยังคงทำได้เสียงดัง และสั่นแรงเหมือนเดิม .. ที่สำคัญรับสายโทรเข้าจาก iPhone ได้ด้วย
ในส่วนของซอฟต์แวร์ Huawei Health นั้น ในส่วนของตัวหน้าแรกจะแสดงผลของการวัดค่าที่เก็บมาไว้ทั้งหมดซึ่งเราจะสามรถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้ทั้งการออกกำลังกาย การนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจ ค่าอํอกซิเจนในเลือด ส่วนหน้าปัดนาฬิกาก็มีให้เราเลือกเปลี่ยนได้อยู่ในระดับหนึ่ง
ในส่วนตัวเรื่องของโปรแกรมการออกกำลังกายตั้งแต่เริ่มต้นอย่างวิ่ง 3 กิโล คนอาจเริ่มต้นการฝึกวิ่งหรือว่าการแข่งขันกับตัวเองตั้งแต่วิ่ง 5 กิโล ,10 กิโล ,ฮาล์ฟ มาราธอน ,มาราธอน ซึ่งมีผู้ช่วยส่วนตัว AI ในการช่วยวางแผน ซึ่งในหน้าของโฆษณาอาจจะไม่ได้บอกในเรื่องนี้มากนัก แต่เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นจุดขายที่น่าสนใจพอสมควร เพราะเราจะมีนาฬิกาที่แบตอึดไปทำไม ใครก็ทำแบตอึดได้แต่ความฉลาดมันต้องมาด้วย
ซึ่งเราจะเห็นว่ามีหน้าตรวจสอบตั้งแต่อัตราการเคลื่อนไหวการหายใจการนอนหลับกิจกรรมการดื่มน้ำแต่ว่าอาจจะด้วยความที่ว่าพวกเขาเพิ่งเริ่มต้นกับในเรื่องนี้เลยอาจจะไม่ได้ถูกออกมานำเสนอมากเท่าไหร่แต่ก็พอทำให้เราเห็นภาพได้ว่าอีกไม่นาน Huawei น่าจะมี Eco System ที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ออกมาอย่างชัดเจน
ซึ่งเราจะเห็นว่ามีหน้าตรวจสอบตั้งแต่อัตราการเคลื่อนไหวการหายใจการนอนหลับกิจกรรมการดื่มน้ำแต่ว่าอาจจะด้วยความที่ว่าพวกเขาเพิ่งเริ่มต้นกับในเรื่องนี้เลยอาจจะไม่ได้ถูกออกมานำเสนอมากเท่าไหร่แต่ก็พอทำให้เราเห็นภาพได้ว่าอีกไม่นาน Huawei น่าจะมี Eco System ที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ออกมาอย่างชัดเจน สำหรับคนที่ต้องการ Tracking เรื่องเส้นทางการวิ่งนั้น รุ่นนี้รองรับระบบดาวเทียม GPS, Beidou, GLONASS, Galileo และ QZSS
ซื้อดีมั้ย Huawei Watch GT 3
เลือกที่จะใส่คุณสมบัติในการที่จะดูแลตัวเองการออกกำลังกายโดยที่คุณสมบัติเรื่องของการดูแลตัวเองนั้นอย่างเช่นเรื่องของโภชนาการหรืออื่นๆอาจจะไม่ได้พบเห็นนาฬิกาเรือนนี้หรือว่าซอฟแวร์ของ Huawei เองแต่ก็ดูเหมือนเขาจะเลือกจะเจาะไปในตลาดที่รู้ว่าเขาจะอาศัยคุณสมบัติเช่นแบตเตอรี่ที่อื่นจอสู้แสงความทนทานที่คุณสามารถใส่ลงน้ำทะเลได้โดยที่นาฬิกาก็ขึ้นมาแล้วคุณแค่ล้างน้ำ แล้วสามารถใช้ได้เหมือนเดิมถึงความอึดถึกขนาดนี้ ก็สามารถทำได้เกินราคาไปพอสมควร
ถ้าคุณมีนาฬิกาหัวเว่ยรุ่นแรกก็น่าจะถึงเวลาที่คุณจะทำการเปลี่ยนเพื่ออัพเกรดได้รวมถึงแบตเตอรี่น่าจะถูกใช้ไปตามวงรอบพอสมควร ในส่วนวัสดุนั้นก็จะไม่ได้หนีจากเดิมมากเท่าไหร่ แต่ได้การได้คุณสมบัติที่ดีขึ้นในราคาที่เท่าเดิมนั่นก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่ ในเรื่องของขนาดนาฬิกา หรือว่าตัวหน้าจอเมนูนั้นคุณก็แทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไร
แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของนาฬิการุ่นที่ 2 การเปลี่ยนแปลงของรุ่นที่ 3 นั้นอาจจะยังไม่ได้มีความจำเป็นเท่าไหร่ที่จะรีบซื้อในทันที คุณอาจจะรอในช่วงที่มีการจัดโปรโมชั่นก็ได้เพราะคุณสมบัติหลักๆ ที่เราใช้งานกันนั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก เว้นแต่ว่าคุณอยากได้นาฬิกาเพิ่มอีกหนึ่งเรือน นั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอต่อการซื้อมาเพิ่มอีกเรือน
Huawei Watch GT 3 รุ่น Classic Edition ราคา 10,990 บาท
[button color=”primary” size=”medium” link=”https://u.jd.co.th/tLdhea5″ icon=”” target=”true” nofollow=”false”]สั่งซื้อที่นี่[/button]
ขอบคุณ : Huawei Thailand ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ในการทดสอบครับ