Review!

รีวิว Xiaomi 12  โทรศัพท์มือถือเล็กเบาเอาอยู่ คู่มือครีเอเตอร์

Xiaomi 12  ซึ่งในตระกูลนั้นถูกวางตำแหน่งว่าเป็นโทรศัพท์มือถือสำหรับครีเอเตอร์ แต่โดยภาพจำคนก็จะนึกถึงว่าจะต้องเป็นรุ่น Pro เท่านั้นที่พอโชว์พาวเอาศักยภาพออกมาได้ เอาจริงๆ เราก็เคยนึกแบบนั้นเหมือนกัน .. จนวันที่เจ้าตัวเล็กมาอยู่ในมือเราพักใหญ้ถึงได้รู้ว่าข้างในที่ใส่มาก็เอาอยู่

แกะกล่องลอง

หน้าจอ : ขนาด 6.73 นิ้ว แบบ AMOLED 120Hz, Dolby Vision รองรับ HDR10+ ,Corning Gorilla Glass Victus
ระบบบปฎิบัติการณ์ : MIUI 13 (Android 12) Qualcomm SM8450 Snapdragon 8 Gen 1
RAM : 256 GB / 8 GB
แบตเตอรี่ : ความจุ 4500 mAh

  • รองรับ Fast charging 120W แบตเตอรี่เต็ม 100% ภายใน 18 นาที
  • รองรับ Fast wireless charging 50W แบตเตอรี่เต็ม 100% ภายใน 42 นาที
  • รองรับ Reverse wireless charging 10W

ระบบเสียง : ลำโพงคู่ : ปรับแต่งโดย Harman Kardon
การเชื่อมต่อไร้สาย :

  • Bluetooth : 5.2, A2DP
  • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 ), dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot

สีที่มีวางจำหน่าย : เทา, ฟ้า, ม่วง ,เขียว

ในส่วนของกล้อง ถ้าคิดว่าตัวเล็กขนาดนี้จะมีส่วนที่ลดสเป็คลงไป อาจจะต้องใช้ความคิดซะใหม่
กล้องหลัง Wide – 50 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง Ultrawide – 13 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง Telephoto macro – 5 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า – 32 ล้านพิกเซล

ที่เขาใส่มานี่คือว่าไม่หย่อนไปกว่ารุ่นใหญ่สักเท่าไหร่นะ

คือสำหรับนักฟังเพลง รุ่นนี้ยังมีช่องหูฟัง 3.5 ให้คุณเลือกใช้สำหรับเสียบหูฟังแบบ Analog อยู่ เผื่อใครมีหูฟังดีๆ ที่ยังๆไม่อยากเปลี่ยนก หรือหูฟังตัวเก่าที่คุ้นเคยก็ยังสามารถเอามาใช้งานกันต่อได้   ส่วนลำโพงนั้นถูกจูนมาโดย Harman Kardon ซึ่งตำแหน่งในการวางโพงนั้น จะเหมาะกับการดูหนัง และฟังเพลง เพราะตำแหน่งการวางนั้นอยู่ที่ขอบล่างซ้ายขวา ซึ่งเรามองว่าการวางลำโพงตรงตำแหน่งนี้ ถ้าวางตรงที่วางโทรศัพท์แบบปล่อยข้างเสียงที่ได้จะให้ความมีมิติที่มากขึ้น

อ่อ .. บอดี้มาด้วยวัสดุแบบนี้ ถ้าชาร์จทิ้งไว้นานๆ ถามว่าเครื่องร้อนมั้ยอันนี้เราก็ตอบให้แบบจริงใจนะว่า “ร้อน” ครับ
โดยมาเวลาชาร์จผมเลยจะชาร์จแป๊บเดียวเอาให้เต็ม แล้วก็รุ่นนี้รองรับ 2 ซิม รองรับ Wi-Fi 6 สามารถใช้งาน 5G และมากับระบบปฎิบัติการณ์ Android 12, MIUI 

ความต่างของ 12 และ 12 Pro

ถึงแม้ว่าจะเกิดมาในฐานะพี่น้องที่คลนตามกันมาแต่ว่าก็ยังมีข้อแตกต่าง
ขนาดเครื่องตัวเครื่อง : รุ่น 12 จะอยู่ที่ 6.01 x 2.75 x 0.32 นิ้ว ส่วนรุ่น 12 Pro นั้น จะอยู่ที่ 6.44 x 2.94 x 0.32 in
น้ำหนัก 180 กรัม และ 205 กรัม

ชนิดของจอ และขนาด : รุ่น 12 จอขนาด 6.28 นิ้ว จะเป็น AMOLED, 68B colors, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+ ส่วนรุ่น 12 Pro จะเป็นจอขนาด 6.73 นิ้ว LTPO AMOLED, 1B colors, 120Hz, Dolby Vision, HDR10+โดยอัตราส่วนอยู่ที่ 20:9 ทั้งคู่

กล้อง : กล้อง ultrawide ของรุ่น 12 นั้นความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ขณะที่รุ่น 12 Pro จะความละเอียดที่ 50 ล้านพิกเซล กล้อง telephoto ของรุ่น 12 นั้นความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ขณะที่รุ่น 12 Pro ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล

แบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ของรุ่น 12 ความจุ 4500 mAh ขณะที่รุ่น 12 Pro ความจุ 4600 mAh รุ่น 12 Pro
และคุณสมบัติ Fast charging ของรุ่น 12 จะอยู่ที่ 67W และเต็ม100% ภายใน 39 นาที
Fast charging ของรุ่น 12 Pro จะอยู่ที่ 120W และเต็ม100% ถายใน 53 นาที

การถ่ายภาพ

เอาจริงเรื่องการถ่ายภาพในที่แสงน้อยกับรุ่นนี้นั้น  ต้องใช้ความคุ้นเคยกันระดับนึง คือถ้าแสงฟุ้งมากเราแนนำให้เล่นพวก Bokeh ไปเลยสวยกว่า ส่วนหกล้องหน้านั้นถ้าจังหวะแสงพอดี ถ่ายออกมา Skin Tone ดูดีได้ไม่แพ้ใครปม้ว่าจะไม่ได้ระบุจุดขายเรื่องนี้มากนัก  แต่เราก็ยังนำว่าพยายามลองเยอะๆ เอาให้รู้นิสัยใจคอ

ภาพตัวอย่างนี้เราทดสอบด้วยการใช้กล้องหน้าใน Potrait Mode ซึ่งซอฟท์แวรืละลายหลังได้ค่อนข้างเนียนในระยะไม่ห่างมาก
แต่ทีน่าสนใจคือ ตัวแบบจริงๆ นี่ผิวหน้าหน้าไหม้ไปแล้ว แต่ถ่ายมาสีผิวที่ใบหน้ายังเนียนใสอยู่
ภาพนี้ยังคงใช้ Portrait Mode เก็บภาพในแสงธรรมชาตืช่วงบ่าย การเก็บรายะลเอียเรื่องแสงเงา หารให้เฉดสีในช่วงกลางวันนั้นทำได้ดี และเมื่อฉากหลังทิ้งจากองค์ประกอบหลักด้านหน้ามากๆ การเบลอจัดว่าทำได้ดี
ภาพนี้เราทดลองถ่ายแบบ Clos Up เข้าไปที่ตัวแบบซึ่งเป้นน้องหมูมินิ ซึ่งตัวแบบจะเคลื่อนไหวไปมา ต้องหาจังหวะในการเข้าถ่ายด้วยความเร็วซึ่งตัวกล้องก้สามรถจับภาพด้วยความเร็วเป็นอย่างดี แต่ในส่วนของการละลายหลังบางส่วนยังดูออกว่าใช้ซอฟท์แวร์ช่วย
ภาพนี้เราทดลองถ่ายด้วยขาวดำ ในสภาพแสงปานกลาง การเก้บรายะลเอียดอยู่ในเกณฑ์ที่เราพอใจอยู่
คือเก็บความเข้ม และรายละเอียดปลีกย่อยได้พอสมควร
ภาพนี้เราทดสอบ Potrait Mode ในที่แสงน้อย เราลองปรับเลือก Bokeh ใหเพื่อเก้บแสงไฟให้เป็นดวงไฟเป็นวงกลมด้านหลัง
เรื่องของการปรับสภาพผิวหน้าต่ทำได้ดีกว่าที่เราคิด คือดูเนียนธรรมชาติต่างจากตัวจริงที่หน้าไหม้แดด
การปรับแสงสว่างทำได้ดีในสภาวะที่แสงบ้าง
สำหรับการถ่ายสภาพแสงค่อนข้างน้อยแบบนี้ การที่เราจะได้ภาพนี้มา การวัดแสงแบบอัติโนมัติ แสงที่ได้มันจะค่อนข้างฟุ้งครับ
แนะนำว่าใช้ AE Lock แล้วปรับแสงลงมานิดหน่อยแล้วจะเข้าที่พอดี

เทคนิคการจัดการรูปกับ Mi12

การถ่ายภาพด้วย Portrait Mode เป็นเรื่องสนุกที่เราอยากให้คุณลอง  โดยเทคนิคแรกเราสามารถปรับแต่งความเบลอของภาพได้ โดยเลือกภาพที่ใช้โหมดนี้ แล้วกดเลือกไปที่ไอคอนรูรับแสง จากนั้น ค่อยปรับเลื่อนค่า f ตามภาพ เพื่อปรับความเบลอมากน้อยตามใจขอบ

เวลาถ่าย Portrait มาหลายๆ ใบ แล้วจะเลือกเอาใบไหนดีที่จะใช้งานได้ เอาไปลง Facebook ลง IG แล้วให้ดูดีที่สุด ถ้าคุณใช้เวลาแล้วหยุดคิดนานมากไปก็ให้ AI ช่วยคิดสิ .. ทันทีที่คุณกดเลือกภาพใดภาพหนึ่ง AI จะทำการเลือก “Best Shot” โดยติดดาวให้เอง ซึ่งจะดูจากสภาพแสง ความคมชัด และอื่นๆ ซึ่งก็ทำให้เราประหยัดเวลาดีครับ

ก่อนที่จะนำรูปพิมพ์ผ่านครื่องพิมพ์ด้วย Share to เรายังสามรถแต่งภาพให้สมบูรณ์ได้อีกครั้งด้วยการกดที่ปุ่ม “Beauty” เพื่อความสว่าง และชัดใสให้ภาพเพื่อให้เหมาะสมกับการนำลงกระดาษอัดครับ

ในหน้าเมนูควบคุมการถ่าย การใช้งานคล้ายๆกล้องมือถือโดยทั่วไปไม่ต้องไปปรับตัวอะไรเยอะ แต่ที่เราแนะนำอยาให้กดเข้าไปที่ “More” คุณจะเจอชุดเมนูสุดหรรษารออยู่อย่าง 50MP ,Panorama , VLOG ,Night Video Shot , Document ,Slow Motion, Time Lapse ,Long Exposure ,Dual Video ,Clone  แต่ทั้งนี้คุณต้องทำการดาวน์โหลดมาเก็บไว้ก่อนนะครับสำหรับ preset เหล่านี้

ซึ่งชุด preset 2 อันที่เราแนะนำครีเอเตอร์มือใหม่ว่าลองใช้เถอะ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจสำหรับการถ่ายคลิปนั่นก็คือ VLOG ที่มีชุด Scence สำเร็จรูปสำหรับช่วยหามุมและความยาวในการถ่ายเปิดหัวเรื่อง และ Dual Video สำหรับการถ่ายด้วยกล้องหน้าหลังพร้อมกัน ก็เหมาะดีสำหรับการเดินเล่าเรื่องราว

ซื้อดีมั้ย Xiaomi 12

ด้วยขนาดตัวเครื่องที่เล็ก ถ้าอยากหาโทรศัพท์สำหรับใช้งานแบบพกง่าย ถ่ายวิดีโอกรุบกริบ หยิบใส่ gimbal แล้วหัวไม่ปักคือสมัยนี้โทรศัพทืส่วนมากตัวเครื่องใหญ่จอใหญ่น้ำหนักเยอะจนใส่ gimbal ยาก  .. ตัวนี้ล่ะตอบโจทย์ใช้ได้ใช่เลย!
แต่ถ้าเน้นถ่ายวิดีโอจริงจังระดับใส่ Rig ถือสองมือ ขอตัวเครื่องใหญ่ๆ แบบผู้ชายจับถนัดมือ คือเรายังแนะนำรุ่น Pro มากกว่า    กันสั่นในตัวก็มีมาให้ในระดับพอใช้ได้  การเชื่อมต่อ internet รองรับ Wi-Fi 6 รองรับ 5G รับส่งไฟล์นอกสถานที่นี่พอไหว   ส่วนขอบจอโค้งๆ สำหรับครีเอเตอร์แนะนำว่าใส่เคสจะถนัดมือกว่ารวมถึงเรื่องความร้อนของเครื่องด้วย  การที่ใส่ลำโพงมาสองตัวซ้ายขวาจัดว่าดีสำหรับคนที่ต้องการลองฟังเสียงผ่านตัวเครื่อง  ส่วนการที่ม่ไมีหูฟัง 3.5 แนะนำว่าหา Type C Adapter หรือว่าหูฟัง True Wirelesss สักคู่ก็พอใช้กันไปได้
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ ที่นี่

ขอบคุณ Xioami Thailandที่เอื้อเฟื้อเครื่องในการทดสอบครับ

jetboat

Jetboat is a Bangkok-based tech blogger and has more than ten years of blogger sence in Thailand Specializes in mobile application , tech industries , security ,gadget, mobile marketing ,social network.

Related Articles

Back to top button